ASTVผู้จัดการรายวัน - ผ่านพ้นปี 2011 แวดวงกีฬาไทย-เทศมีความเคลื่อนไหวหลากหลาย ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ “ทีมข่าว MGR Sport” ตั้งใจสะบัดปากกาตั้ง “ฉายา” คนกีฬาเป็นการส่งท้ายปี เชื่อว่านิยามและเนื้อหาสาระน่าจะแสบคันโดนใจกันไม่มากก็น้อย
“ไรอัน กิกส์” ฉายา : ปีกพ่อมดจอมกินตับ
ไรอัน กิกส์ จอมเก๋า “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ออกอาการเสียคนตอนแก่ โดนสื่อขุดคุ้ยเรื่องฉาวคาวสวาทออกมาประจาน หลังก่อคดีนอกใจ สเตซีย์ ภรรยาสุดที่เลิฟ โดยผู้เล่นวัย 38 ปี เจอแฉแอบเล่นชู้ อิโมเจน โธมัส นางแบบสุดเซ็กซี่มานานกว่า 6 เดือน ซึ่งเรื่องเสื่อมเสียที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับ “แฟมิลีแมน” เป็นที่ถกกันอย่างเข้มข้นในสภาผู้แทนราษฎรเมืองผู้ดี แต่แล้ว “ปีกพ่อมด” งานเข้าดาบสองเพราะแอบมีความสัมพันธ์กับ นาตาชา ภรรยาน้องชายแท้ๆ เล่นเอาบ้านแทบแตก เรียกได้ว่าชื่อเสียงที่สั่งสมมานานกว่า 20 ปี แทบป่นปี้ในชั่วข้ามคืน
“ไทเกอร์ วูดส์” ฉายา : “พญาเสือ” Free Man (แฟนไม่มี)
สี่ห้องหัวใจของ ไทเกอร์ วูดส์ ยังคงว่างเปล่าไร้คนดูแลจวบจนปัจจุบัน ไม่รู้ว่าเวรกรรม “เจ้าชู้ประตูดิน” ที่ทำไว้กับสาวๆ จะตามทันแล้วหรือไม่ เพราะไม่ว่า “พญาเสือ” เล็งสานสัมพันธ์กับหญิงรายใดก็มีอันต้องล้มเลิกไปหมด ไม่วายต้องขอความช่วยเหลือจาก คาเมรอน ดิแอซ ดาราสาวฮอลลีวูดช่วยเป็นแม่สื่อให้ ก่อนมาพบรักกับหญ้าอ่อนอย่าง อลิเซ ลาห์ตี จอห์นสตัน แต่สุดท้ายฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วยตัดสัมพันธ์เอาดื้อๆ ดังนั้น ปี 2011 “พญาเสือ” (ผู้หญิง) ที่ไร้คู่จำต้องแบกรับฉายา FREE MAN (เพราะแฟนไม่มี) ไปโดยปริยาย
“รอรีย์ แม็กอิลรอย” ฉายา : รอรีย์ ไม่ได้โม้!
ดีกรีการคุยโตโอ้อวดถือว่าเข้าขั้นเทพสำหรับโปรหนุ่มไฟแรงนามว่า รอรีย์ แม็กอิลรอย จากไอร์แลนด์เหนือ ที่หาญกล้าวิจารณ์ฟอร์มการเล่นของ ไทเกอร์ วูดส์ แบบไม่หวั่นบารมีว่าเป็นเพียงแค่นักกอล์ฟมือพื้นๆ รวมถึงเคยฟุ้งทำนองว่าโทรฟีเมเจอร์ฤดูกาลนี้ต้องมีชื่อของตนสลักอยู่ ซึ่งแม้ รอรีย์ จะพลาดโอกาสคว้า “กรีน แจ็กเกต” ตัวแรกแบบน่าเจ็บใจ แต่ก็ล้างฝันร้ายได้ด้วยการคว้าชัย “ยูเอส โอเพน” แบบทุบทุกสถิติ ขณะเดียวกันยังโปรยเสน่ห์จีบ คาร์โรไลน์ วอซเนียคกี นักเทนนิสสาวเบอร์ 1 โลกชาวเดนมาร์กมาเป็นหวานใจ โดยใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ จึงถือว่าลมปากที่ลั่นออกมาแต่ละคำ “ไม่ได้โม้!” จริงๆ
“วรวีร์ มะกูดี” ฉายา : คนยี “ผี” คุ้ม
พ.ศ. 2554 อาจเป็นปีชงของ “เรยี” เหตุพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกตลอด เริ่มจาก วิรัช ชาญพานิชย์ ปรากฏตัวในการเลือกตั้งประมุขลูกหนัง (6 พ.ค.) จนต้องรีบล้มโต๊ะเพื่อตั้งหลักก่อนล็อบบีกลับมาชนะในรอบสอง (17 มิ.ย.) ยึดเก้าอี้สมัยที่ 3 แน่นหนึบ โดยทิ้งปริศนาเรื่องสโมสรสมาชิก “ผี” บางรายที่มาแค่ชื่อแต่ตัวไม่ปรากฏเอาไว้ ต่อด้วยข่าวฉาวระดับโลกที่ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนแลกกับการโหวตเจ้าภาพฟุตบอลโลก รวมทั้งนำเงินฟีฟ่ามาใช้สร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลบนที่ดินตัวเอง แต่สุดท้ายก็รอดพ้นมลทินทั้งหมดโดยกรณีแรกมีหลักฐานไม่พอ ส่วนเคสหลัง เซปป์ แบลตเตอร์ ประธานฟีฟ่าบอกว่าได้รับเอกสาร “ผี” เรื่องยกที่ดินให้สมาคมแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่
“เนวิน ชิดชอบ” ฉายา : พ่อช่าง “เสก”
ด้วยเป้าหมายยิ่งใหญ่สู่การเป็นทีมชั้นนำของทวีปเอเชียภายใน 5 ปี ทำให้ เนวิน ชิดชอบ หว่านเม็ดเงินเป็นว่าเล่นไล่ตั้งแต่ดึง แฟรงก์ อาชีมปง และ แฟรงก์ โอฮันด์ซา เข้ามาเสริมแดนหน้า, สร้างสนามนิว ไอ-โมบาย สเตเดียม, ก่อตั้งบุรีรัมย์ อะคาเดมี, ส่งนักเตะในสังกัดไปฝึกฝีเท้ากับ เลสเตอร์ ซิตี ล่าสุดก็เตรียมแยกตัวจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อควบเอา พีอีเอ และเอฟซี 2 ทีมมารวมกันตั้งเป็น “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ขึ้นมาใหม่ หลังได้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 แน่นอนแล้ว เรียกว่าบ้าบอลอย่างเดียวไม่พอ เงินต้องถึงด้วยจึงจะ “เสก” ความสำเร็จเหมือนสั่งได้เช่นนี้
“อารักษ์ พรประภา” ฉายา : หน่วยอารักขา (รัฐภาคย์)
ถือเป็นผู้ใหญ่ใจดี เป็นพ่อคนที่ 2 ของ รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ก็ว่าได้ สำหรับ อารักษ์ พรประภา รองกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด แม้ “เจ้าฟีม” ทำผลงานไม่เข้าตาในศึกโมโตทู 2011 แต่ “เสี่ยอารักษ์” ออกหน้าปกป้องและหนุนหลัง รัฐภาคย์ มาโดยตลอด ที่สำคัญทุกครั้งที่รถฮอนด้า-FTR หมายเลข 14 ของนักขับวัย 23 ปี ประสบอุบัติเหตุบนแทร็กต้นสังกัดทางเมืองไทยต้องควักเงินชดใช้ค่าเสียหายสูงถึงครั้งละ 5,000 ยูโร (ราว 200,000 บาท) เลยทีเดียว แต่เจ้าตัวก็ยังไม่หยุดความตั้งใจที่จะหนุนนักบิดหน้าตี๋ลงแข่งขันต่อไปในฤดูกาล 2012
“โคบี ไบรอันท์” ฉายา : ยัดห่วงจอมซุก (เมียน้อย)
ชู้ตติงการ์ด แอลเอ เลเกอร์ส แห่งศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ ใช้เวลาว่าง "ช่วงล็อกเอาท์" ผิดจุดประสงค์แทนที่ โคบี ไบรอันท์ จะเอาเวลาเร่งฝึกปรือชู้ตห่วง ดันเกเรไปทำแต้มนอกบ้านเสียอย่างนั้น เป็นเหตุให้ วาเนสซา ภรรยาสาวสวยที่อยู่กินกันมา 10 ปี ทนไม่ได้ร้องศาลขอหย่าร้าง แม้เหตุผลที่ให้คือ “ไม่สามารถเข้ากันได้” แต่สื่อมะกันเชื่อว่า โคบี แอบซุกภรรยาน้อยเอาไว้ โดยมีการแบโผรายชื่อกิ๊กออกมา 2 รายได้แก่ คาร์ลา ดิเบลโล เพื่อนในกลุ่ม คิม คาร์ดาเชียน เซเลบริตี้สะโพกดินระเบิด รวมถึง เจสซิกา เบอร์เซียกา นางแบบนิตยสารเพลย์บอย งานนี้เห็นทีแหวนเพชร 4 กะรัต คงไม่พอเสียแล้วสำหรับซูเปอร์สตาร์วัย 33 ปี ในการงอนง้อขอคืนดีกับภรรยาหลวง
“มาริโอ บาโลเตลลี” ฉายา : “มาริโอ บรรลัยเตลลี”
หากจะถามถึงผลงานอันโดดเด่นภายใต้สีเสื้อ แมนเชสเตอร์ ซิตี หลังย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน เมื่อปี 2010 คงจะต้องใช้เวลานึกนานพอสมควร ต่างกับพฤติกรรมสุดห่ามยาวเป็นหางว่าวของ บาโลเตลลี ที่ทุกคนต่างเมาท์กันอย่างสนุกปาก ทั้ง ปาลูกดอกใส่แข้งเยาวชน มีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนร่วมทีม ใส่เสื้อซ้อมซ้อมไม่เป็น หมุนตัวตอกลูกส้นเกมนัดกระชับมิตร แต่ที่ร้ายแรงสุดเมื่อเร็วๆ นี้คือจุดพลุเล่นภายในห้องน้ำจนเกือบไฟไหม้บ้าน เจ้าตัวออกมาเปิดปากว่าตนเองไม่ได้ “บ้า” ซึ่งเคยตอกกลับทุกคนด้วยการถลกเสื้อที่มีข้อความว่า “WHY ALWAYS ME?” พูดกันแบบบ้านๆ ก็คือ “อะไรๆ ก็กู” หลังยิงได้เกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี แม้ที่ผ่านมาจะพอมีเรื่องดีๆ อยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ที่หอกวัย 21 ปีเยื้องย่างไปมักจะมีแต่หายนะ จึงอยากให้เปลี่ยนสกรีนหลังเสื้อแข่งเป็น “บรรลัยเตลลี” แล้วกัน
“โรเจอร์ เฟเดอเรอร์” ฉายา : แร็กเกตขิงแก่
หลังจากฟอร์มการเล่นตกเป็นรองนักเทนนิสรุ่นน้องจนทำให้เจ้าของฉายา “แร็กเกตเทพ” กลายเป็นคู่ต่อสู้บนคอร์ตที่ไม่น่ากลัวอีกต่อไปขณะที่รอบฤดูกาล 2010-2011 คว้าแกรนด์สแลมมาครองได้เพียงรายการเดียวจากออสเตรเลียนโอเพน ทำให้มีเสียงวิพากษ์ว่า เฟดเอ็กซ์ในวัย 30 ปีอาจอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของชีวิตนักเทนนิสอาชีพ แต่แล้วคุณพ่อลูกแฝดก็หักปากกากูรูทั้งหลายเป็นที่เรียบร้อยเมื่อคว้าแชมป์เอทีพี เวิลด์ทัวร์ ไฟนัลมาครองภายใต้สภาพร่างกายที่แข็งแกร่งต่างจากคู่แข่งอย่าง นาดาล ยอโควิช และ เมอร์เรย์ ที่พากันพร้อมใจบาดเจ็บ และนั่นทำให้สปอตไลต์ลูกสักหลาดต้องหันมาฉายจับไปที่ เฟเดอเรอร์ อีกครั้งโดยคาดหมายว่าฤดูกาล 2012 ที่นักเทนนิสหนุ่มไม่ต้องกระเตงลูกแฝดออกทัวร์ฯ รวมไปถึงสภาพร่างกายที่พร้อมร้อยเปอร์เซนต์ น่าจะทำให้เจ้าตัวกลับมาครองบัลลังก์เทนนิสโลกได้อีกครั้งซึ่งเปรียบไปก็เหมือนกับขิงที่ยิ่งแก่ยิ่งเผ็ดนั่นเอง
“คาโรไลน์ วอซเนียกกี” ฉายา : ราชินีไร้มงกุฎ
นับตั้งแต่ขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงสุดของวงการเทนนิสหญิงโลกในเดือนตุลาคมปี 2010 คำถามที่วอซเนียกกีต้องตอบกับสื่อจนถึงปัจจุบัน คือ การขึ้นเป็นนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งโลกโดยที่ไม่มีแชมป์แกรนด์สแลมพ่วงท้ายมาเลยแม้แต่รายการเดียว ซึ่งแร็กเกตสาวจากเดนมาร์กเคยออกอากาศปรี๊ดแตกในห้องแถลงข่าวการแข่งขันออสเตรเลียนโอเพน 2011 ที่เธอไม่รอให้สื่อถามหากแต่ชิงพูดก่อนเลยว่า “ฉันยังรู้สึกมั่นใจและไม่มีใครมาบั่นทอนความรู้สึกได้ แม้ว่าจะขึ้นเป็นมือหนึ่งโดยไม่มีแชมป์แกรนด์สแลม” ในเวลานั้น วอซเนียกกีอาจมั่นใจในฝีมือ หากฤดูกาล 2012 ที่กำลังจะมาถึงคู่แข่งอย่าง เปตรา ควิตโตวา และ วิกตอเรีย อาซาเรนกา น่าจะทำให้ “ราชินีไร้มงกุฎ” รายนี้ต้องรีบหาสแลมมาครอบครองให้ได้อย่างน้อยก็หนึ่งรายการ