“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี จ่าฝูงของตารางประสบความปราชัยนัดแรกของฤดูกาล หลังบุกแพ้ต่อ “สิงห์บลูส์” เชลซี 1-2 โดยประตูชัยจากลูกจุดโทษนาที 82 ของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 2 - 1 แมนฯ ซิตี
แมนฯ ซิตี เดินทางบุกเยือนสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของ เชลซี เพื่อรักษาส่วนต่างของคะแนนนำจ่าฝูง 5 แต้ม จากอันดับสอง แมนฯ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมเมืองต่อไป เกมนี้ โรแบร์โต มันชินี กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” ยังให้ มาริโอ บาโลเตลลี ลงสนามเป็นตัวจริง แม้หัวหอกชาวอิตาเลียนตกเป็นข่าวว่าแอบท่องราตรีก็ตามโดยล่าตาข่ายร่วมกับ เซร์คิโอ อกูเอโร พร้อมกับมี ดาบิด ซิลบา คอยสนับสนุน ขณะที่ “สิงห์บลูส์” ของ อังเดร บียาส-โบอาส ดร็อป แฟรงค์ แลมพาร์ด เป็นเพียงสำรอง ราอูล เมเรเลส ทำเกมตรงกลางร่วมกับ ออริโอล โรเมอู และ รามิเรส ส่วนสามประสานแดนหน้าเป็น ฆวน มาตา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์
เปิดฉากครึ่งแรกเพียง 2 นาที แมนฯ ซิตี ทำเกมบุกขึ้นมาจังหวะแรก อกูเอโร แทงบอลให้ บาโลเตลลี หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปแตะหลบ ปีเตอร์ เช็ก นายด่านเชลซี ก่อนยิงบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายง่ายๆ ทำให้ทีมเยือนออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว
ทีมของมันชินียังทำเกมดีกว่า ผ่านมาถึงนาที 11 เชลซี เสียบอลกันบริเวณกลางสนาม คราวนี้ บาโลเตลลี เป็นคนจ่ายบอลให้ อกูเอโร หลุดเข้าเขตโทษ กองหน้าอาร์เจนไตน์เลี้ยงหาช่องจนได้ตวัดยิงเสาแรก แต่บอลหลุดกรอบออกหลังนิดเดียว
เจ้าถิ่นมีโอกาสลุ้นประตูครั้งแรกในนาที 24 ดร็อกบา ได้บอลบริเวณเส้นเขตโทษ ก่อนแตะเข้าไปซัดเสาแรก โจ ฮาร์ท ต้องปัดปลายมือ ทีมของ บียาส-โบอาส ทำเกมดีขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งนาที 34 ก็ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ สเตอร์ริดจ์ ได้บอลทางริมเขตโทษด้านขวา แตะหลบ กาแอล กลีชี เข้าไปในเขตโทษ ก่อนเปิดบอลมาให้ เมเรเลส ชาร์จหน้าปากประตู ฮาร์ท ได้แต่ยืนมอง
ช่วงท้ายครึ่งแรก เกมของทั้งสองทีมเนือยลงไป จนไม่มีจังหวะลุ้นประตูแบบชัดเจน โดย อกูเอโร มีโอกาสยิงในเขตโทษให้ แมนฯ ซิตี อีกครั้ง แต่บอลไม่ตรงกรอบ สุดท้ายไม่มีฝ่ายใดบวกประตูเพิ่มกระทั่งกรรมการเป่านกหวีดยาวจบเกม 45 นาทีแรก
เกมครึ่งหลัง นาที 47 เชลซี ได้ลุ้นฟรีคิกจากระยะกว่า 30 หลา มาตา วางบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ บอลตกใส่ สเตอร์ริดจ์ แต่งหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยขวาเหินข้ามคานนิดเดียว เจ้าถิ่นบุกกดดันอย่างต่อเนื่องจนมาถึงนาที 57 ก็เกิดจุดเปลี่ยนของเกม เมื่อ กลิชี ไปเตะสกัด รามิเรส จนถูกใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนาม แมนฯ ซิตี เหลือผู้เล่น 10 คน ด้าน ดร็อกบา ยิงฟรีคิกระยะ 20 หลาจากจังหวะฟาวล์ดังกล่าว แต่ซัดเหินข้ามคาน
มันชินี ต้องปรับเปลี่ยนทีมส่ง โคโล ตูเร ลงมาแทน อกูเอโร เพื่อค้ำแนวรับ ขณะที่ บียาส-โบอาส ก็ส่ง แฟรงค์ แลมพาร์ด ลงมาแทน เมเรเลส ในนาที 73 ของเกม “สิงห์บลูส์” อาศัยตัวผู้เล่นที่เหนือกว่ากดดันต่อ ผ่านมาถึงนาที 81 ดร็อกบา ได้บอลหน้าเขตโทษ ก่อนตอกส้นมาให้ รามิเรส จิ้มด้วยหัวเกือกไปเข้าซอง ฮาร์ท
แต่แล้วนาทีถัดมา สเตอร์ริดจ์ เก็บบอลในเขตโทษ ก่อนยิงไปถูกแขน โจเลียน เลสคอตต์ เป็นแฮนด์บอล กรรมการเป่าให้จุดโทษ แลมพาร์ด รับหน้าที่สังหารไม่พลาดทำให้ เชลซี พลิกนำ 2-1 ช่วงท้ายเกม เอดิน เชโก ถูกส่งลงมาเติมเกมรุกให้ทีมเยือน แต่ไม่สามารถตามตีเสมอได้จบเกม แมนฯ ซิตี แพ้นัดแรกของฤดูกาลและพลาดทำคะแนนทิ้งห่าง แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเหลือการนำเพียง 2 แต้ม ขณะที่ เชลซี มีเพิ่ม 31 แต้มขึ้นมาอยู่ที่ 3 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, แอชลีย์ โคล, โชเซ โบซิงวา, ออริโอล โรเมอู, ราอูล เมเรเลส, รามิเรส, ฆวน มาตา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์
แมนฯ ซิตี - โจ ฮาร์ท, โจเลียน เลสคอตต์, แวงซองต์ กอมปานี, กาแอล กลิชี, พาโบล ซาบาเยตา, แกเร็ธ แบร์รี, ยายา ตูเร, เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลบา, มาริโอ บาโลเตลลี, เซร์คิโอ อกูเอโร