ข่าวเศร้าของวงการจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก เมื่อ มาร์โก ซิมอนเชลลี นักบิดชาวอิตาเลี่ยน เสียชีวิตคาแทร็ก เซปัง เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ที่ยกเลิกกะทันหันหลังบิดไปได้แค่ 2 รอบ เนื่องจากประสบอุบัติเหตุล้มและถูกรถของ โคลิน เอ็ดเวิร์ด จากค่ายมอนสเตอร์ ยามาฮาพุ่งเข้ามาทับ
ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกสนาม 17 ฤดูกาล 2011 รายการ "มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์" ที่สนาม เซปัง เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย รุ่นใหญ่โมโตจีพีขับเคี่ยวทั้งหมด 20 รอบความยาวต่อรอบ 5.548 กิโลเมตรเมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคมเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ โดย เคซีย์ สโตเนอร์ จากเร็ปโซล ฮอนดาคว้าแชมป์โลกไปแล้วตั้งแต่สนามก่อนที่ประเทศออสเตรเลีย
การขับเคี่ยวต้องยุติลงเพียงแค่รอบ 2 เนื่องจาก ซิมอนเชลลี ล้มจังหวะเข้าโค้งและถูก เอ็ดเวิร์ด พุ่งเข้ามาทับก่อนจะไปเฉี่ยวกับ วาเลนติโน รอสซี ของดูคาติ ซึ่ง 2 รายหลังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ "เจ้าหัวฟู" ได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะเนื่องจากหมวกกันน็อคหลุดออกมาบริเวณที่เกิดเหตุ
ทำให้ฝ่ายจัดตัดสินใจยกเลิก ล่าสุดนักขับวัย 24 ปีเจ้าของแชมป์โลกรุ่น 250 ซีซีเมื่อปี 2008 เสียชีวิตคาแทร็ก แม้จะพยายามนำตัวขึ้นรถฉุกเฉินเพื่อส่งโรงพยาบาลแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้ ผู้สื่อข่าว MGR SPORT รายงานจากมาเลเซียว่าคอความเร็วที่ไม่รู้ข่าวข้างปาสิ่งของลงมาในสนามเนื่องจากไม่พอใจ รวมถึงเห็นทีมเยือนอิตาลีร่ำไห้ก่อนจะมีการประกาศข่าวเศร้านี้อย่างเป็นทางการ
สำหรับ มาร์โก ซิมอนเชลลี่ นักบิดวัยวัย 24 ปีจากอิตาลีผู้มีผมอันฟูฟ่องอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวนั้นนับเป็นนักบิดมากฝีมืออีกรายของวงการโมโตจีพี หากแต่ต้องมาเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรจากอุบัติเหตุในสนามแข่ง โดยผลงานของซิมอนเชลลี ในช่วงเริ่มต้นนั้นเป็นนักบิดในรุ่น 125 ซีซี ให้กับทีมอาพริเลีย ระหว่างปี 2002-2005 โดยสร้างผลงานขึ้นโพเดี้ยมได้ทั้งหมด 7 ครั้ง จากนั้นในปี 2006-2009 นักบิดดาวรุ่งจากอิตาลีขยับขึ้นไปขับในรุ่น 250 ซีซี ให้กับต้นสังกัดใหม่ ทีมกีเลร่า และสามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จในปี 2008 ในฤดูกาล 2010-2011 ซิมอนเชลลี่ ย้ายมาสังกัดทีมฮอนด้า และ ลงขับในรุ่นโมโตจีพีโดยในฤดูกาล 2010 จบในอันดับที่ 8 ของตารางแชมป์โลก ขณะที่ฤดูกาล 2011 มาร์โก ซิมอนเชลลี่ มีคะแนนอยู่ในอันดับที่ 6 ของตารางก่อนจะประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิตในการแข่งขัน มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 54
