อีเนส คาสเตอร์ เซ็นเตอร์ดราฟท์รอบแรกของ ยูทาห์ แจซซ์ แห่งลีกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ประจำปี 2011 เอ่ยปากฝันผันตัวเองเข้าสู่วงการมวยปล้ำลุยศึกดับเบิลยูดับเบิลยูอี (WWE) หากตัดสินใจเลิกยัดห่วงในอนาคต
ถูกดราฟท์เข้าลีกยัดห่วงอาชีพแห่งสหรัฐอเมริกาสูงถึงอันดับ 3 ทว่า อีเนส คานเตอร์ เซ็นเตอร์ดาวรุ่งตุรกีวัย 19 ปี ยังต้องรอโอกาสโชว์ลีลาใน NBA เนื่องจากบรรดาเจ้าของทีม (30 แฟรนไชส์) กับ สหภาพผู้เล่น (NBPA) ยังไม่สามารถเจรจาต่อสัญญา "ข้อตกลงสิทธิประโยชน์ร่วมกัน" (Collective Bargaining Agreement) ดังนั้น เดวิด สเติร์น ประธานลีกจึงประกาศยกเลิกโปรแกรมฤดูกาลปกติทั้งเดือนพฤศจิกายน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย แม็กซ์ เออร์กุล เอเยนต์ส่วนตัวของ คานเตอร์ เผยว่าลูกค้าของเขาปัจจุบันเพิ่งเดินทางกลับมาที่เมืองชิคาโก เพื่อรักษาตัวก่อนฝึกซ้อมร่วมกับ ทิม โกรเวอร์ ผู้เป็นเทรนเนอร์ หลังจากไปประสบปัญหาบาดเจ็บเข่าจากเกมอุ่นเครื่องที่แอลเอ
อย่างไรก็ดี "เดอะ ซอลท์ เลค ทริบูน" สื่อท้องถิ่นติดตามไปสัมภาษณ์ คานเตอร์ เริ่มจากให้เจ้าตัวเผยถึงการย้ายมาสวมยูนิฟอร์มแจซซ์ "ช่วงที่ได้เจอเพื่อนร่วมทีมใหม่ตอนแรก รวมถึงได้ลงสนามต่อหน้าแฟนๆ มันเป็นประสบการณ์และความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมไปเลย แต่ผมโชคไม่ดีนัก ก่อนหน้านี้ไม่ได้เล่นในระดับไฮสคูล, มหาวิทยาลัย ตอนนี้ยังไม่ได้เล่นใน NBA เนื่องจากมีการล็อกเอาท์ ทำให้ผมผิดหวังไม่น้อย"
นอกจากนี้ คานเตอร์ ยังกล่าวถึงคำแนะนำที่รุ่นพี่ใน NBA ให้ไว้ระหว่างเจอกันช่วงอุ่นเครื่อง "ผมได้เล่นกับ ทายสัน แชนด์เลอร์ (ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์) และ แดนนี เกรนเจอร์ (อินเดียนา เพเซอร์ส) พวกเขาช่วยผมได้มาก รุ่นพี่บอกแค่ให้ผมลุยใส่ห่วง ชู้ตบอล เมื่อครั้งได้เล่นร่วมกัน นอกจากนี้ผมยังได้เล่นกับ ริคกี รูบิโอ (มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส) ซึ่งทุกคนพูดเหมือนกันว่าให้ผมลุยเข้าไปเลย ไม่มีใครหยุดผมได้หรอก เพราะผมแข็งแกร่ง"
ทั้งนี้ คานเตอร์ ยังรู้สึกดีที่ได้รับใช้ ตุรกี ในศึกยูโรบาสเกต 2011 ที่ลิทัวเนีย เมื่อสองเดือนก่อน เพราะได้ปะทะฝีมือ มาร์ค กาซอล (สเปน) รวมถึง เดิร์ก โนวิตซกี (เยอรมนี) ซึ่งยัดห่วงอยู่ใน NBA "ผมถูกเปรียบเทียบกับผู้เล่นคนอื่นๆ ดังนั้นผมจึงต้องทำงานอย่างหนัก ตอนนี้ผมรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เนื่องจากผมไปลุยศึกบาสเกตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปมาแล้ว ได้แข่งที่แอลเอด้วย และกำลังจะได้เล่นในยูทาห์ ความรู้สึกดีๆ มีขึ้นทุกวัน"
สุดท้าย เซ็นเตอร์เจ้าของความสูง 6 ฟุต 10 นิ้ว หรือประมาณ 2.08 เมตร พูดถึงความฝันหลังอำลาอาชีพยัดห่วง "ผมชอบไปดูมวยปล้ำ WWE เมื่อพำนักในสหรัฐฯ ที่ผ่านมาผมไปดูที่สนาม 3-4 ครั้งแล้ว เรียกว่าผมเป็นแฟนตัวยงของ WWE ก็ว่าได้ คุณคงรู้ว่าผมเป็นแฟน อันเดอร์เทคเกอร์ ซึ่งบางทีผมคิดว่าถ้าเลิกเล่นบาสฯ ผมสามารถเป็นนักมวยปล้ำได้เลย"
ถูกดราฟท์เข้าลีกยัดห่วงอาชีพแห่งสหรัฐอเมริกาสูงถึงอันดับ 3 ทว่า อีเนส คานเตอร์ เซ็นเตอร์ดาวรุ่งตุรกีวัย 19 ปี ยังต้องรอโอกาสโชว์ลีลาใน NBA เนื่องจากบรรดาเจ้าของทีม (30 แฟรนไชส์) กับ สหภาพผู้เล่น (NBPA) ยังไม่สามารถเจรจาต่อสัญญา "ข้อตกลงสิทธิประโยชน์ร่วมกัน" (Collective Bargaining Agreement) ดังนั้น เดวิด สเติร์น ประธานลีกจึงประกาศยกเลิกโปรแกรมฤดูกาลปกติทั้งเดือนพฤศจิกายน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย แม็กซ์ เออร์กุล เอเยนต์ส่วนตัวของ คานเตอร์ เผยว่าลูกค้าของเขาปัจจุบันเพิ่งเดินทางกลับมาที่เมืองชิคาโก เพื่อรักษาตัวก่อนฝึกซ้อมร่วมกับ ทิม โกรเวอร์ ผู้เป็นเทรนเนอร์ หลังจากไปประสบปัญหาบาดเจ็บเข่าจากเกมอุ่นเครื่องที่แอลเอ
อย่างไรก็ดี "เดอะ ซอลท์ เลค ทริบูน" สื่อท้องถิ่นติดตามไปสัมภาษณ์ คานเตอร์ เริ่มจากให้เจ้าตัวเผยถึงการย้ายมาสวมยูนิฟอร์มแจซซ์ "ช่วงที่ได้เจอเพื่อนร่วมทีมใหม่ตอนแรก รวมถึงได้ลงสนามต่อหน้าแฟนๆ มันเป็นประสบการณ์และความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมไปเลย แต่ผมโชคไม่ดีนัก ก่อนหน้านี้ไม่ได้เล่นในระดับไฮสคูล, มหาวิทยาลัย ตอนนี้ยังไม่ได้เล่นใน NBA เนื่องจากมีการล็อกเอาท์ ทำให้ผมผิดหวังไม่น้อย"
นอกจากนี้ คานเตอร์ ยังกล่าวถึงคำแนะนำที่รุ่นพี่ใน NBA ให้ไว้ระหว่างเจอกันช่วงอุ่นเครื่อง "ผมได้เล่นกับ ทายสัน แชนด์เลอร์ (ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์) และ แดนนี เกรนเจอร์ (อินเดียนา เพเซอร์ส) พวกเขาช่วยผมได้มาก รุ่นพี่บอกแค่ให้ผมลุยใส่ห่วง ชู้ตบอล เมื่อครั้งได้เล่นร่วมกัน นอกจากนี้ผมยังได้เล่นกับ ริคกี รูบิโอ (มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส) ซึ่งทุกคนพูดเหมือนกันว่าให้ผมลุยเข้าไปเลย ไม่มีใครหยุดผมได้หรอก เพราะผมแข็งแกร่ง"
ทั้งนี้ คานเตอร์ ยังรู้สึกดีที่ได้รับใช้ ตุรกี ในศึกยูโรบาสเกต 2011 ที่ลิทัวเนีย เมื่อสองเดือนก่อน เพราะได้ปะทะฝีมือ มาร์ค กาซอล (สเปน) รวมถึง เดิร์ก โนวิตซกี (เยอรมนี) ซึ่งยัดห่วงอยู่ใน NBA "ผมถูกเปรียบเทียบกับผู้เล่นคนอื่นๆ ดังนั้นผมจึงต้องทำงานอย่างหนัก ตอนนี้ผมรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เนื่องจากผมไปลุยศึกบาสเกตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปมาแล้ว ได้แข่งที่แอลเอด้วย และกำลังจะได้เล่นในยูทาห์ ความรู้สึกดีๆ มีขึ้นทุกวัน"
สุดท้าย เซ็นเตอร์เจ้าของความสูง 6 ฟุต 10 นิ้ว หรือประมาณ 2.08 เมตร พูดถึงความฝันหลังอำลาอาชีพยัดห่วง "ผมชอบไปดูมวยปล้ำ WWE เมื่อพำนักในสหรัฐฯ ที่ผ่านมาผมไปดูที่สนาม 3-4 ครั้งแล้ว เรียกว่าผมเป็นแฟนตัวยงของ WWE ก็ว่าได้ คุณคงรู้ว่าผมเป็นแฟน อันเดอร์เทคเกอร์ ซึ่งบางทีผมคิดว่าถ้าเลิกเล่นบาสฯ ผมสามารถเป็นนักมวยปล้ำได้เลย"