พันจ่าเอก ประเวศ อินทรา ผู้ช่วยโค้ชทีมตะกร้อชายของมาเลเซีย และอดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย ชี้ว่าภายในอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้า วงการลูกหวายแดนเสือเหลืองจะกลับมายิ่งใหญ่เฉกเช่นทีมชาติไทยอีกครั้ง หลังกำลังเข้าสู่ยุคผลัดใบ และต้องวางโครงสร้างใหม่หลังจากนี้
ทีมเซปัคตะกร้อของมาเลเซีย ถือเป็นคู่ปรับสำคัญของทัพนักตะกร้อไทยอยู่เสมอ ทว่าช่วง 10 ปีให้หลัง วงการลูกหวายเสือเหลืองกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำ จนถูกทัพตะกร้อไทยที่นิยมถ่ายเลือดผู้เล่นใหม่ๆ ผูกขาดแชมป์ในแถบเอเชียมาตลอด ซึ่งล่าสุด ทีมลูกหวายมาเลเซีย ก็พ่ายแพ้ให้กับทีมชาติอินโดนีเซีย และทีมชาติไทย ในการแข่งขันประเภททีมชุด ของซีเกมส์ครั้งที่ 26 แบบยับเยิน
ทั้งนี้ พันจ่าเอก ประเวศ อินทรา อดีตนักกีฬาทีมตะกร้อของไทย ที่เวลานี้ไปช่วยงานเป็นผู้ช่วยโค้ชให้ทีมลูกหวายมาเลเซีย แบบชั่วคราว แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า “ผมคิดว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทีมเซปัคตะกร้อของมาเลเซีย ตกต่ำลงในช่วงหลัง เป็นเพราะที่ผ่านมาพวกเขาต้องเผชิญปัญหาภายในมาตลอด ซึ่งคงเป็นเรื่องของทีมบริหารบ้านเขา ส่วนผู้เล่นของทีมต่างก็เป็นผู้เล่นชุดเก่า ไม่มีการผ่องถ่ายเลือดใหม่เหมือนทีมตะกร้อของไทย ที่มักสลับสับเปลี่ยนกันแทบทุกทัวร์นาเมนต์”
“แต่ภายหลังที่พวกเขาเริ่มแก้ไขปัญหาภายในได้ ทิศทางของตะกร้อมาเลเซียก็น่าจะดีขึ้น ทีมผู้เล่นที่ส่งมาแข่งขันที่ซีเกมส์ ครั้งนี้ต่างเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ทั้งสิ้น มีตัวเก๋าอยู่ในทีมแค่ 4 คน ซึ่งล้วนแต่เป็นตัวสำรองจากทีมชุดเวียงจันทน์เกมส์ ที่ไม่ได้ลงเล่นในสนามเลย ผมคิดว่าเวลานี้ สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือ ให้ผู้เล่นหน้าใหม่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเวทีระดับนานาชาติไปเรื่อยๆ และต้องหาระบบการทำทีมที่ลงตัวเสียก่อน ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าเกิน 3 ปี ทีมตะกร้อมาเลเซีย จะกลับมาเป็นคู่แข่งชาติสำคัญของไทยอีกครั้ง” อดีตจอมเสิร์ฟเท้าซ้ายของไทย กล่าว
ทีมเซปัคตะกร้อของมาเลเซีย ถือเป็นคู่ปรับสำคัญของทัพนักตะกร้อไทยอยู่เสมอ ทว่าช่วง 10 ปีให้หลัง วงการลูกหวายเสือเหลืองกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำ จนถูกทัพตะกร้อไทยที่นิยมถ่ายเลือดผู้เล่นใหม่ๆ ผูกขาดแชมป์ในแถบเอเชียมาตลอด ซึ่งล่าสุด ทีมลูกหวายมาเลเซีย ก็พ่ายแพ้ให้กับทีมชาติอินโดนีเซีย และทีมชาติไทย ในการแข่งขันประเภททีมชุด ของซีเกมส์ครั้งที่ 26 แบบยับเยิน
ทั้งนี้ พันจ่าเอก ประเวศ อินทรา อดีตนักกีฬาทีมตะกร้อของไทย ที่เวลานี้ไปช่วยงานเป็นผู้ช่วยโค้ชให้ทีมลูกหวายมาเลเซีย แบบชั่วคราว แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า “ผมคิดว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทีมเซปัคตะกร้อของมาเลเซีย ตกต่ำลงในช่วงหลัง เป็นเพราะที่ผ่านมาพวกเขาต้องเผชิญปัญหาภายในมาตลอด ซึ่งคงเป็นเรื่องของทีมบริหารบ้านเขา ส่วนผู้เล่นของทีมต่างก็เป็นผู้เล่นชุดเก่า ไม่มีการผ่องถ่ายเลือดใหม่เหมือนทีมตะกร้อของไทย ที่มักสลับสับเปลี่ยนกันแทบทุกทัวร์นาเมนต์”
“แต่ภายหลังที่พวกเขาเริ่มแก้ไขปัญหาภายในได้ ทิศทางของตะกร้อมาเลเซียก็น่าจะดีขึ้น ทีมผู้เล่นที่ส่งมาแข่งขันที่ซีเกมส์ ครั้งนี้ต่างเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ทั้งสิ้น มีตัวเก๋าอยู่ในทีมแค่ 4 คน ซึ่งล้วนแต่เป็นตัวสำรองจากทีมชุดเวียงจันทน์เกมส์ ที่ไม่ได้ลงเล่นในสนามเลย ผมคิดว่าเวลานี้ สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือ ให้ผู้เล่นหน้าใหม่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเวทีระดับนานาชาติไปเรื่อยๆ และต้องหาระบบการทำทีมที่ลงตัวเสียก่อน ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าเกิน 3 ปี ทีมตะกร้อมาเลเซีย จะกลับมาเป็นคู่แข่งชาติสำคัญของไทยอีกครั้ง” อดีตจอมเสิร์ฟเท้าซ้ายของไทย กล่าว
