xs
xsm
sm
md
lg

อุตฯ มั่นใจ "บางชัน-ลาดกระบัง" ไม่จมน้ำ "ฟาร์มเฮ้าส์-ซาฟารีเวิลด์" ระทึก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รมว.อุตฯ มั่นใจ "บางชัน-ลาดกระบัง" รับมือน้ำท่วมได้ "ฟาร์มเฮ้าส์" ยันไม่กังวล เพราะโรงงานออกแบบดี ตั้งเครื่องจักรไว้ชั้น 2 ระบุ หากนิคมบางชันท่วม ก็ยังมีอีก 2 แห่งที่ลาดกระบัง ผลิตชดเชยได้ แต่หากถูกตัดน้ำและไฟ ต้องหยุดผลิตทั้งหมด ด้านผู้บริหาร "ซาฟารีเวิลด์" ยันไม่ย้ายสัตว์หนี เพราะมีจำนวนมาก และขาดเครื่องมือดูแล มั่นใจยังเหลือพื้นที่สูงเพียงพอ

นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และบางชัน ยังมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมได้ถึงแม้ว่าที่ตั้งจะติดกับคลองแสนแสบ และมีน้ำไหลบ่ามายังแนวเขื่อนกั้นน้ำ อย่างไรก็ตาม คณะทำงานได้เข้าไปประสานกับนิคมฯ ในการติดตามสถานการณ์ และเสริมความแข็งแรงแนวคันกั้นน้ำตลอดเวลา ส่วนนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ อาทิ บางพลี บางปู และเวลโกรว์ มีการเสริมความแข็งแรงให้กับแนวคันกั้นน้ำอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะรับมือกับสถานการณ์น้ำได้

นายฤทธิ์ คิ้วคชา รองผู้จัดการใหญ่การตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ กรุงเทพฯ และภูเก็ตแฟนตาซี ภูเก็ต เปิดเผยว่า ในขณะนี้สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ไปแล้ว 50% ของพื้นที่ทั้งหมด หรือคิดเป็น 250 ไร่ จากพื้นที่สัตว์ที่มีอยู่ 500 ไร่ โดยน้ำได้ทะลักเข้ามาท่วมตั้งแต่เมื่อกลางดึกของวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากน้ำได้ทะลักมาต่อเนื่องจากการเปิดประตูคลองสามวา

โดยก่อนหน้านี้ พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำท่วมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่จากระดับน้ำที่ซึมเข้ามาเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้โซนของซาฟารีปาร์ค ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดให้ประชาชนขับรถเข้ามาดูสัตว์ เช่น กวาง ม้าลาย และแรด ได้รับผลกระทบ โดยจากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นดังกล่าวขณะนี้ยังไม่มีสัตว์ชนิดใดเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต ขณะที่ในโซนอื่นๆ บริษัทได้สร้างแนวกำแพงกั้นไว้อย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้ามาในโซนด้านใน เพราะมีสัตว์ที่มีมูลค่าสูงอย่างยีราฟ จำนวน 120 ตัว ถือว่ามากที่สุดในโลก

"บริษัทยังได้ทำคันกั้นน้ำเพิ่มขึ้นอีก 1 เมตร จากปกติอยู่สูงกว่าพื้นดิน 2 เมตร เพื่อป้องกันน้ำเข้า ขณะที่โซนปลาโลมา และปลาวาฬขาว ที่มีมูลค่าสูงสุดมากกว่า 100 ล้านบาท ยังอยู่สูงกว่าพื้นดินมากกว่า 5 เมตร และโซนสัตว์ดุร้ายที่มีจระเข้ เสือ และสิงโต อยู่สูงกว่าพื้นดินมากกว่า 1.5 เมตร บริษัทจึงมั่นใจว่าจะสามารถรับน้ำได้สูงอีกกว่า 1.5 เมตร จึงยังไม่มีแผนที่จะย้ายสัตว์ทั้งหมดไปที่อื่น เพราะถ้าหากมีการขนย้ายอาจต้องใช้รถบรรทุกขนกว่า 1,000 เที่ยว"

ด้านนางเยาวเรศ กาญจนโชติกมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเบเกอรี่ภายใต้แบรนด์ฟาร์มเฮ้าส์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่มีความกังวลกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นกับนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในภาวะที่เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วม เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตสินค้าทั้งหมดจำนวน 3 แห่ง คือ นิคมลาดกระบัง 2 แห่ง และนิคมบางชัน 1 แห่ง ประกอบกับทั้ง 3 โรงงานผลิตสินค้าทุกอย่างเหมือนกัน หากโรงงานแห่งใดประสบกับปัญหาน้ำท่วมก็สามารถผลิตสินค้าชดเชยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของขนมปังแผ่น หรือแยมโรล

นอกจากนี้หากโรงงานทั้ง 3 แห่งมีปัญหา บริษัทก็จะปรับแผนการผลิตสินค้าในกลุ่มของขนมปัง เพื่อป้อนให้กับร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของเครือไมเนอร์และแมคโดนัลด์ ด้วยการนำสินค้าแช่แข็งเพื่อเตรียมส่งมอบให้กับลูกค้า และหากสถานการณ์เลวร้ายจนบริษัทไม่สามารถจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้โดยรถ 6 ล้อ บริษัทก็จะทำการปรับแผนการส่งสินค้าจากทางรถยนต์เป็นทางเรือ เพื่อให้สินค้าไม่ขาดตลาด

ปัจจุบันบริษัทมีศูนย์กระจายสินค้าทั้งหมดจำนวน 38 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 10 แห่ง และต่างจังหวัด 28 แห่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การผลิตสินค้าในโรงงานทั้ง 3 แห่ง ยังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ และยังไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นในการผลิตสินค้า แต่เพื่อความไม่ประมาทบริษัทก็ได้เตรียมการสร้างกำแพงกั้นน้ำด้วยอิฐบล็อก พร้อมด้วยเครื่องปั่นไฟและเครื่องสูบน้ำ เพื่อรองรับเหตุการณ์เลวร้ายที่จะเกิดขึ้น

“เนื่องจากโรงงานเรามีการออกแบบไว้เป็นอย่างดี คือ เครื่องสำคัญที่ใช้ในการผลิตสินค้าจะอยู่บริเวณชั้น 2 ของโรงงาน หากเกิดกรณีน้ำท่วมภายในโรงงานก็ยังสามารถดำเนินการผลิตสินค้าได้ ซึ่งปัญหาที่เรากังวลมากที่สุดในตอนนี้คือ ระบบโลจิสติกส์ ตอนนี้เรามีรถ 6 ล้อไว้คอยขนส่งสินค้าอยู่แล้ว แต่หากน้ำท่วมสูงคงไม่สามารถส่งสินค้าได้ และถ้าตัดน้ำและไฟก็คงต้องหยุดการผลิตสินค้าเช่นกัน” นางเยาวเรศ กล่าวสรุป
กำลังโหลดความคิดเห็น