คอลัมน์สุดฟากสนาม เรื่อง นกฟินิกซ์
ปี 1997 คือช่วงเวลาที่ชื่อของ อังเดร อากัสซี่ หายไปจากการแข่งขัน เป็นช่วงเวลาที่นักเทนนิสหนุ่มใช้ชีวิตอยู่นอกสนามกับการทำงานเพื่อสังคมซึ่งอังเดร ใช้เป็นยารักษาบาดแผลจากความผิดพลาดในอดีตและการเดินทางไปยังแอฟริกาใต้เพื่อเข้าร่วมเทนนิสการกุศลจนทำให้เขามีโอกาสได้พบกับผู้นำอันเป็นรัฐบุรุษของประเทศอย่างเนลสัน แนเดลล่า กลายเป็นจุดเปลี่ยนทัศคติของอังเดร ในการใช้ชีวิตไปเลยทีเดียว
การเดินทางสู่แอฟริกาใต้จากสหรัฐอเมริกานั้นนับเป็นการเดินทางที่ยาวนาน และ ยากลำบากไม่น้อย แต่การได้สัมผัสกับบรรยากาศซาฟารี ทำให้ทริปที่อังเดร บันทึกไว้ว่าเป็นการฟื้นความทรงจำเมื่อครั้งที่เขาทำความรู้จักกับ บรู๊ค เป็นครั้งแรกซึ่งในเวลานั้นภรรยาสาวกำลังถ่ายภาพยนตร์อยู่ที่ แอฟริกาใต้ และ ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เริ่มต้นจากการข้อความผ่านเครื่องโทรสาร
แม้ว่าซาฟารี ในทุ่งหญ้าของแอฟริกาใต้จะสร้างความบันเทิงให้กับบรู๊ค และ อังเดร ไม่น้อย แต่ภายในใจที่ยังมีความกังวลเรื่องบทลงโทษจากสมาพันธ์เทนนิสอาชีพ กรณีที่ตรวจพบสารเสพติดรวมไปถึงความกดดันในชีวิตนักเทนนิสอาชีพที่ตกต่ำลงเรื่อย ทั้งหมดนี้ไม่สามารถปิดบังสายตาของบุคคลที่ใกล้ชิดได้ หากแต่อังเดร ไม่ยอมปริปากพูดใดๆ ยังคงเก็บความทุกข์ทั้งหมดไว้กับตัว และหวังว่าเวลาจะให้คำตอบที่ดีที่สุด
หลังสัปดาห์ที่ได้พักผ่านอยู่กับการเข้าทุ่งซาฟารี ใช้ชีวิตแบบนายพรานก็ได้เวลาที่ อังเดร จะได้พบกับเนลสัน แมนเดลล่า ผู้นำแอฟริกาใต้ในยุคแห่งความเปลี่ยนแปลงชายที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักกันดีในนาม เนลสัน แมนเดลล่า ผู้ที่ครั้งหนึ่งคือนักโทษการเมืองซึ่งถูกจองจำอยู่ใน รอบบิน ไอร์แลนด์ อย่างยาวนานถึง 27 ปีหากแต่ใจอันเสรีของแมนเดลล่า คือพลังอันยิ่งใหญ่ที่พลิกประเทศซึ่งครั้งหนึ่งถูกปกครองภายใต้คนผิวขาว กลายมาเป็นเมืองที่สามารถอยู่รวมกันได้ด้วยความต่าง
การพบกันครั้งนี้ อังเดร ไม่ได้ถามอะไร เนลสัน มากนักเขาได้แต่ฟังคิดตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสการกุศล คำพูดของผู้นำผู้ยิ่งใหญ่เหมือนจี้เข้ามาในหัวใจของนักเทนนิสหนุ่มที่กำลังหาแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ให้กับชีวิตตนเอง
“ในชีวิตคนเราความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเป็นเรื่องสำคัญ แต่ในเวลาเดียวกันเราก็ต้องดูความพร้อมของตนเองด้วย ซึ่งนั่นหมายถึงเราต้องมีความระมัดระวังในทุกครั้งที่ตัดสินใจ ระมัดระวังในทุกครั้งที่จะสร้างความสัมพันธ์ ระมัดระวังทุกครั้งในการให้คำมั่นสัญญา และที่สำคัญที่สุดเราต้องดำเนินชีวิตโดยไม่ประมาท และ ต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของการใช้ชีวิต” นี่คือคำกล่าวของชายผู้ทำให้เพื่อนร่วมชาติเป็นอิสระจากพันธนาการแห่งสีผิว ชายที่คนทั้งโลกรู้จักในนาม “เนลสัน แมนเดลล่า”
ปี 1997 คือช่วงเวลาที่ชื่อของ อังเดร อากัสซี่ หายไปจากการแข่งขัน เป็นช่วงเวลาที่นักเทนนิสหนุ่มใช้ชีวิตอยู่นอกสนามกับการทำงานเพื่อสังคมซึ่งอังเดร ใช้เป็นยารักษาบาดแผลจากความผิดพลาดในอดีตและการเดินทางไปยังแอฟริกาใต้เพื่อเข้าร่วมเทนนิสการกุศลจนทำให้เขามีโอกาสได้พบกับผู้นำอันเป็นรัฐบุรุษของประเทศอย่างเนลสัน แนเดลล่า กลายเป็นจุดเปลี่ยนทัศคติของอังเดร ในการใช้ชีวิตไปเลยทีเดียว
การเดินทางสู่แอฟริกาใต้จากสหรัฐอเมริกานั้นนับเป็นการเดินทางที่ยาวนาน และ ยากลำบากไม่น้อย แต่การได้สัมผัสกับบรรยากาศซาฟารี ทำให้ทริปที่อังเดร บันทึกไว้ว่าเป็นการฟื้นความทรงจำเมื่อครั้งที่เขาทำความรู้จักกับ บรู๊ค เป็นครั้งแรกซึ่งในเวลานั้นภรรยาสาวกำลังถ่ายภาพยนตร์อยู่ที่ แอฟริกาใต้ และ ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เริ่มต้นจากการข้อความผ่านเครื่องโทรสาร
แม้ว่าซาฟารี ในทุ่งหญ้าของแอฟริกาใต้จะสร้างความบันเทิงให้กับบรู๊ค และ อังเดร ไม่น้อย แต่ภายในใจที่ยังมีความกังวลเรื่องบทลงโทษจากสมาพันธ์เทนนิสอาชีพ กรณีที่ตรวจพบสารเสพติดรวมไปถึงความกดดันในชีวิตนักเทนนิสอาชีพที่ตกต่ำลงเรื่อย ทั้งหมดนี้ไม่สามารถปิดบังสายตาของบุคคลที่ใกล้ชิดได้ หากแต่อังเดร ไม่ยอมปริปากพูดใดๆ ยังคงเก็บความทุกข์ทั้งหมดไว้กับตัว และหวังว่าเวลาจะให้คำตอบที่ดีที่สุด
หลังสัปดาห์ที่ได้พักผ่านอยู่กับการเข้าทุ่งซาฟารี ใช้ชีวิตแบบนายพรานก็ได้เวลาที่ อังเดร จะได้พบกับเนลสัน แมนเดลล่า ผู้นำแอฟริกาใต้ในยุคแห่งความเปลี่ยนแปลงชายที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักกันดีในนาม เนลสัน แมนเดลล่า ผู้ที่ครั้งหนึ่งคือนักโทษการเมืองซึ่งถูกจองจำอยู่ใน รอบบิน ไอร์แลนด์ อย่างยาวนานถึง 27 ปีหากแต่ใจอันเสรีของแมนเดลล่า คือพลังอันยิ่งใหญ่ที่พลิกประเทศซึ่งครั้งหนึ่งถูกปกครองภายใต้คนผิวขาว กลายมาเป็นเมืองที่สามารถอยู่รวมกันได้ด้วยความต่าง
การพบกันครั้งนี้ อังเดร ไม่ได้ถามอะไร เนลสัน มากนักเขาได้แต่ฟังคิดตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสการกุศล คำพูดของผู้นำผู้ยิ่งใหญ่เหมือนจี้เข้ามาในหัวใจของนักเทนนิสหนุ่มที่กำลังหาแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ให้กับชีวิตตนเอง
“ในชีวิตคนเราความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเป็นเรื่องสำคัญ แต่ในเวลาเดียวกันเราก็ต้องดูความพร้อมของตนเองด้วย ซึ่งนั่นหมายถึงเราต้องมีความระมัดระวังในทุกครั้งที่ตัดสินใจ ระมัดระวังในทุกครั้งที่จะสร้างความสัมพันธ์ ระมัดระวังทุกครั้งในการให้คำมั่นสัญญา และที่สำคัญที่สุดเราต้องดำเนินชีวิตโดยไม่ประมาท และ ต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของการใช้ชีวิต” นี่คือคำกล่าวของชายผู้ทำให้เพื่อนร่วมชาติเป็นอิสระจากพันธนาการแห่งสีผิว ชายที่คนทั้งโลกรู้จักในนาม “เนลสัน แมนเดลล่า”
