โสภิดา สะทุมรัมย์,เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม,ทัศมาลี ทองจันทร์ และ สุดาพร สีสอนดี กอดคอกันคว้าเหรียญทองให้กับทัพกำปั้นของไทยได้ถึง 4 เหรียญในคืนเดียว สำหรับการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นหญิง ชิงแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 เมื่อคืนวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา
ศึกมวยสากลสมัครเล่นหญิงชิงแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่เมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 19 พฤศจิกายน เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว ซึ่งวันนี้ทัพกำปั้นหญิงไทย มีคิวลงชิงเหรียญทอง 4 รุ่น คือ รุ่นฟลายเวต 51 กก.,ไลท์ แบนตัมเวต 54 กก.,เฟเธอร์เวต 57 กก. และ ไลท์เวต 60 กก.
รุ่นฟลายเวต 51 กก. โสภิดา สะทุมรัมย์ ที่คราวนี้ได้เข้าชิงชนะเลิศหลังพลาดไปใน “เวียงจันทน์เกมส์ 2009” ขึ้นสังเวียนพบกับ ซาซีเฮียง ไอรีน กำปั้นหญิงจากอินโดนีเซีย โดยงวดนี้ โสภิดา บุกเข้าหาพร้อมแลกหมัดกับเจ้าถิ่นสุดมันส์ ขณะที่ไอรีน ตอบโต้อยู่ในช่วงแรก ก่อนโดนไล่ต้อนตลอด 2 ยกสุดท้าย ครบ 4 ยก โสภิดา ชนะคะแนนไปแบบขาดลอย 30-14 ประเดิมเหรียญทองแรกให้ทัพกำปั้นหญิงได้ในที่สุด
ภายหลังการแข่งขัน โสภิดา ออกมาให้สัมภาษณ์ "วันนี้ทั้งเหนื่อยทั้งกดดัน แต่ก็ดีใจที่ผ่านไปได้ คว้าเหรียญทองสำเร็จหลังจากเมื่อ 2 ปีก่อนที่สปป.ลาวได้เพียงเหรียญทองแดง ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณสตาฟฟ์โค้ชทุกคนที่ทำให้มีวันนี้"
ต่อมารุ่น ไลท์ แบนตัมเวต 54 กก. เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม แชมป์เก่าซีเกมส์ 2009 รุ่น 57 กก.ของไทย พบกับ เปเตซิโอ เนสธี จากฟิลิปปินส์ รูปเกม ทั้งสองฝ่ายสงวนท่าทีไม่ยอมบุกเข้าหากันในช่วงแรก แต่เป็นทางเปี่ยมวิไลที่หาจังหวะออกหมัดทำแต้มนำก่อน ซึ่งแม้ถูกคู่แข่งสวนกลับพร้อมยิงหมัดชุดเข้าใส่ในยกหลัง แต่สุดท้าย เปี่ยมวิไล ก็หยิบเหรียญทองที่สองมาฝากแฟนๆได้สำเร็จ หลังเอาชนะคะแนนไป 16-10
ด้าน เปี่ยมวิไล กล่าวเช่นกันว่า "ไฟต์นี้ถือว่าไม่เหนื่อยเท่าที่ควร ใช้พลังงานไปเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนนักมวยฟิลิปปินส์ศึกษาเกมเรามาอย่างดี สไตล์การชกเปลี่ยนไป ทว่าสตาฟฟ์โค้ชของเราก็ปรับเกมได้ดีเช่นกัน ซึ่งเป้าหมายต่อไปคือกลับไปต่อยรุ่น 51 กก.เพื่อขอลุ้นไปต่อยโอลิมปิกเกมส์สักครั้งในชีวิต"
คู่ที่สาม รุ่นเฟเธอร์เวต 57 กก. ทัศมาลี ทองจันทร์ กำปั้นหญิงชื่อดังของไทย พบกับ ลู ธี เดียนห์ จากเวียดนาม โดยนักชกสาวจากแดนเหงียน เดินหน้าบุกไม่ยั้ง ส่วนทัศมาลี อาศัยตั้งรับแล้วสวนกลับด้วยหมัดขวาตรงเข้าหน้า ซึ่งการชกดำเนินไ ปอย่างสนุกสูสี ก่อนที่ยกสุดท้าย ทัศมาลี จะเป็นฝ่ายเฉือนเอาชนะคะแนนไปได้แบบฉิวเฉียด 10-9 เก็บเหรียญทองที่สามได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ทัศมาลี ให้สัมภาษณ์ว่า "ดีใจที่ผ่านไฟต์นี้ไปได้ เพราะยอมรับว่าต่อยไม่ดีเหมือนตอนซ้อม ส่วนตัวพอใจที่ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ทว่าเป้าหมายจริงๆ แล้วคือการต่อยคัดเลือกไปลอนดอนเกมส์ ซึ่งตนคงเพิ่มน้ำหนักไปต่อยในรุ่น 60 กก.แทน"
ส่วนคู่สุดท้ายของหญิงไทย รุ่นไลท์เวต 60 กก. สุดาพร สีสอนดี ขึ้นสังเวียนเจอกับ โง ธิ ชุง กำปั้นหญิงจากเวียดนามอีกราย ซึ่งปรากฏว่านักชกสาวไทยก็ยังไม่ทำให้แฟนๆต้องผิดหวัง หลังเอาชนะไปได้ 19-9 คะแนน คว้าเหรียญทองที่ 4 ได้ตามความคาดหมาย สรุปผลงาน นักมวยหญิงของไทยคว้าได้ 4 เหรียญทองภายในคืนเดียว
ภาลหลัง สุดาพร เผยสั้นๆ ว่า "พอใจมากสำหรับซีเกมส์ครั้งแรกที่มาได้เหรียญทองถึงอินโดนีเซีย แต่ก็หวั่นใจไม่น้อยในรอบชิง เนื่่องจากตั้งแต่ออกหมัดแรกก็รู้สึกเสียววาบที่ไหล่ซ้าย"
ด้าน "โค้ชธง" ธง ทวีคูณ หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชไทย พูดถึงผลงานกำปั้นหญิงในวันนี้ "ก็ถือว่าเราทำได้ตามเป้านั่นคือเก็บทั้ง 4 เหรียญทองในมวยหญิง โดยวันนี้ผมเน้นขู่คู่แข่งไว้ก่อน เพื่อไม่ให้คู่แข่งได้ใจ ส่วนมวยชายถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเราก็น่าจะได้ลุ้นทองทั้งหมดเช่นกัน"
สุดท้าย "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคมมวยแห่งประเทศไทย ทิ้งท้ายว่า "ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่ดีใจ เชื่อว่าแฟนๆ กีฬาที่อยู่ประเทศไทยคงดีใจไปพร้อมกับเราด้วย วันนี้มวยสากลสมัครเล่นทำชื่อเสียงให้ไทยอีกครั้ง เรียกได้ว่านักกีฬาและสตาฟฟ์โค้ชทำงานกันอย่างหนัก แม้เราเพิ่งเป็นสมาคมที่ก่อร่างสร้างตัวใหม่อีกครั้ง แต่กลับไปผมพร้อมหาเงินอัดฉีดมาให้ทุกคนอย่างครบถ้วน อย่างไรก็ดี ซีเกมส์ผ่านไปครึ่งทางของมวย เราได้มา 4 เหรียญทอง แต่งานยังไม่จบ เรายังต้องกวาดเหรียญจากประเภทชายด้วย ทั้งนี้เป้าหมายสูงสุดของทีมชุดนี้คือการผ่านเข้าไปชกในโอลิมปิกเกมส์ที่อังกฤษให้ได้มากรุ่นที่สุด"
ศึกมวยสากลสมัครเล่นหญิงชิงแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่เมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 19 พฤศจิกายน เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว ซึ่งวันนี้ทัพกำปั้นหญิงไทย มีคิวลงชิงเหรียญทอง 4 รุ่น คือ รุ่นฟลายเวต 51 กก.,ไลท์ แบนตัมเวต 54 กก.,เฟเธอร์เวต 57 กก. และ ไลท์เวต 60 กก.
รุ่นฟลายเวต 51 กก. โสภิดา สะทุมรัมย์ ที่คราวนี้ได้เข้าชิงชนะเลิศหลังพลาดไปใน “เวียงจันทน์เกมส์ 2009” ขึ้นสังเวียนพบกับ ซาซีเฮียง ไอรีน กำปั้นหญิงจากอินโดนีเซีย โดยงวดนี้ โสภิดา บุกเข้าหาพร้อมแลกหมัดกับเจ้าถิ่นสุดมันส์ ขณะที่ไอรีน ตอบโต้อยู่ในช่วงแรก ก่อนโดนไล่ต้อนตลอด 2 ยกสุดท้าย ครบ 4 ยก โสภิดา ชนะคะแนนไปแบบขาดลอย 30-14 ประเดิมเหรียญทองแรกให้ทัพกำปั้นหญิงได้ในที่สุด
ภายหลังการแข่งขัน โสภิดา ออกมาให้สัมภาษณ์ "วันนี้ทั้งเหนื่อยทั้งกดดัน แต่ก็ดีใจที่ผ่านไปได้ คว้าเหรียญทองสำเร็จหลังจากเมื่อ 2 ปีก่อนที่สปป.ลาวได้เพียงเหรียญทองแดง ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณสตาฟฟ์โค้ชทุกคนที่ทำให้มีวันนี้"
ต่อมารุ่น ไลท์ แบนตัมเวต 54 กก. เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม แชมป์เก่าซีเกมส์ 2009 รุ่น 57 กก.ของไทย พบกับ เปเตซิโอ เนสธี จากฟิลิปปินส์ รูปเกม ทั้งสองฝ่ายสงวนท่าทีไม่ยอมบุกเข้าหากันในช่วงแรก แต่เป็นทางเปี่ยมวิไลที่หาจังหวะออกหมัดทำแต้มนำก่อน ซึ่งแม้ถูกคู่แข่งสวนกลับพร้อมยิงหมัดชุดเข้าใส่ในยกหลัง แต่สุดท้าย เปี่ยมวิไล ก็หยิบเหรียญทองที่สองมาฝากแฟนๆได้สำเร็จ หลังเอาชนะคะแนนไป 16-10
ด้าน เปี่ยมวิไล กล่าวเช่นกันว่า "ไฟต์นี้ถือว่าไม่เหนื่อยเท่าที่ควร ใช้พลังงานไปเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนนักมวยฟิลิปปินส์ศึกษาเกมเรามาอย่างดี สไตล์การชกเปลี่ยนไป ทว่าสตาฟฟ์โค้ชของเราก็ปรับเกมได้ดีเช่นกัน ซึ่งเป้าหมายต่อไปคือกลับไปต่อยรุ่น 51 กก.เพื่อขอลุ้นไปต่อยโอลิมปิกเกมส์สักครั้งในชีวิต"
คู่ที่สาม รุ่นเฟเธอร์เวต 57 กก. ทัศมาลี ทองจันทร์ กำปั้นหญิงชื่อดังของไทย พบกับ ลู ธี เดียนห์ จากเวียดนาม โดยนักชกสาวจากแดนเหงียน เดินหน้าบุกไม่ยั้ง ส่วนทัศมาลี อาศัยตั้งรับแล้วสวนกลับด้วยหมัดขวาตรงเข้าหน้า ซึ่งการชกดำเนินไ ปอย่างสนุกสูสี ก่อนที่ยกสุดท้าย ทัศมาลี จะเป็นฝ่ายเฉือนเอาชนะคะแนนไปได้แบบฉิวเฉียด 10-9 เก็บเหรียญทองที่สามได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ทัศมาลี ให้สัมภาษณ์ว่า "ดีใจที่ผ่านไฟต์นี้ไปได้ เพราะยอมรับว่าต่อยไม่ดีเหมือนตอนซ้อม ส่วนตัวพอใจที่ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ทว่าเป้าหมายจริงๆ แล้วคือการต่อยคัดเลือกไปลอนดอนเกมส์ ซึ่งตนคงเพิ่มน้ำหนักไปต่อยในรุ่น 60 กก.แทน"
ส่วนคู่สุดท้ายของหญิงไทย รุ่นไลท์เวต 60 กก. สุดาพร สีสอนดี ขึ้นสังเวียนเจอกับ โง ธิ ชุง กำปั้นหญิงจากเวียดนามอีกราย ซึ่งปรากฏว่านักชกสาวไทยก็ยังไม่ทำให้แฟนๆต้องผิดหวัง หลังเอาชนะไปได้ 19-9 คะแนน คว้าเหรียญทองที่ 4 ได้ตามความคาดหมาย สรุปผลงาน นักมวยหญิงของไทยคว้าได้ 4 เหรียญทองภายในคืนเดียว
ภาลหลัง สุดาพร เผยสั้นๆ ว่า "พอใจมากสำหรับซีเกมส์ครั้งแรกที่มาได้เหรียญทองถึงอินโดนีเซีย แต่ก็หวั่นใจไม่น้อยในรอบชิง เนื่่องจากตั้งแต่ออกหมัดแรกก็รู้สึกเสียววาบที่ไหล่ซ้าย"
ด้าน "โค้ชธง" ธง ทวีคูณ หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชไทย พูดถึงผลงานกำปั้นหญิงในวันนี้ "ก็ถือว่าเราทำได้ตามเป้านั่นคือเก็บทั้ง 4 เหรียญทองในมวยหญิง โดยวันนี้ผมเน้นขู่คู่แข่งไว้ก่อน เพื่อไม่ให้คู่แข่งได้ใจ ส่วนมวยชายถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเราก็น่าจะได้ลุ้นทองทั้งหมดเช่นกัน"
สุดท้าย "เสธ.อ้าย" พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคมมวยแห่งประเทศไทย ทิ้งท้ายว่า "ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่ดีใจ เชื่อว่าแฟนๆ กีฬาที่อยู่ประเทศไทยคงดีใจไปพร้อมกับเราด้วย วันนี้มวยสากลสมัครเล่นทำชื่อเสียงให้ไทยอีกครั้ง เรียกได้ว่านักกีฬาและสตาฟฟ์โค้ชทำงานกันอย่างหนัก แม้เราเพิ่งเป็นสมาคมที่ก่อร่างสร้างตัวใหม่อีกครั้ง แต่กลับไปผมพร้อมหาเงินอัดฉีดมาให้ทุกคนอย่างครบถ้วน อย่างไรก็ดี ซีเกมส์ผ่านไปครึ่งทางของมวย เราได้มา 4 เหรียญทอง แต่งานยังไม่จบ เรายังต้องกวาดเหรียญจากประเภทชายด้วย ทั้งนี้เป้าหมายสูงสุดของทีมชุดนี้คือการผ่านเข้าไปชกในโอลิมปิกเกมส์ที่อังกฤษให้ได้มากรุ่นที่สุด"
