ASTVผู้จัดการรายวัน - จบลงด้วยดีสำหรับปัญหาสมาคม"ยัดห่วงไทย" หลังได้ "เสี่ยจอห์นนี" สุรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา นั่งเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ด้วยการเทคะแนนเสียงจากสโมสรสมาชิก และยังสามารถปลดล็อคจากการถูกแขวนของ สหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติหรือฟีบา หลังเกิดปัญหายื้อแย่งสิทธิการบริหารกับขั้วเก่าอย่าง สุเทพ เบ็ญจโภคี อดีตนายกสมาคมฯ ที่ถูกการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) สั่งยุติการปฏิบัติงานเป็นเวลานานตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2553 แม้จะดัน คณาพงศ์ คณินวรพันธุ์ ขึ้นชิงตำแหน่งจนกระทั่งขอถอนตัวในที่สุดก็ตาม
โดย "เสี่ยจอห์นนี" เผยถึงแผนดำเนินงานภายใต้ชื่อ "สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย" ในระยะสั้น และระยะยาวไว้ว่า "ต่อจากนี้จะมีการสานต่อโครงการที่ได้เริ่มทำไว้ในช่วงที่รับตำแหน่งก่อนที่จะถูก กกท. ถอดถอนคำว่า "แห่งประเทศไทย" ซึ่งจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ รวมทั้งปลุกกระแสบาสเกตบอลให้มีความคึกคักในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับนักเรียน มหาวิทยาลัย ประชาชน หรือเกมระดับครอบครัว สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย ในสโลแกน ใครอยากเล่นต้องได้เล่น"
สำหรับการจัดการแข่งขันภายในประเทศ "ประมุขยัดห่วง" เผยว่า "จะจัดให้มีการแข่งขันตลอดทั้งปี อาทิ การแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่น 16 ปี ชาย-หญิง, ชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่น 18 ปี ชาย-หญิง, ถ้วย.ค ชาย-หญิง, ถ้วยพระราชทาน ข. ชาย และ ถ้วยพระราชทาน ก. ชาย และหญิงทั่วไป, สตรีทบาสเกตบอลชิงแชมป์ประเทศไทย, การแข่งขันบาสเกตบอลไทยแลนด์ โอเพน ซึ่งมีเกมที่จะริเริ่มใหม่ได้แก่ ออล ไทยแลนด์ แชมเปียนชิป และอีกหลายรายการเพื่อให้บาสเกตบอลไทยแข็งแกร่งที่สุด
นอกจากนี้ในส่วนที่ขาดหายไปนาน คือการนำนักบาสเกตบอลจากต่างประเทศมาแข่งขันในประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้แฟนบาสเกตบอลไทยได้ชมเกมที่สนุกสนานมากที่สุด ทั้งนี้ได้จัดให้มีการอบรมผู้ตัดสินและผู้ฝึกสอนเพื่อให้ทุกคนได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเป็นธรรมและถูกต้อง ลดข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุด"
ขณะที่ในส่วนทีมชาติ "เสี่ยจอห์นนี" เผยว่า "ที่ผ่านมามีการจัดจ้างผู้ฝึกสอนชั้นนำจากสหรัฐอเมริกาทั้งชายและหญิง ได้แก่ ไมเคิล เรย์ ริชาร์ดสัน วัย 56 ปี อดีตผู้เล่นเอ็นบีเอประสบการณ์ 8 ปี เคยถูกดราฟต์สูงถึงอันดับ 4 ซึ่งยังถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จ้างผู้เล่นเอ็นบีเอมาเป็นโค้ช ส่วนฝ่ายหญิง คือ ซัลวาโตเร คอปปา อดีตโค้ชระดับดิวิชั่น 1 ของลีกอาชีพอิตาลี รวมทั้งเป็นอดีตโค้ชทีมชาติประเทศมอลตาในยุโรป"
นอกจากนี้ นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ยังมีแผนเฟ้นหานักกีฬาช้างเผือกจากทุกภูมิภาคของประเทศไทยด้วย "เนื่องจากผู้เล่นทีมชาติส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัดถึง 80 % ดังนั้นจะจัดให้มีการแข่งขันบาสเกตบอลของแต่ละภูมิภาคอายุระหว่าง 16-18 ปี แบ่งเป็นชายและหญิง ภาคละ 2 ทีม รวม 4 ภาคเป็น 8 ทีม แข่งขันระบบเหย้า-เยือน แชมป์ของแต่ละภาคจะได้รับเงินรางวัล 5 หมื่นบาท ก่อนมาชิงชนะเลิศที่กรุงเทพมหานคร รับเงินรางวัล 1 แสนบาท ขณะเดียวกันจะส่งแมวมองไปคัดเลือกเด็กที่มีแววรุ่งเพื่อนำมาฝึกซ้อมกับทีมชาติพร้อมให้ทุนการศึกษาเดือนละ 5 พันบาทจนถึงอายุ 20 ปี โดยมีข้อแม้ว่าในหนึ่งปีต้องมาเข้าแคมป์ทีมชาติ 2 เดือน ภายใต้การฝึกสอนของโค้ชชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งนโยบายนี้จะถือเป็นการพัฒนาเยาวชนอย่างแท้จริงโดยคาดว่าจะเริ่มการแข่งขันได้ในช่วงต้นปีหน้า เช่นเดียวกับการแข่งขันออล ไทยแลนด์ แชมเปียนชิป ที่เป็นการแข่งขันกึ่งอาชีพ ไม่จำกัดอายุ-สัญชาติ ชิงเงินรางวัล2 แสนบาท ซึ่งจะมีการชิงชนะเลิศในต้นปีหน้าเช่นกัน"
ส่วนการเตรียมความพร้อมสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายนนี้ "เสี่ยจอห์นนี" เผยว่า "ขณะนี้นักบาสเกตบอลทีมชาติไทยมีความพร้อมเต็มที่โดยทีมชายทำการฝึกซ้อมทุกวันระหว่างเวลา 19.00 - 21.30 น. ส่วนทีมหญิงฝึกซ้อมทุกวันจันทร์-เสาร์ ระหว่างเวลา 18.00 - 20.30 น. ที่ศูนย์ฝึกภายใน กกท. มีกำหนดออกเดินทางวันที่ 9 พฤศจิกายน และยังคงเป็น ฟิลิปปินส์ ที่เป็นคู่แข่งของเราอย่างถาวรทั้งชายและหญิง แต่โชคดีที่ทราบข่าวว่าทีมชายของฟิลิปปินส์ชุดซีเกมส์นี้ไม่ใช่มืออาชีพ เป็นเพียงนักศึกษามหาวิทยาลัยเท่านั้น อย่างไรก็ตามประมาทไม่ได้ จึงได้เน้นให้โค้ชดูแลนักกีฬาเป็นพิเศษ ด้านทีมหญิงคาดว่ามีโอกาสเข้าชิงชนะเลิศสูงแม้ ฟิลิปปินส์ จะนำเข้านักกีฬาลูกครึ่งมือสมัครเล่นก็ตาม ทั้งนี้ตนจะทุ่มเทเต็มที่เพื่อเป้าหมายคว้าเหรียญทองซีเกมส์ทั้งชายและหญิงให้ได้"