ตะกร้อไทยหวั่นเล่ห์ผู้ตัดสินอิเหนา

สมาคมเซปัคตะกร้อแห่งประเทศไทยหวั่นเล่ห์เหลี่ยม อินโดนีเซีย ประเทศเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 26 เตรียมส่งหนังสือประท้วงทันทีหากใช้ผู้ตัดสินท้องถิ่นทำหน้าที่ในรอบชนะเลิศ พร้อมตั้งเป้าที่ 3 เหรียญทอง ขณะที่ สมาคมกอล์ฟฯ โวกวาดทั้ง 4 เหรียญทอง ด้าน เอ็กซ์ตรีม และ เปตอง หวังที่ 3 เหรียญทอง ส่วน ปีนหน้าผา กีฬาน้องใหม่ตั้งเป้าที่ 1 เหรียญทอง



เมื่อเวลา 13.00 น. วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2554 สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าวความพร้อมของทัพนักกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายน 2554 ที่เมืองปาเล็มบัง และจาการ์ตา ในงาน "มีท เดอะ เพรส" ครั้งที่ 5 โดยมี 5 สมาคมกีฬาได้แก่ นายกิตติศักดิ์ ชัยมงคลตระกูล เลขาธิการสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย, นายไชยวุฒิ พุฒทอง นายกสมาคมปีนหน้าผาแห่งประเทศไทย, นายชัยภัฏ จาตุรงคกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย, นายธวัช กุมุทพงษ์พานิช ผู้จัดการทีมเซปัคตะกร้อชาย กับ นายไพโรจน์ อาชารุ่งโรจน์ ผู้จัดการทีมเซปัคตะกร้อหญิง และ ร.ต.ปรารภ ทองประเทศ ผู้จัดการทีมสมาคมเปตองแห่งประเทศไทย ร่วมแถลง ณ ห้องประชุมรอดโพธิ์ทอง สนามกีฬาแห่งชาติ

โดย ร.ต.ปรารภ ทองประเทศ ผจก.ทีมเปตอง กล่าวถึงความพร้อมว่า "จากซีเกมส์ครั้งที่ 25 ที่ ลาว เป็นเจ้าภาพได้จัดแข่งขันชิง 11 เหรียญทอง ไทยกวาดมาได้ 5 เหรียญทอง ครองแชมป์มา 4 สมัย แต่มาซีเกมส์ครั้งนี้ที่ อินโดนีเซีย เป็นเจ้าภาพได้ตัดออกถึง 5 รายการ จึงเหลือชิงแค่ 6 เหรียญทอง ขณะนี้ทีมชาติไทยมีความพร้อม 100% พร้อมตั้งความหวังไว้ที่ 3 เหรียญทอง จากชายคู่ คือ เถลิงเกียรติ ภู่สะอาด และ สุขสรรค์ เพียจันทร์ ซึ่งเก็บตัวที่ฝรั่งเศส มาถึง 3 เดือน รวมทั้งหญิงคู่ คือ ทองสี ตะมะโคตร และ พันธ์ทิพา วงศ์ชูเวช ดีกรีแชมป์โลก ซึ่งตอนนี้ไปแข่งป้องกันแชมป์ที่ ประเทศตุรกี และอีกเหรียญคือเดี่ยวชาย สุพรรณ ทองภู โดยมีคู่แข่งที่สำคัญ คือ กัมพูชา"

ด้าน ชัยวุฒิ พุฒทอง นายกสมาคมปีนหน้าผาแห่งประเทศไทย เผยว่า "ปีนหน้าผาถือเป็นครั้งแรกที่ได้แข่งในซีเกมส์ มีการชิงชัย 10 เหรียญทอง โดยไทยส่งนักกีฬา 4 คน ซึ่งเป็นเยาวชนถึง 3 คน ได้มีการส่งไปเก็บตัวที่ประเทศออสเตรีย เพราะถือว่าเป็นแหล่งรวมนักปีนหน้าผาโลกโดยเราได้ตระเวนแข่งในยุโรปจนอันดับดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งซีเกมส์ครั้งนี้ตั้งเป้าอย่างน้อยที่ 1 เหรียญทอง จากโบเดอร์ หรือ แนวระนาบ ที่มีความยากมาก ดังนั้จึงเน้นนักกีฬาเรื่องความฟิต ส่วนความหวังอื่นๆ อยู่ที่ ฮีด และ สปีด"

ขณะที่ กิตติศักดิ์ ชัยมงคลตระกูล เลขาสมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ซีเกมส์นี้เจ้าภาพจัดแข่ง 4 เหรียญทอง ทัพนักกีฬาไทยก็หวังที่จะกวาดหมดทั้ง 4 เหรียญทอง ทั้งประเภทบุคคลชาย,หญิง และทีมชาย,หญิง โดยนักกีฬาได้เก็บตัวมา 8 เดือน พร้อมส่งไปแข่งต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อประลองฝีมือกับนักกีฬาระดับโลก และ ทดสอบฝีมือกับนักกีฬาในอาเซียน จากผลการแข่งขันที่ผ่านมานักกอล์ฟไทยดีกว่า และในสัปดาห์หน้านักกีฬาจะเดินทางไปฝึกซ้อมที่สนามแข่งขันที่ จาโกราวี กอล์ฟคอร์ส แอนด์ คันทรีคลับ สนามแข่งขันจริงอีกครั้ง ส่วนคู่แข่งที่สำคัญประเภทชายจะเป็นสิงคโปร์และมาเลเซีย ด้านประเภทหญิงจะเป็นฮ่องกงและฟิลิปปินส์"

ส่วน ชัยภัฏ จาตุรงคกุล เลขาสมาคมเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย เผยถึงความพร้อมว่า "สมาคมฯ จะส่งแข่ง 2 ชนิดคือ โรลเลอร์สปอร์ต มีการชิง 12 รายการ ไทยจะส่งนักกีฬาชายและหญิงอย่างละ 6 คน ตั้งความหวังไว้ที่ 2 เหรียญทอง คือ 300,500 เมตร คู่แข่งที่สำคัญคือ อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์ ซึ่งเราเก็บตัวที่เมืองซูโจว ประเทศจีนเป็นเวลา 2 เดือน อีกชนิดกีฬาที่แข่งขันคือ สกีน้ำ มีการชิง 11 รายการ ไทยจะส่งนักกีฬาชาย 4 คน และ หญิง 5 คน มีการชิง 5 เหรียญทอง โดยไทยหวังไว้ที่ 1 เหรียญทอง ที่เวกบอร์ดบุคคลชาย และ ทีมชาย ที่สำคัญน่าเสียดายที่ไทยได้ทาบทาม เดเนียล แกรนด์ แชมป์โลก เคเบิ้ลสกี แชมป์โลกวัย 13 ปี ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ไว้แต่มีปัญหาเรื่องเอกสารจึงไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์"

นอกจากนี้ความพร้อมของสมาคมเซปัคตะกร้อแห่งประเทสไทย ธวัช กุมุทพงศ์พานิช ผจก.ทีมชาย กล่าวว่า "ซีเกมส์ครั้งที่ 25 ไทยกวาดได้ 5 เหรียญทองจากที่มีการชิงชัย 8 เหรียญทอง โดยในครั้งนี้ อินโดนีเซีย ได้จัดแข่ง 6 รายการ ทว่าทีมชาติไทยส่งเพียง 4 รายการ เพราะไม่ได้ส่งประเภทคู่ ประกอบด้วย ทีมเดี่ยวชาย,หญิง และ ทีมชุดชาย,หญิง ซึ่งความหวังตั้งเป้าไว้เพียง 3 เหรียญทอง จากทีมชุดชาย, ทีมเดี่ยวชาย และ ทีมชุดหญิง ในส่วนของทีมเดี่ยวหญิงนั้น ยอมรับว่าต้องลุ้นเหนื่อย โดยมีเวียดนาม และ อินโดนีเซียเป็นคู่แข่งที่สำคัญ"

ขณะเดียวกัน ไพโรจน์ อาชารุ่งโรจน์ ผู้จัดการทีมเซปัคตะกร้อทีมหญิง เผยว่า "ขณะนี้ทีมหญิงได้เก็บตัวที่มวกเหล็กมาเป็นเวลากว่า 6 เดือน ซึ่งชุดนี้เป็นเด็กใหม่ถึง 70% โดยได้นำไปทดลองสนามในศึกคิงส์คัพที่มีหลายประเทศนอกเหนือจากซีเกมส์อยู่มาก ปรากฏว่าทีมหญิงของไทยชนะเลิศทุกรายการจึงทำให้มีความมั่นใจในซีเกมส์มากถึง 80% โดยไทยมีคู่แข่งที่สำคัญคือ เวียดนาม และ อินโดนีเซีย"

ทั้งนี้สมาคมเซปัคตะกร้อฯ ได้หวั่นปัญหาเรื่องผู้ตัดสินที่เจ้าภาพจะเน้นที่ผู้ตัดสินท้องถิ่นเป็นหลักในรอบแรกจนถึงรอบรองฯ แต่ในรอบชิงชนะเลิศ จะต้องใช้ผู้ตัดสินชาติเป็นกลาง มิฉะนั้นจะทำหนังสือประท้วงทันที