มาเลเซีย พลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง อินโดนีเซีย ตั้งแต่ 5 นาทีแรกกลับมาตีเสมอเป็น 1-1 ในเวลาปกติก่อนเอาชนะในการดวลจุดโทษไปได้ 4-3 สกอร์รวม 5-4 คว้าเหรียญทองฟุตบอลซีเกมส์ไปครองเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันอย่างยิ่งใหญ่ท่ามกลางแฟนบอลล้นสนามเสนายันร่วม 120,000 คน
ฟุตบอลชาย ซีเกมส์ครั้งที่ 26 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามเกโลรา บุง การ์โน หรือสนามเสนายันในชื่อเดิม กรุงจาการ์ตา ประจำวันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2554 อินโดนีเซีย เจ้าภาพโคจรมาพบกับ มาเลเซีย อีกครั้ง หลังจากเคยปะทะกันมาแล้วในนัดสุดท้ายของรอบแรก กลุ่มเอ ซึ่ง “เสือเหลือง” เป็นฝ่ายเฉือนชนะ “อิเหนา” 1-0 ทำให้เจ้าถิ่นหวังล้างตาเต็มพิกัด
โดยวันนี้แฟนบอลอินโดนีเซียยกโขยงกันมาอย่างเนืองแน่นมากกว่า 120,000 คน ซึ่งถือว่าเกินจำนวนบัตรเข้าชมการแข่งขันที่จำหน่ายเพียง 80,000 ใบ ทำให้ต้องยืนเบียดเสียดกันเข้าชม ไม่เว้นแม้แต่ที่นั่งสื่อมวลชนก็ยังมีแฟนบอลล้นทะลักเข้ามาจนเต็มทุกพื้นที่บนอัฒจันทร์
เปิดฉากมาได้ไม่ถึง 5 นาที “อิเหนา” ก็สามารถพังประตูขึ้นนำ 1-0 ได้อย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวาก่อนที่ กูนาวาน ดวี จาห์โย จะเทกตัวโหม่งที่เสาสองส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายท่ามกลางสะใจของกองเชียร์เจ้าถิ่นนับแสนคน จากนั้นนาทีที่ 17 ไตตัส โบไน มีโอกาสล่อเป้าในเขตโทษเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นสกอร์เนื่องจากล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
กระทั่งนาทีที่ 34 มาเลเซีย ที่ต่อเกมกันแทบไม่ติดก็มาไล่ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ เมื่อ เออร์ฟาน ฟาซาอิล พาบอลขึ้นมาทางด้านขวาของเขตโทษก่อนเปิดหักกลับมาบริเวณจุดโทษให้ โมฮัมหมัด อัสรารุดดิน ก้มตัวโหม่งเล่นทางส่งลูกหนีมือ คูรินา ไมกา ค่อยๆ เบียดเสาเข้าไปซุกก้นตาข่าย ทำให้จบ 45 นาทีแรกด้วยการเจ๊ากัน
ครึ่งหลังทั้งสองทีมต่างเปิดเกมรุกแลกหมัดเข้าหากันอย่างสนุกสูสี แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่เฉียบขาด รวมทั้ง คูรินา ไมกา นายทวารอิเหนา กับ ไครูล ฟาห์มี ผู้รักษาประตูเสือเหลืองยังป้องกันไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ครบ 90 นาทีก็ยังคงเสมอกันอยู่ 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก อินโดนีเซีย ส่งลูกหนังเข้าไปตุงตาข่ายได้ก่อนจาก เฟอร์ดินาน ซินากา ที่ซ้ำโล่งๆ ในหน้ากรอบ 6 หลา แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเนื่องจาก พาทริช วางไก ล้ำหน้าในจังหวะพุ่งเข้ามาโหม่งก่อนหน้านี้ไปแล้ว จากนั้น อัซมี โมฮัมหมัด ซูเบียร์ ของ มาเลเซีย ก็ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษด้านซ้ายแล้วซัดหนีมือ ไมกา เสียบหน้าต่างเสาไกล ทว่าก็โดนจับล้ำหน้าเช่นกัน ทั้งที่ ซูเบียร์ ยืนเท่ากับกองหลังตัวสุดท้ายของ อินโดนีเซีย
จากนั้นเวลาที่เหลือไม่มีใครทำประตูกันได้ ทำให้ต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ ซึ่ง อินโดนีเซีย ยิงเข้าแค่ 3 คนโดย กูนาวาน ดวี จาห์โย ที่ซัดคนที่ 2 ยิงไปชนเสา และ เฟอร์ดินาน ซินากา ที่สังหารคนที่ 5 ยิงไปถูก ไครูล ฟาห์มี เซฟ ส่วน มาเลเซีย พลาดแค่ อาห์หมัด ฟาครี ซารานี คนเดียว นอกนั้นยิงเข้าหมดโดยลูกสุดท้ายเป็น บัดดรอล บัคห์เตียร์ จอมทัพกัปตันทีมสังหารตรงกลางประตู คูรินา ไมกา ที่พุ่งผิดทางพยายามใช้ขาสกัดแต่เอาไม่อยู่ บอลปลิ้นเข้าประตูไป ทำให้ มาเลเซีย ชนะในการดวลจุดโทษ 4-3 สกอร์รวม 5-4 คว้าแชมป์ฟุตบอลซีเกมส์ 2 สมัยซ้อน และเป็นการได้เหรียญทองครั้งที่ 6 ทำสถิติเป็นอันดับ 2 ต่อจาก ไทย ที่ครองแชมป์ 13 สมัย