ฤดูกาล 2555 เรียกได้ว่าเป็นปีทอง หรือ โกลเด้น เยียร์ ของการแข่งขันชนิดที่เหล่าแฟนกีฬาต้องกากบาทกันเกือบทุกเดือนเพื่อเตือนความจำว่าแต่ละทัวร์นาเมนท์นั้นจะเริ่มขึ้นและจบลงไปเมื่อใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งยูโร 2555 และ โอลิมปิก ลอนดอนเกมส์ ที่กลายเป็นทัวร์นาเมนท์ต่อเนื่องชนิดไม่ให้กองเชียร์ได้หยุดพักหายใจ นอกจากนี้ยังเป็นปีทองของวงการกอล์ฟที่ไรเดอร์ คัพเวียนกลับมาถึงการแข่งขันอีกคำรบ ขณะที่วงการลูกสักหลาดนั้นเมื่อใดที่ชนกับโอลิมปิกเหล่านักเทนนิสต่างกระหายที่จะเป็นผู้คว้าเหรียญทองเพื่อสร้างตำนานโกลเดนท์สแลมให้กับตนเอง
ส่วนแวดวงลูกหนังไทยปี 2555 คือครั้งแรกที่สโมสรฟุตบอลจากเมืองไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (บุรีรัมย์ พีอีเอ เดิม) ได้เป็นตัวแทนในการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกหลังจากถูกยกเลิกสิทธิมาถึงสามปี และก่อนที่จะสัมผัสกับบรรยากาศของทัวร์นาเมนท์ใหญ่แฟนลูกหนังชาวไทยจะได้ประเดิมรายการฟุตบอลระดับตำนานอย่าง คิงส์คัพ ส่วนผลจะเป็นอย่างที่หวังหรือไม่แฟนลูกหนังกาปฏิทินรอกันได้เลย
คิงส์คัพ ตำนานลูกหนังสี่เส้า 15-21 มกราคม 2555
นี่คือทัวร์นาเมนท์สำคัญของวงการลูกหนังไทยด้วยชื่อที่บ่งบอกอยู่แล้วว่าคิงส์คัพ คือการแข่งขันเพื่อชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยังเป็นการแข่งขันที่จัดกันมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2511 สำหรับการชิงชัยในปี 2555 จะเป็นการแข่งขันครั้งที่ 41 โดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้รับการตอบตกลงเข้าร่วมการแข่งขันจาก เดนมาร์ก แชมป์เก่า, นอร์เวย์ และเกาหลีใต้ ซึ่งระบบการแข่งขันจะเป็นในรูปแบบที่สี่ทีมพบกันหมด
ซึ่งกว่าที่โปรแกรมการแข่งขันจะลงตัวได้ในระหว่างวันเวลาดังกล่าวต้องถูกเปลี่ยนหมายกำหนดการกันหลายครั้ง และแทบจะเรียกได้ว่าเป็นคาแรคเตอร์ของผู้บริหารสมาคมฟุตบอลในยุคนี้ไปแล้ว แต่สุดท้ายทัวร์นาเมนท์เก่าแก่ของวงการลูกหนังไทยก็ได้จัดขึ้นแม้ว่าจะมีเสียงค่อนขอดมาว่า ทั้งแชมป์เก่าและอีกสองทีมที่เหลือนั้นส่งแค่ทีมเล็กมาอุ่นเครื่อง แต่ไม่ว่าจะเป็นทีมเล็กหรือทีมชุดใหญ่หน้าที่ของขุนพลช้างศึกคือการสร้างรอยยิ้มให้กับแฟนบอลชาวไทยหลังจากตกรอบซีเกมส์ชนิดที่คนทั้งประเทศเจ็บกระดองใจกันข้ามปี
ซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 46 กับ มาดอนน่า ฮาล์ฟไทม์โชว์ 5 กุมภาพันธ์ 2555
สำหรับอเมริกันฟุตบอล ศึกซูเปอร์โบวล์ เปรียบเสมือนการแข่งขันชิงแชมป์โลกจากการที่เอาแชมป์สายระหว่าง เอ็นเอฟซี (NFC) และ เอเอฟซี (AFC) มาพบกันโดยมีฮาล์ฟไทม์ โชว์ เป็นของหวานระหว่างการพักครึ่ง สำหรับฟินาเล่ ของศึกคนชนคนในฤดูกาล 2011-2012 จะมีขึ้นในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2555 โดยจะทำการแข่งขันกันที่ สนาม ลูคัส ออยล์ สเตเดี้ยม อินเดียนนาโปลิส
ส่วนฮาล์ฟไทม์โชว์ประจำ ซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 46 นั้นเรียกเสียงเป่าปากได้ทั่วทั้งวงการเลยทีเดียวเมื่อฝ่ายจัด ใจถึงเลือก มาดอนน่า ขึ้นเวทีชนิดไม่กลัวประวัติศาสตร์ เจเน็ต-จัสติน มาซ้ำรอย เมื่อเอ็นเอฟจัดเต็มทั้งการแสดง และ สนามรวมไปถึงทีมการแข่งขันขนาดนี้แฟนกีฬาคนชนคนจึงพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
บุรีรัมย์ สู่เอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก 7 มีนาคม - 10 พฤศจิกายน 2555
นับเป็นความสำเร็จอันต่อเนื่องของทีมปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (เปลี่ยนชื่อจากเดิม บุรีรัมย์ พีอีเอ) เพราะนอกจากตำแหน่งแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกแล้ว นี่คือครั้งแรกที่สโมสรจากลีกอาชีพประเทศไทยจะได้เข้าร่วมการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก (ศักดิ์ศรีเทียบเท่ากับ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกของ สโมสรในยุโรป) หลังจากที่ถูกตัดสิทธิให้เข้าร่วมนานถึงสามปี โดยทีมแชมป์ลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีก 2011 ต้องหักด่านหินตั้งแต่รอบแรกของศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก หลังจับสลากไปอยู่ร่วมสายกับ กวางโจว(จีน), ชุนบุค มอเตอร์ (เกาหลีใต้) และ คาชิวา เรย์โซล (ญี่ปุ่น)
แม้จะอยู่ในสายแข็งที่ต้องเจอกับทีมยักษ์จากจีน เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น หากทีมปราสาทสายฟ้าของ “พี่เน” ยังคงเต็มร้อยเพราะนอกจากนักเตะต่างชาติที่พร้อมพรัก เงินอัดฉีดชนิดไม่อั้นน่าจะทำให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีลุ้นไม่มากก็น้อยส่วนคนที่จะมีแต่ได้กับได้ เห็นจะหนีไม่พ้นผู้ชายที่บอกว่าเวลานี้ทุ่มหัวใจให้กับฟุตบอลเพียงอย่างเดียวที่ชื่อ เนวิน ชิดชอบ
ยูโร 2012 เจ้าภาพร่วมโปแลนด์ ยูเครน 8 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2555
ดูเหมือนสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า จะติดกับการจัดการแข่งขันแบบมีเจ้าภาพร่วมและในการแข่งขันยูโร 2012 หรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ดินแดนในยุโรปตะวันออกอย่างโปแลนด์ และ ประเทศเกิดใหม่หลังความล่มสลายของสหภาพโซเวียต อย่าง ยูเครน กลายมาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันชนิดที่นักฟุตบอล สื่อมวลชน และ แฟนลูกหนังจากทั่วโลก ต้องพลิกแผนที่สำรวจสองประเทศนี้กันจ้าละหวั่นเลยทีเดียว
สำหรับการแข่งขันได้มีการจับสลากแบ่งสายเป็นที่เรียบร้อย โดยทีมที่อยู่ในความสนใจของคนไทยอย่าง "สิงโตคำราม" อังกฤษ เจองานไม่หนักมากในรอบแบ่งกลุ่มเมื่อถูกวางให้อยู่ในกลุ่มดีร่วมกับ ยูเครน เจ้าภาพร่วมพร้อมด้วย สวีเดน และ ฝรั่งเศส ส่วน "แชมป์เก่า" สเปน อยู่กลุ่มซีร่วมกับ อิตาลี ไอร์แลนด์ และ โครเอเชีย ขณะที่ "กรุ๊ปออฟเดธ" หนีไม่พ้นกลุ่มบีที่ประกอบด้วย ฮอลแลนด์ เดนมาร์ก เยอรมนี และ โปรตุเกส ส่วนกลุ่มเอ โปแลนด์ อีกหนึ่งเจ้าภาพร่วมมีลุ้นผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์จากการมีเพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง กรีซ รัสเซีย และสาธารณรัฐเช็กทั้งนี้ ศึกฟุตบอลยูโร 2012 ที่ยูเครนและโปแลนด์ จัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม โดยเกมนัดเปิดสนาม โปแลนด์ จะเตะกับ กรีซ อดีตแชมป์เมื่อปี 2004
ลอนดอนเกมส์ โอลิมปิก 2012 27 กรกฎาคม - 12 สิงหาคม 2555
เมื่อเวลาเวียนมาครบรอบสี่ปีคบเพลิงของการแข่งขันกีฬาแห่งมนุษยชาติจะถูกจุดขึ้น และปีนี้แสงไฟอันเป็นสัญลักษณ์ของการแข่งขัน สปริตแห่งกีฬา และ มิตรภาพอันไร้พรมแดนจะลุกโชติช่วงในสนามเวมบลีย์ สเตเดี้ยม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่รับหน้าที่เมืองเจ้าภาพการแข่งขัน ซึ่งนับว่าเป็นโอลิมปิกที่คนทั่วโลกให้ความสนใจมากที่สุดครั้งหนึ่งก็ว่าได้ เพราะนี่การหวนมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้งของลอนดอน หลังจากได้เป็นเจ้าภาพครั้งสุดท้ายในปี1948
สำหรับลอนดอนเกมส์ และจนถึงเวลานี้ทุกอย่างได้ถูกจัดเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว หากแต่ประธานจัดการแข่งขันอย่าง ลอร์ด เซบาสเตียน โค ยังคงนอนไม่หลับจนกว่าการแข่งขันตลอดสองสัปดาห์จะผ่านพ้นไปนั่นคือ “ปัญหาการก่อการร้าย” โดยเจ้าภาพเตรียมพร้อมด้วยการจัด หน่วย “เอสบีเอส” "สเปเชียล โบท เซอร์วิส" (Special Boat Service) กองกำลังติดอาวุธครบมือพร้อมปฎิบัติการมีเป้าหมายหลักคือต่อต้านการก่อการร้ายและหน่วย "สเปเชียล แอร์ เซอร์วิส" (Special Air Service) หน่วยรบพิเศษทางอากาศของกองทัพอังกฤษที่ได้รับการยกย่องพอๆ กับ เดลตา ฟอร์ซ และ ซีล ของสหรัฐฯซึ่งการเตรียมความพร้อมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากหน่วยข่าวกรองรัฐบาลอังกฤาได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มผู้ก่อการร้ายเตรียมสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวโลกโดยใช้ลอนดอน 2012 เป็นเป้าหมาย
วงการเทนนิสกับปีแห่ง โกลเดนสแลม มกราคม - กันยายน 2555
ถือเป็นความเกี่ยวเนื่องกันระหว่างโอลิมปิกและวงการลูกสักหลาดโลก เพราะการได้ครอบครองเหรียญทองของการแข่งขันโอลิมปิก หมายถึงโอกาสที่จะทำโกลเดน สแลมอันหมายถึงการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ครบทั้งสี่รายการและมีเหรียญโอลิมปิกเป็นเกียรติยศสุดท้าย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมามีนักเทนนิสเพียงแค่สามรายเท่านั้นในประเภทเดี่ยวที่ สามารถบันทึก โกลเดน สแลม ลงในประวัติผลงานของตนเอง คนแรกคือนักเทนนิสหญิงระดับตำนานจากเยอรมัน สเตฟี่ กราฟ ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาครองได้ในปี 1988 หลังจากคว้าแกรนด์สแลมมาครบทุกรายการ ส่วนคนที่สองคือหวานใจของคนแรก อังเดร อากัสซี่ ที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกปีได้ในปี 1996 และรายสุดท้ายคือ ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสหนุ่มจากสเปนที่ดับฝันโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในการทำโกลเดนสแลมในปี 2008 ด้วยการคว้าเหรียญทองมาครอง
สำหรับปีนี้ นักเทนนิสเจ้าถิ่นอย่าง แอนดี้ เมอร์เรย์ กลายเป็นความหวังของคนทั้งชาติในการคว้าเหรียญทอง และเจ้าตัวเองก็แสดงเจตจำนงที่จะพิชิตเหรียญทองในถิ่นตนเองให้ได้ ส่วนจะไปถึงฝันหรือผลการแข่งขันจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เช่นเดียวกับ โนวัค ยอโควิช ที่แม้ช่วงปลายปีที่ผ่านมาจะเผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บ แต่ในฐานะนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งโลกคงไม่ใช่เรื่องที่จะมายอมกันง่ายๆ
ศึกแห่งศักดิ์ศรีสองทวีป ไรเดอร์ คัพ 25-30 กันยายน 2555
หลังจากปี 2553 ทีมยุโรปคว้าแชมป์ไรเดอร์ คัพไปครองชนิดเฉือนทีมพญาอินทรีย์กันไปแต้มเดียว เมื่อวันเวลาผ่านมาครบวาระที่จะต้องดวลสวิงกันอีกครั้ง สหรัฐฯน่าจะกระหยิ่มอยู่ไม่น้อยเพราะหนนี้รับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันที่สนาม เมดินาห์ คันทรีคลับ ระยะ 7,561 หลา พาร์ 72 ตั้งอยู่ที่เมืองเมดินาห์ รัฐอิลลินอยส์ระหว่างวันที่ 25-30 กันยายน 2555 ซึ่งหนนี้ทั้งทีมสหรัฐฯ และ ยุโรป ใช้กัปตันทีมใหม่เอี่ยมถอดด้ามทั้งคู่
โดยทีมสหรัฐนั้นใช้อดีตโปรชื่อดังอย่าง เดวิส เลิฟ เดอะเธิร์ด มาทำหน้าที่เลือกลูกทีม ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะปรากฎชื่อของคลื่นลูกเก่าอย่างไทเกอร์ วูดส์ และ ริกกี้ ฟาวเลอร์ ในลิสต์รายชื่อของ เดวิส เลิฟค่อนข้างแน่นอน ส่วน ฟากของยุโรปนั้นใช้นักกอล์ฟระดับตำนานอย่าง โฆเซ มาเรีย โอลาซาบัล ทำหน้าที่กัปตันทีมซึ่งโอลาซาบัล นั้นอยู่ในสถานที่มีตัวเลือกมากกว่า เดวิส เลิฟ เพราะถึงเวลานี้ชื่อของ รอรี่ย์ แมคอิลรอย และ ลุค โดนัลด์ น่าจะอยู่ในห้วงคำนึงของ โอลาซาบัลเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
6 แชมป์โลกบนแทรค เอฟวัน มีนาคม - พฤศจิกายน 2555
มิคาเอล ชูมัคเกอร์, คีมี่ ไรค์โคเนน, เฟร์นานโด อลอนโซ่, เจนสัน บัตตัน, ลูอิส แฮมิลตัน และ เซบาสเตียน เวทเทล ทั้งหมดนี้คือรายชื่อแชมป์โลกต่างยุคต่างสมัยที่จะลงสนาม การแข่งขันรถสูตรหนึ่งในปี 2012 ซึ่งนับเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ของวงการความเร็วทางเรียบที่จะมี แชมป์โลกถึง 6 รายลงขับเคี่ยวกันบนแทรค
นับว่าเป็นการขับเคี่ยวที่น่าชมเป็นอย่างยิ่งสำหรับวงการรถสูตรหนึ่ง เพราะแชมป์โลกต่างสมัยทั้ง 6 รายนั้นเรียกได้ว่ามียุครุ่งโรจน์ที่แตกต่างกันไป อย่างชูมัคเกอร์ เจ้าของแชมป์โลก 7 สมัย (94-95, 2000-04) ขณะที่ เฟร์นานโด อลอนโซ่ครองแชมป์ 2 สมัย (2005-06) ส่วนสองนักขับอังกฤษอย่าง แฮมิลตัน (2008) และ บัตตัน (2009) นั้นครองตำแหน่งกันคนละสมัยเช่นเดียวกับ คีมี่ ไรค์โคเนน (2007) ขณะที่เซบาสเตียน เวทเทล คือนักขับที่ร้อนแรงที่สุดในยุคนี้เมื่อครองแชมป์โลกได้ติดต่อกันสองสมัย (2010-11)
