ปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เช ยอง ซอก ยอดโค้ชชาวเกาหลีใต้ตัดสินใจชะลอแผนการขอสัญชาติไทยออกไปด้วยเหตุผลเรื่องความสะดวกในการขอวีซ่าเวลาเดินทางไปแข่งขันยังต่างประเทศ แต่ยืนยันว่าสมาคมพร้อมจัดการให้ทุกเมื่อหากเจ้าตัวต้องการ พร้อมทั้งเตรียมพูดคุยกันเรื่องการต่อสัญญาหลังจบโอลิมปิกเกมส์ 2012
สืบเนื่องจาก “โค้ชเช” ที่สร้างผลงานในกีฬาเทควันโดให้กับประเทศไทยมาเป็นเวลา 9 ปี ตั้งแต่เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เคยขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ของสมาคมในการประสานงานติดต่อขอโอนสัญชาติไทย เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในการอยู่เมืองไทยไปทั้งชีวิต แต่หากไม่สามารถโอนสัญชาติไทยได้ก็หวังถือ 2 สัญชาติระหว่าง ไทย และ เกาหลีใต้ ทว่าข่าวคราวได้เงียบหายไปนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด ปรีชา ต่อตระกูล เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า “อันที่จริงสมาคมสามารถประสานงานให้ได้ทุกเมื่อ เพราะเขามีคุณสมบัติครบถ้วนในการขอสัญชาติไทยกรณีพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการอยู่เมืองไทยมานานกว่า 5 ปี และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศจนได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พร้อมทั้งมีชื่อไทยว่า 'ชัยศักดิ์' แล้ว แต่เขาก็ตัดสินใจชะลอแผนนี้ไว้ก่อน หลังจากมีการพูดคุยกันว่าหากเขาถือสัญชาติไทยจะไม่ได้รับความสะดวกเวลาขอวีซ่าเดินทางไปแข่งยังต่างประเทศมากเท่ากับการถือสัญชาติเกาหลีใต้ซึ่งทำข้อตกลงระหว่างประเทศทั่วโลกครอบคลุมมากกว่า”
นายปรีชา กล่าวต่อไปถึงแผนการปักหลักเมืองไทยของ “โค้ชเช” ว่า “เขาใกล้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาจิตวิทยาการกีฬา คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ม.เกษตรศาสตร์ ซึ่งอีกไม่นานนี้เขาก็จะได้เป็น ดร.เช และรอการบรรจุเป็นอาจารย์สอนประจำเพื่อนำความรู้มาช่วยสร้างบุคลากรด้านกีฬาให้กับประเทศไทยต่อไป อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หน้าที่หลักของเขา คือ การเป็นโค้ชของสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์เหรียญแรกในกีฬาโอลิมปิกให้กับเทควันโดทีมชาติไทยในลอนดอนเกมส์ 2012 ที่อังกฤษ ซึ่งส่วนตัวผมเชื่อว่าเขามีศักยภาพมากพอที่จะบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี้ได้”
“จากนั้น คุณพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทยจะเรียกประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องการต่อสัญญาของ โค้ชเช ซึ่งจะหมดลงหลังจบโอลิมปิกเกมส์ 2012 โดยดูจากผลงานที่ลอนดอน แต่หาก โค้ชเช ขอวางมือจากการทำหน้าที่โค้ชเพื่อไปเป็นอาจารย์สอนประจำที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เราก็จะให้เขารับตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาของสมาคมฯ แต่ทุกอย่างยังเป็นเรื่องของอนาคตซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกันอย่างจริงจังต่อไป” อุปนายกสมาคมจอมเตะไทย ทิ้งท้าย
สืบเนื่องจาก “โค้ชเช” ที่สร้างผลงานในกีฬาเทควันโดให้กับประเทศไทยมาเป็นเวลา 9 ปี ตั้งแต่เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เคยขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ของสมาคมในการประสานงานติดต่อขอโอนสัญชาติไทย เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในการอยู่เมืองไทยไปทั้งชีวิต แต่หากไม่สามารถโอนสัญชาติไทยได้ก็หวังถือ 2 สัญชาติระหว่าง ไทย และ เกาหลีใต้ ทว่าข่าวคราวได้เงียบหายไปนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด ปรีชา ต่อตระกูล เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า “อันที่จริงสมาคมสามารถประสานงานให้ได้ทุกเมื่อ เพราะเขามีคุณสมบัติครบถ้วนในการขอสัญชาติไทยกรณีพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการอยู่เมืองไทยมานานกว่า 5 ปี และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศจนได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พร้อมทั้งมีชื่อไทยว่า 'ชัยศักดิ์' แล้ว แต่เขาก็ตัดสินใจชะลอแผนนี้ไว้ก่อน หลังจากมีการพูดคุยกันว่าหากเขาถือสัญชาติไทยจะไม่ได้รับความสะดวกเวลาขอวีซ่าเดินทางไปแข่งยังต่างประเทศมากเท่ากับการถือสัญชาติเกาหลีใต้ซึ่งทำข้อตกลงระหว่างประเทศทั่วโลกครอบคลุมมากกว่า”
นายปรีชา กล่าวต่อไปถึงแผนการปักหลักเมืองไทยของ “โค้ชเช” ว่า “เขาใกล้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาจิตวิทยาการกีฬา คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ม.เกษตรศาสตร์ ซึ่งอีกไม่นานนี้เขาก็จะได้เป็น ดร.เช และรอการบรรจุเป็นอาจารย์สอนประจำเพื่อนำความรู้มาช่วยสร้างบุคลากรด้านกีฬาให้กับประเทศไทยต่อไป อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หน้าที่หลักของเขา คือ การเป็นโค้ชของสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์เหรียญแรกในกีฬาโอลิมปิกให้กับเทควันโดทีมชาติไทยในลอนดอนเกมส์ 2012 ที่อังกฤษ ซึ่งส่วนตัวผมเชื่อว่าเขามีศักยภาพมากพอที่จะบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี้ได้”
“จากนั้น คุณพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทยจะเรียกประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องการต่อสัญญาของ โค้ชเช ซึ่งจะหมดลงหลังจบโอลิมปิกเกมส์ 2012 โดยดูจากผลงานที่ลอนดอน แต่หาก โค้ชเช ขอวางมือจากการทำหน้าที่โค้ชเพื่อไปเป็นอาจารย์สอนประจำที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เราก็จะให้เขารับตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษาของสมาคมฯ แต่ทุกอย่างยังเป็นเรื่องของอนาคตซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกันอย่างจริงจังต่อไป” อุปนายกสมาคมจอมเตะไทย ทิ้งท้าย