"บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย อับอายที่สถานีกีฬาเพื่อประชาชน (ทีสปอร์ต) ชวดถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 เหตุเพราะรัฐบาลจัดงบอุดหนุนเพียงปีละ 15 ล้านบาท ขณะที่ "มาดามมล" ประธานกมธ.สว.กีฬา วอนรัฐบาลอย่าหั่นงบกีฬา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม 2555 "มาดามมล" นฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา (กมธ.กีฬา ส.ว.) เป็นประธานการประชุมกมธ.กีฬา โดยมีวาระที่สำคัญคือการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในส่วนที่เกี่ยวกับการกีฬา โดยมี ดร.สุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางแสงจันทร์ วรสุมันต์ อธิบดีกรมพละศึกษา, "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ นายสมพงษ์ ชาตะวิถี อธิการบดีสถาบันการพละศึกษา เข้าร่วมชี้แจ้ง ที่ห้อง 309 อาคารรัฐสภา 2
โดย ดร.สุวัตร กล่าวต่อที่ประชุมว่า "ภาพรวมของงบประมาณปี 2555 ที่รัฐบาลจัดสรรมาให้ในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอยู่ที่ 15,593 ล้านบาทเศษ ปรับลดจากปี 2554 ที่เคยได้รับมา 16,000 ล้านบาท โดยตัวเลขดังกล่าวยังไม่มีการปรับลดลงอีก 10 % เพื่อช่วยปัญหาผู้ประสบปัญหาอุทกภัย ทั้งนี้จากเงิน 15,593 ล้านบาทเศษ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ งบด้านการท่องเที่ยว คิดเป็น 53.14 % ด้านกีฬา 46.86 % หรือคิดเป็นเงินที่ 7,125.6336 ล้านบาท ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าวถือว่างบประมาณในด้านกีฬามีความสำคัญไม่แพ้ด้านการท่องเที่ยว"
ขณะที่ นางแสงจันทร์ กล่าวถึงส่วนของกรมพละศึกษาว่า "ได้รับงบประมาณที่ 1,601 ล้านบาท และยอมรับว่าในแต่ละปีการจัดตั้งบประมาณจะมีการปรับลดและไม่ได้ตามความต้องการ ซึ่งมีปัจจัย 3 เรื่องคือ บุคคลากร, ค่าใช้จ่ายในดำเนินการ และ ในเรื่องการบริหารจัดการ"
ทางนายสมพงษ์ ระบุว่าส่วนของสถาบันการพละศึกษาว่า "ได้เสนอของบประมาณที่ 2,219 ล้านบาท แต่อาจมีการปรับลดลง 60 ล้านบาทเหลือ 2,159 ล้านบาท เพราะอนุกรรมการตัดงบฯ ออกในส่วนของระบบไอซีที และงบในการปรับปรุงสถาบันการพละวิทยาเขตจังหวัดชลบุรี ทั้งนี้จุดเน้นของรัฐบาลที่จะให้พัฒนาศักยภาพของนักกีฬาที่อยู่ในความดูแลของสถาบันการพละมี 3 เรื่องคือ 1.ให้ทุนสนับสนุนในการศึกษาต่อต่างประเทศ, 2.ผลิดบัณฑิตให้มีคุณภาพ และ 3.ด้านการบริหารจัดการ"
จากนั้น "บิ๊กหนุ่ม" เผยว่า "ทางกกท.สรุปงบประมาณไว้ที่ 3,184 ล้านบาท โดยในปี 2555 จะดำเนินพันธกิจเดิมและต่อยอดโครงการ "พัฒนากีฬาสู่ความเป็นเลิศ" และผลักดัน 12 ชนิดกีฬาให้เป็นอาชีพอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันทางกกท.มีงบฯ ลงทุน 749 ล้านบาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสร้างสนามกีฬาแห่งใหม่อีก 7-8 จังหวัด"
นอกจากนี้ผู้ว่าการกกท.ชี้แจ้งถึงคำถามในการดำเนินงานของสถานีทีวีกีฬาเพื่อประชาชน (ทีสปอร์ต) และเรื่องงบประมาณที่ใช้จ่ายปีละ 100 ล้านต่อที่ประชุมว่า "เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทีสปอร์ต ใช้งบประมาณเพียงปีละ 15 ล้านบาท สำหรับออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจุบันปีนี้เป็นปีแรกที่ได้งบฯ 100 ล้านบาท หากนำไปเปรียบเทียบกับ ไทยพีบีเอส ที่ได้งบประมาณจากภาษีสรรพสามิต (ภาษีบาป) ปีละ 2,000 ล้านบาทและไม่ได้ออกอากาศ 24 ชั่วโมง ตนคิดว่า ทีสปอร์ต เป็นสถานีโทรทัศน์ที่ได้รับงบฯ น้อยที่สุดในโลกแล้ว"
"อย่างไรก็ตามการดำเนินงานของ ทีสปอร์ต มีจุดยืนเพื่อผลักดันผลงานของนักกีฬาไทยทุกชนิดกีฬา และหากวัดด้วยเรตติงแล้วนับว่า ทีสปอร์ต มีคนชมมากที่สุดและช่องทีวีกีฬาอื่นๆ เกรงกลัว ทีสปอร์ต ทั้งหมด ขณะเดียวกันในฐานะที่ตนเป็นผู้บริหารนับว่าเป็นเรื่องน่าอับอายมากที่ไม่สามารถถ่ายทอดสดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ได้ เพราะไม่มีงบประมาณมากพอ"
ท้ายนี้ "มาดามมล" กล่าวสรุปว่า "จากงบประมาณฯ ที่ได้รับทราบถือว่าไม่เพียงพอ หากต้องการพัฒนาบุคลากร, ผู้ฝึกสอนรวมถึงนักกีฬา, สนาม, ที่พัก ตนอยากให้ไม่มีการตัดงบฯ เลย ขณะเดียวตนเข้าใจว่ารัฐบาลจะนำเงินไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม แต่อย่างไรก็ตามกีฬาทำให้เกิดปัญหาสังคมน้อยลง เพราะหากเยาวชนหันมาสนใจเล่นกีฬาก็จะห่างไกลกับปัญหายาเสพติดด้วย ส่วนสนามที่จะสร้างใหม่ตนต้องการให้รองรับในระดับสากลได้ เพราะจะได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่"