ASTV ผู้จัดการรายวัน - “หนุ่มอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปจากเหตุการณ์ 2 ใบแดง 2 สังเวียน ในเวลาเพียง 3 วัน ซึ่งแบ็คซ้ายดาวรุ่งทีมชาติไทยประเดิมใบแรกจากการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2012 นัดที่ไทย บุกไปแพ้ ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย ให้หลังเพียง 2 วันเขาก็โดนตะเพิดจากสนามอีกครั้งในการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์นัดพ่ายอินโดนีเซีย จนกลายเป็นแพะรับบาปในการตกรอบของทีม แถมยังโดนคณะกรรมการพิจารณามารยาทฯ ของสมาคมฟุตบอลลงโทษแบน 1 นัด จากการไปย่ำใส่คู่แข่งทีมโอสถสภาฯ ในเกมลีก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวล้วนทำลายภาพลักษณ์ของนักเตะดาวรุ่งรายนี้จนทำให้คนส่วนใหญ่ยัดเยียดภาพพจน์ "แบดบอย" ให้เขาไปเรียบร้อย แต่แก่นแท้ของ ธีรทร ผู้นี้เป็นคนอย่างไรกันแน่ วันนี้เรามาฟังความในใจของเขาแบบช้าๆชัดๆกันดีกว่า
เจ้าหนุ่มสายล่อฟ้าผู้นี้ได้เปิดใจกับ MGR Sport ถึงจุดเริ่มต้นบนเส้นทางลูกหนังไทยตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะระดับเยาวชนว่า “ผมเริ่มต้นเมื่ออายุ 8 ปีได้คัดตัวกับโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร จากนั้นอายุ 15 ปีได้ย้ายเข้าโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี และเป็นกำลังช่วยทีมคว้าแชมป์ในฟุตบอลระดับนักเรียนหลายรายการจนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย ก่อนประเดิมเล่นระดับสโมสรให้กับราชประชาในศึกดิวิชั่น 2 ซึ่งจากฟอร์มการเล่นที่เตะตาในช่วงนั้น ทำให้ได้รับความสนใจจากสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดึงตัวไปเล่น 1 ปี ต่อมาสโมสรฯ เปลี่ยนมาอยู่ภายใต้การบริหารของ เนวิน ชิดชอบ พร้อมกับสถาปนาชื่อใหม่เป็น “บุรีรัมย์ พีอีเอ” ซึ่งได้เป็นตัวหลักลงรับใช้สโมสรอย่างต่อเนื่องมากว่า 2 ปีแล้ว”
ทั้งนี้ "หนุ่มอุ้ม" เผยถึงทีมเป้าหมายกับสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” ในฤดูกาลนี้ว่า “เป้าหมายกับสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ คือการพาทีมคว้าทุกแชมป์เริ่มจากไทยพรีเมียร์ลีก โตโยต้า ลีกคัพ และ เอฟเอคัพ ทั้งนี้หากผมยังรักษาฟอร์มดีกับสโมสรได้อย่างต่อเนื่องก็คงได้รับโอกาสกลับไปรับใช้ทีมชาติอีกครั้ง ซึ่งขอสัญญาว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
พร้อมกันนี้ ธีราทร ยังกล่าวถึงทีมลูกหนัง และนักเตะผู้เป็นแรงบันดาลใจของตัวเองว่า “ผมชื่นชอบสโมสรอาร์เซนอลและมีนักเตะในดวงใจ คือ แอชลีย์ โคล แบ็คซ้ายทีมชาติอังกฤษที่แจ้งเกิดกับอาร์เซนอล ก่อนย้ายมาสังกัดสโมสรเชลซี เพราะเล่นตำแหน่งเดียวกันที่สำคัญชอบสไตล์การเล่นของเขามาก”
ขณะเดียวกัน “แบ็คซ้ายดาวรุ่งทีมชาติไทย” เปิดใจถึงเหตุการณ์ 2 ใบแดงในการรับใช้ชาติว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต แต่จะยังไม่ยอมเปลี่ยนสไตล์การเล่นที่ดุดันแน่นอน “ถือเป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งในชีวิตนักฟุตบอล ซึ่งผมไม่ต้องการที่จะแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น แต่ขอสัญญาว่าจะพยายามควบคุมอารมณ์ให้ดีขึ้นทั้งภายในและนอกสนามเพื่อไม่ให้ครอบครัวและแฟนบอลหมดกำลังใจและหมดศรัทธาในตัวผม ทั้งนี้ขอขอบคุณครอบครัวที่คอยเป็นแรงบันดาลใจให้ก้าวเดินต่อไปในอาชีพนักฟุตบอล ซึ่งความจริงยอมรับว่าส่วนตัวเป็นคนเกเร และผมจะไม่ยอมทนดูอย่างนิ่งเฉยหากมีใครมารังแกเพื่อนร่วมทีม ซึ่งจะขอยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนสไตล์การเล่นแน่ๆ”
นอกจากนี้ “เจ้าอุ้ม” ที่กำลังศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด กล่าวถึงอนาคตของตนเองว่า “ที่เลือกคณะดังกล่าวเนื่องจากมีรุ่นพี่นักเตะลงเรียนกันเป็นจำนวนมากผมจึงสนใจเป็นพิเศษ ทั้งนี้ในอนาคตจากเดิมต้องการเข้าทำงานที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แต่อนาคตเป็นเรื่องไม่แน่นอน จึงต้องมีการพิจารณาอีกครั้งในเวลาอันใกล้”
ก่อนจะปิดท้ายที่เรื่องหัวใจหลังจากมีข่าวลือควงแฟนสาว นิสิตมหาวิทยาลัยชื่อดัง จ.ชลบุรี เข้าร้านเวดดิ้ง สตูดิโอ ปรากฎว่าแบ็คซ้ายทีมชาติไทยในสังกัด “ปราสาทสายฟ้า” กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “ยอมรับว่าเข้าไปในร้านสตูดิโอและถ่ายรูปจริง แต่ไม่ได้สวมใส่ชุดแต่งงาน และคงยังไม่คิดไปถึงเรื่องแต่งงานเพราะเป็นเรื่องของอนาคต ส่วนภาพลักษณ์แบดบอยผมว่าไม่จริงเลยครับ จริงๆ ผมเรียบร้อยกว่าที่เห็นในสนามมาก”
