หัวหน้าทีมแพทย์ของศึกโมโตจีพี ระบุสาเหตุการเสียชีวิตของ มาร์โก ซิมอนเชลลี นักซิ่งทีมเกรซินี ฮอนด้า ระหว่างการแข่งขันรายการมาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ ที่สนามเซปัง เซอร์กิต เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา เกิดจากการได้รับบาดเจ็บหลายส่วนของร่างกายทั้งศีรษะ คอและหน้าอก
ซิมอนเชลลี เสียชีวิตคาแทร็กหลังประสบอุบัติเหตุในรอบที่ 2 ของการแข่งขันที่สนามเซปัง เซอร์กิต โดยนักซิ่งวัย 24 ปีล้มลงในจังหวะการเข้าโค้งจนหมวกกันน็อคหลุด ก่อนถูก โคลิน เอ็ดเวิร์ด จากค่ายมอนสเตอร์ ยามาฮา พุ่งมาชนบริเวณศีรษะ
ล่าสุด มิเชเล มัคเคียโกเดนา หัวหน้าทีมแพทย์ของศึกโมโตจีพี เปิดเผยว่า ซิมอนเชลลี ไม่ได้สติตั้งแต่ตอนที่ทีมแพทย์เข้าไปบนแทร็กเพื่อนำตัวออกมาหลังประสบอุบัติเหตุ ทีมแพทย์พยายามยื้อชีวิตโดยปั๊มหัวใจตั้งแต่ตอนอยู่บนรถพยาบาลกระทั่งเข้ามาในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตนักซิ่งชาวอิตาเลียนได้
"เนื่องจากการล้มของเขา และยังถูกชนจากนักแข่งคนอื่นอีก เขาจึงได้รับบาดเจ็บอย่างหนักทั้งที่ศีรษะ คอ และหน้าอก เมื่อทีมแพทย์ของเราไปถึงตัวเขา เขาก็ไม่มีสติแล้ว และบนรถพยาบาล ทีมแพทย์ก็ทำการปั๊มหัวใจให้ ทันทีที่ตัวไปถึงโรงพยาบาลก็ถูกสอดสายยางเข้าไปเพื่อจะดูดเลือดออกมาจากทรวงอก เราปั๊มหัวใจต่อไปเป็นเวลา 45 นาที เพราะเราหวังจะพยายามอย่างถึงที่สุด แต่โชคร้ายที่เราช่วยเขาไม่ทันและในเวลา 16.56 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) เราก็ต้องประกาศว่าเขาเสียชีวิต"
ขณะที่ พอล บัทเลอร์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันเปิดเผยว่าจะมีการสอบสวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่หลังจากช่วงเวลานี้ พร้อมแสดงความเสียใจต่อของครอบครัวของ ซิมอนเชลลี ว่า "เราเสียใจต่อครอบครัวของเขา และเราก็ต้องการแสดงถึงความเคารพต่อการเสียชีวิตของเขาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
