ทัพนักกีฬาเซปักตะกร้อเตรียมเหินฟ้าสู่เมืองปาเล็มบังเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ ประเทศอินโดนีเซีย โดย อ.กมล ตัมกิมหงษ์ เฮดโค้ชทีมชายเผยต้องพิจารณาต่อแมตช์คาดทีมชุดมีโอกาสคว้าเหรียญทองมากกว่าทีมเดี่ยว ขณะที่ "ซันชิโร่" วีรัส ณ หนองคาย ผู้ฝึกสอนทีมหญิงมั่นใจคว้าเหรียญทองทั้งทีมเดี่ยวและทีมชุด
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายน 2554 สำหรับทัพลูกหวายไทยได้ส่งเพียง 4 รายการ ประกอบด้วย ทีมเดี่ยวชาย,หญิง และ ทีมชุดชาย,หญิง ไม่ได้ส่งประเภทคู่ เนื่องจากมีประเทศเจ้าภาพชาติเดียวเท่านั้นที่สามารถส่งได้ครบทั้ง 6 รายการ
โดย อ.กมล ตัมกิมหงษ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนตะกร้อชาย ทีมชาติไทย กล่าวถึงความพร้อมก่อนออกเดินทางสู่เมืองปาเล็มบังว่า "ตอนนี้มีความพร้อมมากที่สุดในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 26 ด้วยการตั้งความหวังเหรียญทองไว้ที่ทีมชุดมากว่าทีมเดี่ยว เนื่องจากทีมชุดมีให้แก้มือถึง 3 ทีม แต่ทีมเดี่ยวมีโอกาสผิดพลาดมากเหลือเกินซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวนักกีฬา แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ทำให้ต้องเน้นพิเศษไปที่การมีทีมเวิร์คที่ดี"
สำหรับผลการจับสลากประเภททีมเดี่ยวชาย แบ่งออกเป็น 2 สาย ได้แก่ สายเอ ประกอบด้วย ไทย. ฟิลิปปินส์, บรูไน และ อินโดนีเซีย ส่วนสายบี ประกอบด้วย ลาว, สิงคโปร์, มาเลเซีย และเวียดนาม
"ทั้งนี้ไทยมีคู่แข่งที่สำคัญ คือ อินโดนีเซีย เพราะโชว์ฟอร์มได้ดีในการแข่งขันการแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 26 ที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ นอกจากนั้นยังมี มาเลเซีย พม่า ลาว อย่างไรก็ตามการคาดหวังเหรียญทองต้องพิจารณาแต่ละแมตช์แต่ในเบื้องต้นต้องผ่านรอบแรกได้อย่างแน่นอน ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังห่วงถึงสภาพอากาศที่ต้องปรับตัว หลังจากที่ต้องเดินทางตอนกลางคืนดังนั้นหลังเข้าที่พักที่ปาเล็มบังแล้วจะสั่งให้นักกีฬาพักผ่อนให้เต็มที่"
ขณะที่ "ซันชิโร่" วีรัส ณ หนองคาย เฮดโค้ชตะกร้อทีมหญิง เผยถึงความพร้อมว่า "ตอนนี้มีความพร้อม 100 % ในการคว้าเหรียญทองทั้งทีมชุดและทีมเดี่ยว ทั้งนี้ต้องไม่ประมาท อินโดนีเซีย และเวียดนาม ดังนั้นจึงต้องเน้นในเรื่องแท๊คติค อาทิ เกมรับ เกมเปิด พร้อมทั้งการเสิร์ฟที่แม่นยำ อย่างไรก็ตามจะไม่ทำให้คนไทยผิดหวังแน่นอน"
อนึ่ง ทัพนักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทยทั้งชายและหญิงมีกำหนดเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ คืนวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2554 ด้วยสายการบิน การ์รูด้า แอร์ อินโดนีเซีย เวลา 02.30 - 06.00 น.
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายน 2554 สำหรับทัพลูกหวายไทยได้ส่งเพียง 4 รายการ ประกอบด้วย ทีมเดี่ยวชาย,หญิง และ ทีมชุดชาย,หญิง ไม่ได้ส่งประเภทคู่ เนื่องจากมีประเทศเจ้าภาพชาติเดียวเท่านั้นที่สามารถส่งได้ครบทั้ง 6 รายการ
โดย อ.กมล ตัมกิมหงษ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนตะกร้อชาย ทีมชาติไทย กล่าวถึงความพร้อมก่อนออกเดินทางสู่เมืองปาเล็มบังว่า "ตอนนี้มีความพร้อมมากที่สุดในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 26 ด้วยการตั้งความหวังเหรียญทองไว้ที่ทีมชุดมากว่าทีมเดี่ยว เนื่องจากทีมชุดมีให้แก้มือถึง 3 ทีม แต่ทีมเดี่ยวมีโอกาสผิดพลาดมากเหลือเกินซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวนักกีฬา แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ทำให้ต้องเน้นพิเศษไปที่การมีทีมเวิร์คที่ดี"
สำหรับผลการจับสลากประเภททีมเดี่ยวชาย แบ่งออกเป็น 2 สาย ได้แก่ สายเอ ประกอบด้วย ไทย. ฟิลิปปินส์, บรูไน และ อินโดนีเซีย ส่วนสายบี ประกอบด้วย ลาว, สิงคโปร์, มาเลเซีย และเวียดนาม
"ทั้งนี้ไทยมีคู่แข่งที่สำคัญ คือ อินโดนีเซีย เพราะโชว์ฟอร์มได้ดีในการแข่งขันการแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 26 ที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ นอกจากนั้นยังมี มาเลเซีย พม่า ลาว อย่างไรก็ตามการคาดหวังเหรียญทองต้องพิจารณาแต่ละแมตช์แต่ในเบื้องต้นต้องผ่านรอบแรกได้อย่างแน่นอน ส่วนเรื่องอื่นๆ ยังห่วงถึงสภาพอากาศที่ต้องปรับตัว หลังจากที่ต้องเดินทางตอนกลางคืนดังนั้นหลังเข้าที่พักที่ปาเล็มบังแล้วจะสั่งให้นักกีฬาพักผ่อนให้เต็มที่"
ขณะที่ "ซันชิโร่" วีรัส ณ หนองคาย เฮดโค้ชตะกร้อทีมหญิง เผยถึงความพร้อมว่า "ตอนนี้มีความพร้อม 100 % ในการคว้าเหรียญทองทั้งทีมชุดและทีมเดี่ยว ทั้งนี้ต้องไม่ประมาท อินโดนีเซีย และเวียดนาม ดังนั้นจึงต้องเน้นในเรื่องแท๊คติค อาทิ เกมรับ เกมเปิด พร้อมทั้งการเสิร์ฟที่แม่นยำ อย่างไรก็ตามจะไม่ทำให้คนไทยผิดหวังแน่นอน"
อนึ่ง ทัพนักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทยทั้งชายและหญิงมีกำหนดเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ คืนวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2554 ด้วยสายการบิน การ์รูด้า แอร์ อินโดนีเซีย เวลา 02.30 - 06.00 น.