"บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยืนยัน สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ให้ 1 โควต้าเอเอฟซี แชมเปียนลีกส์ รอบสุดท้ายอัตโนมัติ และ 1 รอบเพลย์ออฟ แก่สโมสรฟุตบอลทีมชาติไทย ขณะเดียวกันแต่งตั้ง "วินนี" วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทยคุมแข้งทุกระดับเพื่อความสอดคล้อง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2554 วรวีร์ มะกูดี นากยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารฟุตบอลทีมชาติไทย พร้อมด้วย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด, วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย และคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลฯ ณ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน พระราม 9
โดยที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมของนักฟุตบอลชุดอายุไม่เกิน 13 ปี,16 ปี,19 ปี และ 23 ปี รวมถึงทีมชาติชุดใหญ่ หลังจบการประชุม "บังยี" วรวีร์ มะกูดี กล่าวว่า "ภาพรวมดีโดยเฉพาะชุดยู-16 ปี และยู-19 ปี ต่างเป็นแชมป์อาเซียนที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายซึ่งจะคัดเพียง 4 ทีมเป็นตัวแทนเอเชียเข้าไปเล่นฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลกชุด ยู-17 และ ยู-20 ส่วนชุด 23 ปี ยอมรับว่ามีหลายเรื่องที่ต้องปรับปรุงแก้ไข ทั้งนี้ทีมชาติชุดใหญ่ยังเหลือโปรแกรมให้ลุ้นเข้ารอบต่อไป นัดสุดท้ายวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 ด้วยการบุกไปเยือนโอมาน แม้นัดแรกไทยจะชนะในบ้าน แต่ก็จะประมาทไม่ได้ขณะเดียวกันไทยต้องชนะเท่านั้น ที่สำคัญต้องให้ ซาอุดิอาระเบีย แพ้ ออสเตรเลีย ด้วย"
"ที่ประชุมมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับหน้าที่ของโค้ชโดยต้องมีหัวหน้าโค้ชที่มีสัญญาว่าจ้างที่ชัดเจน แน่นอนกับทางสมาคมฯ ระยะเวลาอาจจะเป็น 2 หรือ 3 ปี ทั้งนี้โค้ชทุกคนต้องอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของหัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชชุดใหญ่ นั่นคือ วินฟรีด เชเฟอร์ เพื่อวางแผนให้สอดคล้องกันในระยะยาวได้ เพราะปีหน้าแข้งทีมชาติไทยทุกชุดต่างก็มีงานหนักรออยู่"
นอกจากนี้ ประมุขลูกหนังไทย เผยถึงข่าวดีหลังการประชุมกับทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) กำหนดโควต้า เอเอฟซี แชมปเปียนลีกส์ ว่า "ไทย ได้โควต้าเล่น เอเอฟซี แชมเปียนลีกส์ รอบสุดท้ายอัตโนมัติ 1 ทีม นั่นคือ แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก และโควต้า เอเอฟซี แชมเปียนลีกส์ รอบเพลย์ออฟ 1 ทีม นั่นคือ แชมป์เอฟเอคัพ ขณะเดียวกันหากดับเบิลแชมป์ ทีมรองแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกจะได้เล่นรอบเพลย์ออฟแบบส้มหล่นทันที อย่างไรก็ตามถือเป็นทิศทางที่ดีในการพัฒนาวงการฟุตบอลในบ้านเรา"
ไทยลีกเลื่อนปิดเอื้อเอฟเอคัพส่งรายชื่อเพลย์ออฟ
ขณะเดียวกัน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด กล่าวถึงโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลในประเทศว่า "ในเมื่อแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกสามารถผ่านเข้าเล่นเอเอฟซี แชมเปียนลีกส์ รอบสุดท้ายได้อัตโนมัติจึงทำให้เลื่อนส่งรายชื่อออกไปได้เกินกว่าวันที่ 7 มกราคมได้ ทว่าปัญหาอยู่ที่ การส่งรายชื่อแชมป์เอฟเอคัพ เพื่อเล่นรอบเพลย์ออฟ ต้องส่งให้ตามกำหนด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลื่อนโปรแกรมการแข่งไทยพรีเมียร์ลีกออกไปก่อนเพื่อเอื้อให้ เอฟเอคัพ แข่งขันจบก่อนวันที่ 7 ส่วนไทยพรีเมียร์ลีกอาจเลยไปเป็นวันที่ 14 มกราคมแทน ทั้งนี้หากทำได้ถือเป็นส่วนดีทั้งทีมชาติและสโมสร"
ทั้งนี้ "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงโควต้าผู้เล่นต่างชาติจาก 7 ลง 5 เปลี่ยนเป็น 5 ลง 3+1 ว่า "คงต้องเชิญผู้ที่ส่วนได้ส่วนเสียมาร่วมประชุมเพื่อหาข้อตกลงว่าจะกำหนดใช้วิธีนำร่องนี้นานเท่าใด ทั้งนี้ วินฟรีด เชเฟอร์ ได้ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมวางโปรแกรมการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ, ลีกคัพ เพื่อให้ตารางผู้เล่นทุกชุดสอดคล้องกับทีมชาติชุดใหญ่"
สำหรับโควต้า เอเอฟซี แชมเปียนลีกส์ 2011 แบ่งเป็นรอบสุดท้ายอัตโนมัติ และ รอบเพลย์ออฟ "บังยี" เผยว่า "ประกอบด้วย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : ญี่ปุ่น 4 ทีม, เกาหลี 3+1, จีน 3+1, อุซเบกิสถาน 1 , ออสเตรเลีย 2+1, ไทย 1+1, อินโดนีเซีย 1+1 ด้าน เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ : กาต้าร์ 4, ซาอุดิอาระเบีย 3+1 , ยูเออี 3+1, อุซเบกิสถาน 2+1, อิหร่าน 2+2"
