ASTV ผู้จัดการรายวัน-ทัพแบดมินตันทีมชาติไทยออกเหินฟ้าสู่เมืองจาการ์ตาเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเพื่อทำศึก ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ ประเทศอินโดนีเซียระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายนนี้ ถือเป็นอีกชนิดกีฬาที่เรามีลุ้นคว้าเหรียญรางวัลถึงกระนั้นก็ตามหนนี้จะไม่มีพี่ใหญ่ บุญศักดิ์ พลสนะ ตบขนไก่หนุ่มมือ 1 เนื่องจากบาดเจ็บข้อเท้าขวาต้องหยุดยาวพักถึงปีหน้า แต่เมื่อดูจากรายชื่อความหวังที่เหลือก็ดีพอที่จะมีเหรียญคล้องคอกลับบ้านให้ทุกคนได้ชื่นชมกัน
แม้ภารกิจล่าเหรียญทองครั้งนี้จะปราศจาก บุญศักดิ์ ที่เปรียบเสมือนหัวเรือใหญ่ แต่ขุนพลนักแบดมินตันไทยชุดนี้ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะเต็มไปด้วยผู้เล่นมือเก๋าผสมกับผู้เล่นดาวรุ่งที่ฝีไม้ลายมือไม่แพ้ "ซูเปอร์แมน" อย่าง "เจ้าสอง" ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข กระบี่มือ 1 ในประเภทชายเดี่ยว “มิ้ง” สลักจิต พลสนะ กับ “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ ความหวังในประเภทหญิงเดี่ยว โดยรายหลังเพิ่งสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์แบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์โลกสมัยที่สามติดต่อกัน เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา รวมถึงความหวังลุ้นเหรียญในทีมคู่ผสมอย่าง สุดเขต ประภากมล-ร.อ.หญิง สราลีย์ ทุ่งทองคำ และทีมหญิงคู่อย่าง กุลชลา วรวิจิตรชัยกุล-ดวงอนงค์ อรุณเกษร อีกด้วย
โดย “เต่า” สุดเขต ประภากมล ที่เคยผนึกกำลังกับ “ส้ม” ร.อ.หญิง สราลีย์ ทุ่งทองคำ ซิวเหรียญทองในซีเกมส์ที่เวียดนามมาแล้วเมื่อปี 2003 แสดงความเห็นถึงการขาดผู้เล่นมือหนึ่งอย่างบุญศักดิ์ รวมถึงความหวังคว้าเหรียญทองประเภทคู่ผสมเป็นสมัยที่สองของตัวเองว่า “การขาดแมนไปถือว่ามีผลกระทบต่อทีมไม่น้อย เพราะต้องยอมรับว่าแมนคือความหวังของทีมแบดมินตันไทยชุดนี้ อย่างไรก็ตาม หากนับถึงการแข่งขันประเภททีมคู่ผสม พวกเราเองก็ได้มีการเตรียมความพร้อมด้วยการเดินทางไปแข่งขันที่ต่างประเทศมาตลอดทั้งปี ดังนั้นก็เชื่อมั่นว่าเมื่อถึงเวลาลงสนาม ผมกับส้มจะทำผลงานได้เป็นอย่างดี และจะมุ่งมันเต็มที่เพื่อลุ้นคว้าเหรียญทองสมัยที่สองมาให้ได้”
ขณะที่ทีมหญิงคู่อย่าง กุลชลา วรวิจิตรชัยกุล - ดวงอนงค์ อรุณเกษร เผยว่าการจับคู่คว้าแชมป์แบดมินตันที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ช่วยให้พวกตนมีความมั่นใจการบุกแดนอิเหนามากยิ่งขึ้น โดยกุลชลา กล่าวว่า “การคว้าแชมป์รายการที่ฝรั่งเศสนั้นถือเป็นสิ่งที่ช่วยให้พวกเรามีความมั่นใจพอสมควร แม้การเยือนอินโดนีเซียครั้งนี้จะต้องพบกับคู่แข่งฝีมือดีจากชาติต่างๆ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่อาจถูกกดดันโดยแฟนเจ้าถิ่น แต่ทั้งนี้ก็ได้เตรียมใจไว้แล้ว ซึ่งพวกเราก็ตั้งใจจะทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อคว้าเหรียญทองแรกเหรียญแรกในชีวิตกลับมา”
สุดท้ายผู้ฝึกสอนอย่าง อุดม เหลืองเพชราภรณ์ แสดงความมั่นใจในตัวขุนพลแบดมินตันชุดนี้ว่า "ผมคิดว่าทีมชุดนี้มีศักยภาพที่ดีพอสำหรับลุ้นเหรียญทอง โดยเฉพาะประเภทหญิงเดี่ยว ทีมคู่ผสมที่ผมเชื่อมั่นในประสบการณ์ของ สุดเขต กับ สราลีย์ และทีมหญิงคู่ของ กุลชลา กับ ดวงอนงค์ ที่เพิ่งคว้าแชมป์มา อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเราคือต้องรักษาสภาพร่างกายให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน และต้องไม่ประมาท เพราะงานนี้เราต้องเจอศึกหนักทั้งคู่แข่งและกองเชียร์เจ้าถิ่นที่ขึ่นชื่อในเรื่องการเชียร์ที่ดุดัน ซึ่งหากนักแบดมินตันทุกคนลงสนามด้วยความมุ่งมั่นโดยไม่เสียสมาธิ ก็เชื่อว่าน่าจะมีเหรียญทองติดไม้ติดมือกลับมาฝากแฟนๆได้เช่นกัน"
