นายกฯ ยันรัฐส่งเสริมพลังงานทดแทน โยนพลังงานดูช่วยแก๊สโซฮอล์ คาด ส่วนต่างไม่ต่ำกว่า 2 บาท ยันเงินกองทุนน้ำมันยังช่วยได้ ชี้ ขึ้นภาษีบาปแค่แนวคิด จ่อดูโครงสร้างสินค้า บางอย่างต้องเสรี และเป็นธรรม เผย เร่งศึกษาลดราคาอะไรบ้าง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (30 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ถึงการหามาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านต่างๆ หลังรัฐบาลมีนโยบายงดการเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์ และทราบข่าวจากผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งยังคงยืนยันในนโยบายเดิมที่จะส่งเสริมพลังงานทดแทน และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ต้องการที่จะสวนตลาด และเรื่องนี้ตนได้ฝากเรื่องไปยัง รมว.พลังงาน คณะกรรมการบริหารนโยบายด้านพลังงาน (กบง.) เพื่อดูเรื่องอัตราการช่วยเหลือแก๊สโซฮอล์ ซึ่งแนวทางจะดูในเรื่องราคาเพื่อช่วยเหลือในผู้ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ โดยวิธีการจะไม่เกี่ยวข้องกับการลดภาษี แต่จะดูเรื่องของชะลอการเก็บกองทุนน้ำมัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องของราคาส่วนต่างของราคาน้ำมันเบนซิน กับแก๊สโซฮอลล์ จะอยู่ที่เท่าไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ส่วนต่างคงจะไม่มากนัก เพียงแค่ระดับหนึ่งที่พอจะรับได้ โดยจะไปดูตัวเลขทั้งหมดในภาพรวมที่ไม่ได้มากเกินไป แต่ก็ไม่ได้น้อยจนถึงขนาดที่ว่าจะทำให้คนหันมาเปลี่ยนมาใช้ ขณะนี้รัฐบาลอยากจะดูแลในส่วนของผู้ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ด้วย เพราะถือว่าเป็นผู้ที่ใช้ส่วนใหญ่
ซักต่อว่า ส่วนต่างของราคาน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ จะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ตามแนวที่รัฐบาลเห็นว่าเหมาะสม นายกฯ กล่าวว่า อย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 2 บาท
เมื่อถามว่า นโยบายที่ดำเนินการในขณะนี้จะกระทบต่อฐานะการเงินและการคลังหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เบื้องต้นเรายังมีวงเงินต่างๆ สำหรับกองทุนน้ำมันฯ ก็ยังสามารถที่ยังดูแลได้ระยะหนึ่ง เราจะติดตามการใช้งานและติดตามภาวะต่างๆ เป็นระยะอยู่แล้ว ก็พยายามที่จะรักษาวินัยการเงินการคลังไว้
ส่วนกรณีที่มีผู้หันมาใช้น้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นถึง 200% แต่ขณะเดียวกัน การใช้แก๊สโซฮอล์ก็ลดลงมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบและควรต้องมีการประเมินเรื่องการปรับราคาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นเพียงเบื้องต้นที่ราคาน้ำมันลงค่อนข้างมาก จึงมีผลว่าคนส่วนใหญ่ตื่นไปใช้ แต่สักระยะหนึ่งคาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติ ตนขอติดตามปริมาณการใช้อีกสัก 1-2 สัปดาห์ เพื่อจะได้ประเมินราคาอยู่เป็นระยะๆ
ถามต่อว่า จะหารายได้ส่วนไหนมาชดเชยจากที่เราสูญเสียการลดราคาน้ำมัน นายกฯ กล่าวว่า จะต้องไปดูส่วนอื่นๆประกอบ แต่ไม่ได้บอกว่าเราจะทำที่ไหนและจะไปชดเชยตรงนั้น ถ้าเราทำงานและทุกกระทรวงให้ความร่วมมือเรื่องของการดูแลต้นทุนจะดีขึ้น ซักต่อ จะมีการขึ้นภาษีบาป ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน แต่นั่นคือแนวคิดที่เสนอกันเท่านั้น ขณะนี้เรายังไม่คิดที่จะขึ้นอะไร
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะมีมาตรการปรับให้ราคาสินค้าลดลงหลังจากที่ราคาน้ำมันลดลงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องของสินค้ารัฐบาลต้องเข้าไปทำงานกับผู้ประกอบการ เบื้องต้นจะเป็นการขอความร่วมมือ แต่ระยะยาวก็ต้องไปดูโครงสร้างทั้งหมด และสินค้าบางอย่างก็ต้องให้มีการแข่งขันอย่างเสรี และเป็นธรรม ซึ่งถ้าทำได้ก็เชื่อว่าราคาต่างๆก็จะปรับเข้ามาได้ ส่วนจะเป็นสินค้าประเภทไหนนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังศึกษาอยู่ ตอนนี้เป็นเรื่องของภาพรวมเมื่อเสร็จแล้วก็จะไล่ไปดูในสินค้าแต่ละตัว
ถามต่อว่า ต้องใช้เวลาในการศึกษาอีกนานเท่าไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ทีมงานศึกษาอยู่ คงไม่นานจะเร่งให้เร็วที่สุด เพราะว่าบางอย่างไม่อยากพูดเพราะจะส่งผลกระทบต่อด้านราคา
