สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานพระราโชวาทแก่ทัพนักกีฬาไทยและเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทยก่อนออกเดินทางไปร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ ประเทศอินโดนีเซีย ทรงย้ำควรเป็นตัวแทนที่ดีของประเทศไทย ไม่ว่าผลการแข่งขันจะชนะหรือแพ้
เมื่อเวลา 15.15 น. วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2554 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วยคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทย ที่จะเดินทางไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายน 2554 ที่กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร แทนพระองค์ เพื่อกราบถวายบังคมลา และรับพระราชทานพระราโชวาท ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา
ในการนี้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในฐานะที่ทรงเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ทรงร่วมเข้าเฝ้าฯ และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายชุดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 แด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ภายหลังการเข้าเฝ้าฯ ดร.สุพิตร สมาหิโต คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า "อันดับแรกสมเด็จพระบรมฯ ทรงแสดงความยินดีแก่นักกีฬาที่ได้รับเกียรติและมีความสามารถจนผ่านการคัดเลือกเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย จากนั้นได้ตรัสถึงหน้าที่ของนักกีฬาชุดสู้ศึกซีเกมส์ที่นอกเหนือจะต้องแสดงบทบาทของนักกีฬาทีมชาติไทยที่ดีแล้วต้องตระหนักถึงการเป็นตัวแทนประเทศไทยในการเผยแพร่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติ"
"สำหรับการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 26 สมเด็จพระบรมฯ ทรงย้ำให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมของสมาคมกีฬาควรรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย หากไทยชนะก็ห้ามไปดูหมิ่นชาติที่แพ้ ขณะเดียวกันหากไทยแพ้ก็ควรต้องมีการปรับปรุง พร้อมทั้งทรงกำชับให้ดูแลนักกีฬาให้เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเดินทาง ที่พัก ความเป็นอยู่ และมารยาทต่างๆ ที่สำคัญทรงเน้นเป็นพิเศษในเรื่องการเป็นตัวแทนที่ดีของประเทศไทย" คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เผย
ขณะเดียวกัน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระราชทานไฟพระฤกษ์แก่ คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 40 "ขอนแก่นเกมส์" ซึ่งจะจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 3-13 มีนาคม 2555 และคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 30 "นครขอนแก่นเกมส์" ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-25 มีนาคม 2555
เมื่อเวลา 15.15 น. วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2554 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วยคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทย ที่จะเดินทางไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายน 2554 ที่กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร แทนพระองค์ เพื่อกราบถวายบังคมลา และรับพระราชทานพระราโชวาท ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา
ในการนี้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในฐานะที่ทรงเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ทรงร่วมเข้าเฝ้าฯ และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายชุดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 แด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ภายหลังการเข้าเฝ้าฯ ดร.สุพิตร สมาหิโต คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า "อันดับแรกสมเด็จพระบรมฯ ทรงแสดงความยินดีแก่นักกีฬาที่ได้รับเกียรติและมีความสามารถจนผ่านการคัดเลือกเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย จากนั้นได้ตรัสถึงหน้าที่ของนักกีฬาชุดสู้ศึกซีเกมส์ที่นอกเหนือจะต้องแสดงบทบาทของนักกีฬาทีมชาติไทยที่ดีแล้วต้องตระหนักถึงการเป็นตัวแทนประเทศไทยในการเผยแพร่วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติ"
"สำหรับการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 26 สมเด็จพระบรมฯ ทรงย้ำให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมของสมาคมกีฬาควรรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย หากไทยชนะก็ห้ามไปดูหมิ่นชาติที่แพ้ ขณะเดียวกันหากไทยแพ้ก็ควรต้องมีการปรับปรุง พร้อมทั้งทรงกำชับให้ดูแลนักกีฬาให้เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเดินทาง ที่พัก ความเป็นอยู่ และมารยาทต่างๆ ที่สำคัญทรงเน้นเป็นพิเศษในเรื่องการเป็นตัวแทนที่ดีของประเทศไทย" คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เผย
ขณะเดียวกัน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระราชทานไฟพระฤกษ์แก่ คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 40 "ขอนแก่นเกมส์" ซึ่งจะจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 3-13 มีนาคม 2555 และคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 30 "นครขอนแก่นเกมส์" ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-25 มีนาคม 2555