เชลซี อาศัยความเฉียบขาดในการจบสกอร์ของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงทีมชาติไอวอรีโคสต์ที่เหมาคนเดียว 2 ลูกช่วยให้ถล่ม บาเลนเซีย 3-0 พร้อมทั้งผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มอีอย่างสง่าผ่าเผย
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มอี
เชลซี (อังกฤษ) 3-0 บาเลนเซีย (สเปน)
ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี ทีมอันดับ 3 บนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดบ้านต้อนรับ บาเลนเซีย ทีมอันดับจากเวทีลา ลีกา สเปน เพื่อทำศึกชี้ชะตาเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ 16 ทีมสุดท้าย เกมนี้เจ้าถิ่นจัดผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามนำโดย จอห์น เทอร์รี ปราการหลังกัปตันทีม รวมถึง 3 แนวรุกอย่าง ดาเนียล สเตอร์ริดจ์, ฆวน มาตา และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ส่วนทีมเยือนนำทัพโดย ติโน คอสตา จอมทัพชาวอาร์เจนตินา และคู่หัวหอก โชนาส กับ โรเบร์โต โซลดาโด
เริ่มเกมมาได้เพียง 3 นาที “สิงโตน้ำเงินคราม” ก็พังประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ สเตอร์ริดจ์ โยนข้ามฟากจากขวาไปซ้ายให้ มาตา เกี่ยวบอลลงในเขตโทษแล้วจ่ายคืนมาที่ ดร็อกบา ล็อกหลบ อันโตนิโอ บาร์รากาน แล้วซัดด้วยซ้าย ดิเอโก อัลเวส ล้มตัวปัดโดนแต่เอาไม่อยู่ ลูกทะลักเข้าสู่ก้นตาข่าย อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 5 “ค้างคาว” หวิดตีเสมอได้อย่างทันควัน เมื่อ โชนาส สอดเข้าไปรับบอลในเขตโทษด้านซ้ายแล้วยิงมุมแคบผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก ไปแล้ว ทว่าบอลชนเสาออกหลังอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นนาทีที่ 10 บาเลนเซีย เกือบตีเสมอได้อีกครั้งจากการยิงไกลร่วม 35 หลาของ ดาบิด อัลเบลดา มิดฟิลด์กัปตันทีม แต่ เช็ก ยังไม่พลาดบินปัดก่อนบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมออกหลังไปได้อย่างยอดเยี่ยม กระทั่งนาทีที่ 22 สกอร์ก็ไหลเพิ่มเป็น 2-0 สำหรับ เชลซี เมื่อ ดร็อกบา พาบอลสวนกลับขึ้นมาแล้วจ่ายให้ รามิเรส เบียด บิคตอร์ รูอิซ ที่เสียเหลี่ยมเข้าไปแย่งลูกแบบดื้อๆ แล้วจัดการแปสวนตัว ดิเอโก อัลเวส ที่ออกมาปิดมุมเสียบเสาแรก จากนั้นเจ้าถิ่นก็คุมสสถานการณ์ไว้ได้โดยที่ทีมเยือนเจาะไม่เข้า จบครึ่งแรก “สิงห์บลูส์” นำอยู่ 2-0
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง “ค้างคาว” เริ่มเดินหน้าบดขยี้เข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ เชลซี เน้นตั้งรับแล้วหาจังหวะสวนกลับ นาทีที่ 62 บาร์รากาน เปิดจากริมเส้นด้านขวาบอลลอยโด่งจนเกือบเสียบใต้คาน แต่ เช็ก ยังกระโดดปัดออกหลังไปได้ 2 นาทีให้หลัง โซฟิยาน เฟกูลี ลองกดบริเวณเส้นเขตโทษฝั่งซ้าย ทว่า เช็ก ยังโชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกไปได้อีก จากนั้นนาทีที่ 72 เจ้าบ้านโต้กลับเร็วโดย สเตอร์ริดจ์ ทิ้งบอลไปข้างหน้าให้ ดร็อกบา ใช้ความแข็งแกร่งเบียดเอาชนะ อาดิล รามี เข้าไปยิงผ่านมือ ดิเอโก อัลเวส แต่บอลเฉี่ยวเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม เชลซี มาได้ประตูนำห่างไปไกลเป็น 3-0 ในนาทีที่ 76 จากจังหวะที่ตัดบอลได้ตรงกลางสนามก่อนที่ มาตา จะจ่ายทะลุช่องให้ ดร็อกบา หลุดเดี่ยวเข้าไปจิ้มสวนตัว ดิเอโก อัลเวส ส่งลูกค่อยๆ กลิ้งเข้าสู่ก้นตาข่าย จากนั้น ดร็อกบา ก็ถูกเปลี่ยนตัวออกมาพักแล้วให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงชาวสแปนิชลงมาล่าตาข่ายแทนก่อนจะตรึงสกอร์เอาไว้ได้จนจบเกม ทำให้ เชลซี มี 11 คะแนนแซงขึ้นมาคว้าแชมป์กลุ่มอี เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ส่วน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ที่บุกไปเสมอ ราซิง เกงค์ 1-1 ตามเข้ารอบมาเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม มี 10 คะแนน ขณะที่ บาเลนเซีย ตกรอบลงไปเล่นยูโรปาลีก
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, โอริโอล โรเมอู, รามิเรส, ราอูล เมเรเลส, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ฆวน มาตา
บาเลนเซีย - ดิเอโก อัลเวส, อันโตนิโอ บาร์รากาน, อาดิล รามี, บิคตอร์ รูอิซ, ฆอร์ดี อัลบา, โซฟิยาน เฟกูลี, ติโน คอสตา, ดาบิด อัลเบลดา, เฌเรมี มาติเยอ, โชนาส, โรเบร์โต โซลดาโด
ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย
กลุ่มอี
ราซิง เกงค์ (เบลเยียม) เสมอ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (เยอรมนี) 1-1
เชลซี (อังกฤษ) ชนะ บาเลนเซีย (สเปน) 3-0
หมายเหตุ - เชลซี และ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย บาเลนเซีย ไปเล่นยูโรปาลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย
กลุ่มเอฟ
โอลิมเปียกอส (กรีซ) ชนะ อาร์เซนอล (อังกฤษ) 3-1
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี) แพ้ โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) 2-3
หมายเหตุ - อาร์เซนอล และ โอลิมปิก มาร์กเซย เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย โอลิมเปียกอส ไปเล่นยูโรปาลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย
กลุ่มจี
เอฟซี ปอร์โต (โปรตุเกส) เสมอ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) 0-0
อาโปเอล นิโคเซีย (ไซปรัส) แพ้ ชัคห์เตอร์ โดเนทส์ค (ยูเครน) 0-2
หมายเหตุ - อาโปเอล นิโคเซีย และ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เอฟซี ปอร์โต ไปเล่นยูโรปาลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย
กลุ่มเอช
วิคตอเรีย เปิลเซน (สาธารณรัฐเช็ก) เสมอ เอซี มิลาน (อิตาลี) 2-2
บาร์เซโลนา (สเปน) ชนะ บาเต บอริซอฟ (เบลารุส) 4-0
หมายเหตุ - บาร์เซโลนา และ เอซี มิลาน เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย วิคตอเรีย เปิลเซน ไปเล่นยูโรปาลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย