ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เปิดเกมรุกแลกหมัดกับ เชลซี อย่างสนุกสูสีก่อนที่ผลจะจบลงด้วยการเสมอกันไป 1-1 ในบิ๊กแมตช์ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดก่อนเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2554
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-1 เชลซี
ที่สนามไวท์ ฮาร์ท เลน เป็นเกมคู่เอกก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสโดย ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับ 3 เปิดบ้านต้อนรับ เชลซี ทีมอันดับ 4 เกมนี้เจ้าถิ่นได้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ดาวยิงชาวโตโกและ แกเร็ธ เบล ปีกจรวดทีมชาติเวลส์ผ่านการทดสอบความฟิตกลับมาลงเล่นเป็น 11 คนแรก ขณะที่ทีมเยือนก็ได้ จอห์น เทอร์รี สลัดอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าระหว่างฝึกซ้อมลงคุมแนวรับ ส่วนแดนหน้าวาง 3 ประสานอย่าง ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ และ ฆวน มาตา
เปิดฉากมาได้แค่ 8 นาที “ไก่เดือยทอง” ก็ทะลวงตาข่ายขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ เบล ฉกบอลจาก สเตอร์ริดจ์ แล้วกระชากขึ้นมาทางซ้ายก่อนปาดเรียดมาหน้าประตูให้ อเดบายอร์ โฉบเข้ามาแปลอดตัว ปีเตอร์ เช็ก ตุงตาข่าย ถัดมา 3 นาที “สิงโตน้ำเงินคราม” เกือบตามตีเสมอได้ เมื่อ มาตา ลองยิงไกลหน้าเขตโทษถูก แบรด ฟรีเดล ทุบออกมาเข้าทาง สเตอร์ริดจ์ ซ้ำดาบสองระยะประมาณ 6 หลาโด่งข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วนาทีที่ 23 สกอร์ก็ขยับมาเท่ากันที่ 1-1 จนได้ เมื่อ แอชลีย์ โคล เติมเกมขึ้นมาทางซ้ายแล้วผ่านเข้ากลางให้ สเตอร์ริดจ์ แก้ตัวด้วยการแประยะเผาขนไม่เหลือซากท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่น สเปอร์ส ที่มองว่า โคล ทำแฮนด์บอลด้วยการใช้แขนแต่งบอลก่อนจ่ายให้ สเตอร์ริดจ์ แต่ก็ไม่เป็นผล จากนั้นนาทีที่ 28 เชลซี ก็เกือบพลิกขึ้นนำหลังจาก โชเซ โบซิงวา เปิดไปที่เสาสองให้ ดร็อกบา พักบอลลงแล้วตะบันเต็มข้อไปชนเสาอย่างจัง
ถึงนาทีที่ 32 บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ปราการหลังทีมชาติเซอร์เบียของทีมเยือนก็มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ เปาโล แฟร์เรรา ถูกส่งลงมาแทนพร้อมทั้งหุบ โบซิงวา เข้าไปเล่นเป็นปราการหลังคู่กับ จอห์น เทอร์รี ก่อนที่ โอริโอล โรเมอู จะลงมาแทน จอห์น โอบี มิเกล ที่เดี้ยงระหว่างเกมไปอีกรายในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ กระทั่งหมดครึ่งแรกยังคงเสมอกันอยู่ที่ 1-1
เข้าสูครึ่งหลัง สเปอร์ส ส่ง โรมัน พาฟลูเชนโก หัวหอกทีมชาติรัสเซียลงมาแทน ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ที่มีปัญหากล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง แต่เป็น “สิงห์บลูส์” ที่เกือบพังประตูแซงนำได้ในนาทีที่ 54 เมื่อ ดร็อกบา จ่ายให้ รามิเรส แตะเข้าไปกดในเขตโทษ ทว่า ฟรีเดล ยังล้มตัวเซฟเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น จากนั้นนาทีที่ 59 เจ้าบ้านก็ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จจากจังหวะที่ อเดบายอร์ ใช้อกกระแทกบอลตามน้ำผ่านมือ เช็ก เข้าไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตู เนื่องจากมองว่า วิลเลียม กัลลาส ไปทำฟาวล์ โบซิงวา ในเขตโทษก่อน
นาทีที่ 78 เชลซี ทิ้งไพ่ตายด้วยการส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงมาล่าตาข่ายแทน ดร็อกบา ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก อย่างไรก็ตาม ไก่เดือยทอง เกือบพังสกอร์ได้ 2 ครั้งซ้อนในนาทีที่ 85 เริ่มจากลูกยิงไกลของ ซานโดร ที่แฉลบกองหลังทำท่าจะย้อยเสียบใต้คาน แต่ เช็ก ยังถอยกลับไปกระโดดปัดข้ามคานได้ทัน ก่อนที่ เบล จะเปิดเข้ามาให้ กัลลาส ล้มตัวชาร์จจ่อๆ ข้ามคานอย่างน่าเสียดาย ขณะที่สิงห์บลูส์ก็หวิดได้เฮเช่นกันจาก รามิเรส ที่ขึ้นโขกคนเดียว ทว่าบอลเฉี่ยวเสาออกไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าบ้านน่าเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะอย่างยิ่งเมื่อ เบล ไหลทะลุช่องให้ อเดบายอร์ หลุดเดี่ยวเข้าไปแปสวนตัว เช็ก บอลทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ เทอร์รี อ่านเกมขาดตามมาสไลด์ขวางเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด จบ 90 นาที สเปอร์ส จึงเสมอกับ เชลซี 1-1 แบ่งไปทีมละ 1 คะแนน ทำให้ "ไก่เดือยทอง" มี 35 แต้ม ยึดอันดับ 3 อย่างเหนียวแน่น ส่วน "สิงโตน้ำเงินคราม" เก็บเพิ่มเป็น 33 คะแนน รั้งอันดับ 4 ต่อไป
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ - แบรด ฟรีเดล, ไคล์ วอล์คเกอร์, วิลเลียม กัลลาส, เล็ดลีย์ คิง, เบอนัวต์ อัสซู-เอกอตโต, ลูกา โมดริช, สกอตต์ พาร์เกอร์, ซานโดร, แกเร็ธ เบล, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, จอห์น โอบี มิเกล, รามิเรส, ราอูล เมเรเลส, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ฆวน มาตา