xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯสระบุรี สั่ง กอ.รมน.จังหวัดลงพื้นที่สำรวจป่าสงวนหนองย่างเสือซ้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สระบุรี - ผวจ.สระบุรี สั่งหน่วยงาน กอ.รมน.จังหวัดออกสำรวจพื้นที่เขตป่าสงวนอีกครั้ง ในพื้นที่บริเวณหมู่ 3, 5, 7 และ 9 พื้นที่ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก หลังจากเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.เคยลงสำรวจมาครั้งหนึ่ง และยังพบพื้นที่การบุกรุกป่าสงวนด้านหลังภูเขาอีกจำนวนมาก โดยปรับพื้นที่รอบตีนเขาเป็นทางรถ ลำเลียงขึ้นไปก่อสร้าง

วันนี้ (3 ส.ค.) เวลา 09.00 น.นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.นพดล พิศวง รองผู้ว่าการจังหวัดสระบุรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ นายสมศักดิ์ เร่งเพียร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 สระบุรี นายมณฑป ศรีทอง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า สบ2 (ลำพระยากลาง) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เดินทางไปสำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกรณีชาวบ้านในพื้นที่ ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนว่า มีการบุกรุกป่าสงวน

และเมื่อวันที่ 27 ก.ค.54 ที่ผ่านมา ทางเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.ก็ได้ลงพื้นที่ออกสำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องเรียนมาครั้งหนึ่งแล้ว และพบสภาพการตรวจสอบบริเวณด้านหน้าของภูเขามีการวางรั้วคอนกรีต รอบตีนเขาเพื่อเตรียมการก่อสร้างอาคาร หรือรีสอร์ต ขนาดใหญ่

จากสภาพการสำรวจในครั้งนั้นเป็นเพียงการสำรวจบริเวณด้านหน้า ซึ่งต่อมาได้มีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่จังหวัดสระบุรี ยังพบว่า บริเวณด้านหลังภูเขายังมีการบุกรุกเขตป่าสงวนอีกจำนวนมาก ซึ่ง พล.ต. นพดล พิศวง ได้นำเจ้าหน้าที่เดินเท้าไปตามเส้นทางที่ถูกปรับเป็นทางรถวิ่งขึ้นสู่บนยอดเขาด้านหลัง และพบว่า บริเวณรอบตีนเขามีการสร้างรั้วคอนกรีตเป็นระยะทางกว่า 1,500 เมตร

จากการสำรวจบริเวณพื้นที่ของป่าสงวนดังกล่าวมีความยาวเกือบ 5 กิโลเมตร ของพื้นที่ทั้งหมด หากมีการก่อสร้างสำเร็จในพื้นที่นั้น จะมีราคามหาศาล เนื่องจากเป็นทำเลที่มีทัศนียภาพสวยงามโดยรอบของพื้นที่ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการสำรวจกว่า 2 ชั่วโมง และได้ทำบันทึกพื้นที่ที่ถูกบุกรุกครั้งนี้ไว้เพื่อดำเนินการแจ้งความกับผู้บุกรุก

ส่วนบริเวณเขาด้านหลังบนยอดเขาถูกปรับเป็นลานเรียบกว้างประมาณ 2-3 งาน และจากการสอบถามชาวบ้านบริเวณดังกล่าว เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่คณะเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ออกสำรวจบริเวณดังกล่าวนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เดินทางกลับผู้บุกรุกก็ยังนำรถแบ็กโฮขึ้นไปถากถางบริเวณป่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

จากปัญหาดังกล่าวได้มีเจ้าหน้าที่นายหนึ่ง (ขอสงวนนาม) เปิดเผยว่า การบุกรุกป่าไม้ในขณะนี้เป็นที่รู้อยู่ว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบรู้เห็นเป็นใจ ซึ่งยากต่อการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่มีส่วนรู้เห็นการก่อสร้างทุกอย่างก็จะไม่สำเร็จได้โดยง่าย และอยากจะขอให้ทางหน่วยเหนือออกทำงานกันอย่างจริงจัง อย่าปฏิบัติเหมือนกับไฟไหม้ฟางเงียบหายไป เหมือนกับที่ชาวบ้านกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ขณะนี้






กำลังโหลดความคิดเห็น