สตีฟ แนช การ์ดจอมเก๋า ฟีนิกซ์ ซันส์ สุดทนออกโรงจวกเหล่าผู้เล่น NBA รวมถึงบรรดาเจ้าของทีมที่เห็นแก่ตัวเกินเหตุ ทำให้ฤดูกาลปกติปี 2011/12 ยังดำเนินการแข่งขันไม่ได้ เนื่องจากอยู่ในช่วงล็อกเอาท์
สี่เดือนมาแล้วที่ "ข้อตกลงสิทธิประโยชน์ร่วมกัน" (Collective Bargaining Agreement) ฉบับเก่าหมดสัญญาไป ทำให้บรรดาเจ้าของทีม (30 แฟรนไชส์) พร้อมด้วย เดวิด สเติร์น ประธานลีก ต้องตั้งโต๊ะเจรจาต่อสัญญาฉบับใหม่กับสหภาพผู้เล่น (NBPA) ทว่าถึงวันนี้ยังไม่มีทีท่าปลดล็อกเอาท์ได้ เหตุจากเจ้าของทีมต้องการส่วนแบ่งรายได้ที่ 50-50 ขณะที่ สหภาพฯ ยอมอ่อนข้อได้แค่ 52.5 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ CBA ฉบับเก่าผู้เล่นยังนำเค้กรายได้ก้อนโตไปแบ่งกันถึง 57 เปอร์เซ็นต์อยู่เลย
จากความไม่คืบหน้าเท่าที่ควรทำให้ สเติร์น ต้องประกาศยกเลิกเกมฤดูกาลปกติไปตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน ดังนั้น สตีฟ แนช การ์ดแคนาเดียนซึ่งค่อนข้างมีพาวเวอร์ในลีก ออกมาให้สัมภาษณ์เชิงแขวะสงครามระหว่างเศรษฐีครั้งนี้ "มีเศรษฐีสองฝั่งกำลังโต้เถียงกันเรื่องของเปอร์เซ็นต์ (แบ่งรายได้) มันยากที่แฟนๆ จะเข้าใจ นี่เป็นเรื่องของธุรกิจ แต่ผมไม่โทษแฟนๆ หรอก พวกเขาแค่โกรธ แค่ต้องการเห็นเกมที่พวกเขารักกลับมา ดังนั้นผมอยากโทษทั้งสองฝ่ายนั้นมากกว่าที่มาโต้เถียงกันในประเด็นที่เห็นแก่ตัว"
การเจรจา CBA ฉบับใหม่ที่ล่าช้า สามารถส่งผลกระทบต่ออนาคตยัดห่วงของ แนช ในถิ่นยูเอส แอร์เวย์ส เซ็นเตอร์ ได้เช่นกัน เหตุจากเจ้าตัวอายุ 37 ปี ซึ่งการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ยังดำเนินการไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวไม่วิตกกับอนาคตตัวเอง พร้อมเปรยถึง โรเบิร์ต ซาร์เวอร์ บิ๊กบอสซันส์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเจ้าของทีมที่ชอบทุ่มเม็ดเงินคว้าสตาร์มาเสริม ทว่าทีมเข้าชิง NBA หนสุดท้ายเมื่อซีซัน 1992/93
"ก็น่าแปลกอยู่ที่ไม่เคยมีความสมดุลเกิดขึ้น โดยผมกับ โรเบิร์ต (ซาร์เวอร์) จะพูดคุยกันชัดเจนเมื่อทุกอย่างจบสิ้น (ปลดล็อกเอาท์) ผมไม่มีเรื่องอะไรส่วนตัวกับเขา แต่เมื่อได้กลับมาทำงานอีกครั้ง ผมยังเป็นผู้เล่นฟีนิกซ์ ซันส์ นำทีมผ่านตะลุยไปให้ได้ แต่ ณ เวลานี้ผมนั่งอยู่ตรงข้ามกับ โรเบิร์ต ซึ่งทุกวันนี้แฟนๆ ก็ต่อว่าเราไม่เว้นแต่ละวัน" แนช ทิ้งท้าย
สี่เดือนมาแล้วที่ "ข้อตกลงสิทธิประโยชน์ร่วมกัน" (Collective Bargaining Agreement) ฉบับเก่าหมดสัญญาไป ทำให้บรรดาเจ้าของทีม (30 แฟรนไชส์) พร้อมด้วย เดวิด สเติร์น ประธานลีก ต้องตั้งโต๊ะเจรจาต่อสัญญาฉบับใหม่กับสหภาพผู้เล่น (NBPA) ทว่าถึงวันนี้ยังไม่มีทีท่าปลดล็อกเอาท์ได้ เหตุจากเจ้าของทีมต้องการส่วนแบ่งรายได้ที่ 50-50 ขณะที่ สหภาพฯ ยอมอ่อนข้อได้แค่ 52.5 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่ CBA ฉบับเก่าผู้เล่นยังนำเค้กรายได้ก้อนโตไปแบ่งกันถึง 57 เปอร์เซ็นต์อยู่เลย
จากความไม่คืบหน้าเท่าที่ควรทำให้ สเติร์น ต้องประกาศยกเลิกเกมฤดูกาลปกติไปตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน ดังนั้น สตีฟ แนช การ์ดแคนาเดียนซึ่งค่อนข้างมีพาวเวอร์ในลีก ออกมาให้สัมภาษณ์เชิงแขวะสงครามระหว่างเศรษฐีครั้งนี้ "มีเศรษฐีสองฝั่งกำลังโต้เถียงกันเรื่องของเปอร์เซ็นต์ (แบ่งรายได้) มันยากที่แฟนๆ จะเข้าใจ นี่เป็นเรื่องของธุรกิจ แต่ผมไม่โทษแฟนๆ หรอก พวกเขาแค่โกรธ แค่ต้องการเห็นเกมที่พวกเขารักกลับมา ดังนั้นผมอยากโทษทั้งสองฝ่ายนั้นมากกว่าที่มาโต้เถียงกันในประเด็นที่เห็นแก่ตัว"
การเจรจา CBA ฉบับใหม่ที่ล่าช้า สามารถส่งผลกระทบต่ออนาคตยัดห่วงของ แนช ในถิ่นยูเอส แอร์เวย์ส เซ็นเตอร์ ได้เช่นกัน เหตุจากเจ้าตัวอายุ 37 ปี ซึ่งการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ยังดำเนินการไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวไม่วิตกกับอนาคตตัวเอง พร้อมเปรยถึง โรเบิร์ต ซาร์เวอร์ บิ๊กบอสซันส์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเจ้าของทีมที่ชอบทุ่มเม็ดเงินคว้าสตาร์มาเสริม ทว่าทีมเข้าชิง NBA หนสุดท้ายเมื่อซีซัน 1992/93
"ก็น่าแปลกอยู่ที่ไม่เคยมีความสมดุลเกิดขึ้น โดยผมกับ โรเบิร์ต (ซาร์เวอร์) จะพูดคุยกันชัดเจนเมื่อทุกอย่างจบสิ้น (ปลดล็อกเอาท์) ผมไม่มีเรื่องอะไรส่วนตัวกับเขา แต่เมื่อได้กลับมาทำงานอีกครั้ง ผมยังเป็นผู้เล่นฟีนิกซ์ ซันส์ นำทีมผ่านตะลุยไปให้ได้ แต่ ณ เวลานี้ผมนั่งอยู่ตรงข้ามกับ โรเบิร์ต ซึ่งทุกวันนี้แฟนๆ ก็ต่อว่าเราไม่เว้นแต่ละวัน" แนช ทิ้งท้าย
