“ซีพี-เมจิ” เปิดแผน 3 ปี ทุ่มงบลงทุน 2,000 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิต รองรับรุกต่างประเทศ-เออีซี หลังนำร่องที่สิงคโปร์มา10ปีประสบผลดี จ่อรุกฮ่องกงสิ้นปีนี้ มาเลเซียปีหน้า เล็งผุดฐานผลิตที่เวียดนาม ลั่นปีนี้ทะลุ 4,100 ล้านบาท หลังครึ่งปีแรกโต 15% เกินเป้า
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด เปิดเผยว่า แผนการลงทุน 3ปีนับจากนี้ (ปี 2554-2556) บริษัทฯจะใช้งบประมาณลงทุนมากกว่า 2,000 ล้านบาท ในการขยายกำลังผลิตนมพร้อมดื่มทุกกลุ่มเพื่อรองรับกับการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและการขยายตลาดส่งออกมากขึ้น ขณะที่กำลังผลิตเดิมนั้นใช้ผลิตแล้วถึง 80%
โดยจะขยายในโรงงานเดิมที่ อำเภอมวกเหล็ก สระบุรี บนพื้นที่เดิมที่มีกว่า 130 ไร่ แต่ใช้ไปเพียง 40 ไร่ ยังมีเหลืออีกจำนวนมาก โดยจะก่อสร้างอาคารและเพิ่มไลน์ผลิตอีก ทั้งนมเปรี้ยว นมจืด นมสี และคัพโยเกิร์ต และจะทำให้ต้องรับซื้อน้ำนมดิบเพิ่มขึ้นอีกจากปัจจุบันรับซื้อ 220 ตันต่อวัน เพิ่มจากปีที่แล้วที่ซื้อ 185 ตันต่อวัน ขณะนี้เริ่มดำเนินการแล้ว
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจาก ในประเทศ 80% และส่งออก 20% ซึ่งบริษัทฯเริ่มทำตลาดส่งออกที่สิงคโปร์เป็นแห่งแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้ผลตอบรับอย่างดี เนื่องจากที่คนสิงคโปร์ดื่มนมมกากว่า 40-50 ลิตรต่อคนต่อปี เป็นตลาดเติบโตดี แม้จะมีผู้ประกอบการหลายแบรนด์ก็ตามมากกว่า 10 แบรนด์ใหญ่ๆทั้งสิ้น โดยบริษัทฯเป็นผู้นำมีส่วนแบ่งตลาด 34% โดยเฉพาะในช่องทางร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่สิงคโปร์
สำหรับการขยายตลาดต่างประเทศเพื่อรองรับกับการเปิดเออีซีด้วย แผนต่อไปจะบุกตลาด ฮ่องกง ซึ่งทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว แต่ยังติดปัญหาตรงที่อายุของสินค้านั้นสั้น เพียงแค่ 21 วัน แต่ระยะเวลาการขนส่งเกือบ 10 วัน อยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าปลายปีนี้จะเริ่มดำเนินการได้ รวมถึงการขยายตลาดมาเลเซียในปีหน้าด้วย โดยรูปแบบจะใช้วิธีการหาพาร์ทเนอร์ เป็นโซลเอเย่นต์ในการทำตลาดต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จาการรุกต่างประเทศมากขึ้น 30% ในอนาคต
อย่างไรก็ดีนอกจารกการขยายตลาดแล้ว ยังมีแผนระยะยาวที่จะสร้างฐานการผลิตในต่างประเทศอีกด้วยเบื้องต้นมองไปที่ประเทศเวียดนาม คาดว่าอีก 2-3 ปีจะสามารถสรุปได้
ขณะที่ตลาดในไทยนั้น บริษัทฯมีรายได้เติบโตครึ่งปีแรก 15% มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10% โดยปัจจัยหลักมาจากการเน้นทำตลาด การออกหนังโฆษณา รวมทั้งการออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด เปิดเผยว่า แผนการลงทุน 3ปีนับจากนี้ (ปี 2554-2556) บริษัทฯจะใช้งบประมาณลงทุนมากกว่า 2,000 ล้านบาท ในการขยายกำลังผลิตนมพร้อมดื่มทุกกลุ่มเพื่อรองรับกับการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและการขยายตลาดส่งออกมากขึ้น ขณะที่กำลังผลิตเดิมนั้นใช้ผลิตแล้วถึง 80%
โดยจะขยายในโรงงานเดิมที่ อำเภอมวกเหล็ก สระบุรี บนพื้นที่เดิมที่มีกว่า 130 ไร่ แต่ใช้ไปเพียง 40 ไร่ ยังมีเหลืออีกจำนวนมาก โดยจะก่อสร้างอาคารและเพิ่มไลน์ผลิตอีก ทั้งนมเปรี้ยว นมจืด นมสี และคัพโยเกิร์ต และจะทำให้ต้องรับซื้อน้ำนมดิบเพิ่มขึ้นอีกจากปัจจุบันรับซื้อ 220 ตันต่อวัน เพิ่มจากปีที่แล้วที่ซื้อ 185 ตันต่อวัน ขณะนี้เริ่มดำเนินการแล้ว
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจาก ในประเทศ 80% และส่งออก 20% ซึ่งบริษัทฯเริ่มทำตลาดส่งออกที่สิงคโปร์เป็นแห่งแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้ผลตอบรับอย่างดี เนื่องจากที่คนสิงคโปร์ดื่มนมมกากว่า 40-50 ลิตรต่อคนต่อปี เป็นตลาดเติบโตดี แม้จะมีผู้ประกอบการหลายแบรนด์ก็ตามมากกว่า 10 แบรนด์ใหญ่ๆทั้งสิ้น โดยบริษัทฯเป็นผู้นำมีส่วนแบ่งตลาด 34% โดยเฉพาะในช่องทางร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่สิงคโปร์
สำหรับการขยายตลาดต่างประเทศเพื่อรองรับกับการเปิดเออีซีด้วย แผนต่อไปจะบุกตลาด ฮ่องกง ซึ่งทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว แต่ยังติดปัญหาตรงที่อายุของสินค้านั้นสั้น เพียงแค่ 21 วัน แต่ระยะเวลาการขนส่งเกือบ 10 วัน อยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าปลายปีนี้จะเริ่มดำเนินการได้ รวมถึงการขยายตลาดมาเลเซียในปีหน้าด้วย โดยรูปแบบจะใช้วิธีการหาพาร์ทเนอร์ เป็นโซลเอเย่นต์ในการทำตลาดต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จาการรุกต่างประเทศมากขึ้น 30% ในอนาคต
อย่างไรก็ดีนอกจารกการขยายตลาดแล้ว ยังมีแผนระยะยาวที่จะสร้างฐานการผลิตในต่างประเทศอีกด้วยเบื้องต้นมองไปที่ประเทศเวียดนาม คาดว่าอีก 2-3 ปีจะสามารถสรุปได้
ขณะที่ตลาดในไทยนั้น บริษัทฯมีรายได้เติบโตครึ่งปีแรก 15% มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10% โดยปัจจัยหลักมาจากการเน้นทำตลาด การออกหนังโฆษณา รวมทั้งการออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง