11 สโมสรไทยพรีเมียร์ลีกต่างเทใจโหวตลดจำนวนโควต้าผู้เล่นต่างชาติลงจาก 7 ลง 5 เป็น 5 ลง 3 + 1 พร้อมเร่งมีผลบังคับใช้ในการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012 ด้าน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ปธ.ไทยพรีเมียร์ลีก เตรียมเสนอเรื่องต่อ "บังยี" นายกลูกหนังไทยเพื่อสรุปผลอีกครั้ง
เมื่อเวลา 13.30 น. วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2554 ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เป็นประธานจัดสัมนาเชิงปฏิบัติการฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศไทย ร่วมกับตัวแทนจากสโมสรฟุตบอลในไทยพรีเมียร์ลีก ณ ห้องราชาวดี โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน
โดยที่ประชุมมีข้อสรุปกำหนดวันปิดการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011 เป็นวันที่ 11 มกราคม 2554 ซึ่งจะจบไม่พร้อมกันตามหลักสากล เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับผลกระทบปัญหาอุทกภัย ประกอบกับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย และโปรแกรมการแข่งขันคิงส์คัพ ระหว่างวันที่ 15-21 มกราคม 2555 จึงทำให้ต้องเลื่อนปิดฤดูกาลเป็นวันที่ 11 หรือ 12 มกราคม ซึ่งจะชนกับนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพพอดี ทั้งนี้ยังได้รับการยินยอมจากบรรดาสโมสรที่มีนักเตะทีมชาติได้ยินยอมปล่อยผู้เล่นให้ไปเก็บตัวทีมชาติเพื่อเตรียมความพร้อมลงเตะคิงส์คัพนัดเปิดสนามวันที่ 15 มกราคม
นอกจากนี้ในกรณีที่ทีมชาติได้เข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ได้วางโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2012 นัดเปิดสนามเป็นวันที่ 17 มีนาคม 2555 และปิดฤดูกาลในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2555 ทว่าหากไม่ผ่านเข้ารอบต่อไปจะนำโปรแกรมโตโยต้า ลีกคัพ และ เอฟเอคัพ มาแทรกในวันที่วางโปรแกรมเผื่อไว้ให้ทีมชาติด้วย ซึ่งในฤดูกาลหน้าจำเป็นต้องมีแมตช์กลางสัปดาห์อย่างน้อย 2 นัดต่อเลก
ขณะที่ลีกสำรอง หรือ ไทยพรีเมียรืลีก บี ในฤดูกาล 2012 เป็นการขอความสมัครใจจากสโมสรต่างๆ ในการส่งทีมเข้าแข่งขัน แต่ในฤดูกาล 2013 จะบังคับให้ทุกทีมในไทยพรีเมียร์ลีกต้องมีการแข่งขันลีกสำรองทุกสโมสร โดยมีรูปแบบการแข่งขันคือการรวมชุดเยาวชนกับทีมสำรองเข้าด้วยกัน แข่งขันสัปดาห์ละ 1 แมตช์ โดยอนุญาตให้ผู้เล่นชุดใหญ่ที่ไม่ได้ลงเตะในไทยพรีเมียร์ลีกนัดก่อนหน้าลงสนามได้ 5 คน ส่วนจะลงเตะหลังจากแมตช์ชุดใหญ่หรือก่อนหน้า 1 วัน ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากหลายทีมยังกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางของนักเตะทั้ง 2 ชุด
สำหรับการส่งรายชื่อนักเตะไทยพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า ระบบจะเปิดให้ส่งรายชื่อระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2554 – 16 มีนาคม 2555 โดยเส้นตายในการส่งรายชื่อผู้เล่นสัญชาติไทยได้ถึงวันที่ 10 มีนาคม ส่วนผู้เล่นต่างชาติได้ถึงวันที่ 16 มีนาคม 2555 อย่างไรก็ตามตัวแทนจากบางสโมสรเสนอให้ยืดระยะเวลาส่งชื่อออกไปอีก 1 สัปดาห์ ตามที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) อนุญาต เนื่องจากต้องการเวลาในการหานักเตะในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลเพิ่มขึ้น
ส่วนโควตานักเตะต่างชาติในฤดูกาล 2012 ที่ประชุมได้เสนอให้ลงคะแนนเสียงแบบปิดผนึก ซึ่งวันนี้มีตัวแทนจากสโมสรเข้าร่วม 17 สโมสร ขาดตัวแทนจากทีมขอนแก่น เอฟซี โดยผลการลงคะแนนเสียงปรากฏว่า 11 เสียงลงคะแนนให้ใช้โควตา นักเตะต่างชาติ 5 คน ลงสนามได้ 3 คน + ผู้เล่นเอเชีย 1 คน และเสนอว่าควรเริ่มต้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ฤดูกาล 2012 ทันที ส่วนอีก 6 คะแนนเสียงโหวตให้ใช้โควตานักเตะต่างชาติ 7 คน ลงสนามได้ 5 คนเช่นเดิม
ท้ายนี้ที่ประชุมยังมีการเสนอให้แก้ไขจำนวนกองเชียร์ทีมเยือนจาก 20 % ของความจุสนาม ลดเหลือเพียง 10 % ของความจุสนาม โดยยังหาบทสรุปเกี่ยวกับตำแหน่งไม่ได้ชัดเจนซึ่งขึ้นอยู่ที่ทีมเจ้าบ้าน ขณะเดียวกันหากเกิดปัญหาเรื่องแฟนบอลเกินจำนวนโควต้าที่กำหนดฝ่ายทีมเยือนต้องเป็นผู้รับผิดชอบ รวมถึงการขอลูกฟุตบอลสำหรับการฝึกซ้อมเพิ่มและให้ปรับปรุงคุณภาพของลูกฟุตบอลอีกด้วย
อย่างไรก็ตามหลังจบการสัมมนา ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ปธ.ไทยพรีเมียร์ลีก กล่าวสรุปว่า "ข้อเสนอแนะที่ได้จากการสัมมนาวันนี้ต้องนำเสนอและหารือกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเร็วที่สุดในวันที่ 19 ธันวาคม ยอมรับว่าผลการโหวตโควตานักเตะต่างชาติอาจจะมีผลกระทบกับบางสโมสรที่ได้เซ็นสัญญาล่วงหน้ากับนักเตะต่างชาติไปแล้ว อย่างไรก็ตามจะพยายามทำให้ทุกฝ่ายพอใจมากที่สุด เชื่อว่าการตัดสินใจด้วยเสียงส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับส่วนรวม ทั้งนี้ควรจะผลักดันให้มีลีกสำรอง เนื่องจากเป็นการให้โอกาสนักเตะเยาวชน และเป็นการหารายได้อีกทางหนึ่ง ส่วนสปอนเซอร์ตนจะพยายามหามาสนับสนุนอย่างเต็มที่"