แอนดี เมอร์เรย์ นักเทนนิสมือวางอันดับ 4 ของโลก จากสหราชอาณาจักร ตบเท้าเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึก พีทีที ไทยแลนด์ โอเพน 2011 ไปเจอคู่แค้นเก่าอย่าง โดนัลด์ ยัง หวดฟอร์มแรงชาวอเมริกันเป็นหนที่สาม หลังโค่นมือวางอันดับ 3 ของรายการอย่าง กิลส์ ซิมง ไป 2-1 เซต ในแมทซ์รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันเสาร์ที่ 1 ต.ค. 54
ศึกเทนนิสเอทีพี ทัวร์ รายการ “พีทีที ไทยแลนด์ โอเพน 2011” ชิงเงินรางวัลรวม 644,500 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 20 ล้านบาท) ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 ต.ค. เป็นการดวลแร็กเกตประเภทชายเดี่ยวรอบรองชนะเลิศ โดยคู่แรกเวลา 13.00น. เป็นการพบกันระหว่าง กาแอล มงฟิลส์ มือ 2 ของรายการชาวฝรั่งเศส และ โดนัลด์ ยัง มือ 55 ของโลกจากแดนลุงแซม
ปรากฏว่ามีการพลิกล็อคเกิดขึ้น เมื่อ โดนัลด์ ยัง รักษาผลงานตั้งแต่รอบแรกไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการพลิกสถานการณ์จากที่ตามหลังก่อนในเซตแรก กลับมาเอาชนะมือ 2 ของรายการอย่างมงฟิลส์ได้ 2-1 เซต 4-6,7-6(7-5),7-6(7-5) ตบเท้าเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นคนแรก
ส่วนไฮไลท์สำคัญประจำวันนี้ แอนดี เมอร์เรย์ มือ 1 ของรายการชาวสกอต พบกับ กิลส์ ซิมง มือ 3 ของรายการจากฝรั่งเศส ท่ามกลางแฟนคลับของทั้งคู่ที่เข้ามาเชียร์แน่นสนาม เซตแรก “มาซซา” โชว์ฟอร์มหวดได้สมราคามือ 4 โลก เอาชนะซิมงไปได้ก่อน 5-2 อย่างไรก็ตามเซตต่อมา หวดชาวฝรั่งเศส คืนฟอร์มร้อนรักษาเกมและเบรกเสิร์ฟเมอร์เรย์ได้อยู่หมัด ก่อนปิดเกมหวดไปได้ 6-3 เสมอกัน 1-1 เซต
จากนั้นเซตสุดท้าย เมอร์เรย์ ออกสตาร์ทรักษาเกมแรกและเบรกเสิร์ฟซิมงได้ในเกมที่สอง ซิมงตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบเมื่อถูกหวดชาวสกอตออกนำ 5-2 แต่ในเกมแปด หวดชาวฝรั่งเศสฮึดสู้ไม่ยอมแพ้ ต้องดวลดิวซ์มาราธอนถึง 5 ครั้ง จนครั้งที่ 6 ซิมงเป็นฝ่ายตีเสียเองทั้งหมด ส่งผลให้เมอร์เรย์ ปิดเซตเอาชนะไปได้ในที่สุด 6-2 เข้ารอบชิงชนะเลิศได้ตามความคาดหมาย และมีโอกาสลุ้นแชมป์ที่เมืองไทยสมัยแรกอีกครั้ง หลังทำได้แค่รองแชมป์เมื่อปี 2005 ด้วยการแพ้ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตมือ 1 ชาวสวิสไป 2 เซตรวด
เมอร์เรย์ กล่าวความรู้สึกถึงแมทซ์นี้ว่า “ถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักเมื่อต้องเจอกับคู่ต่อสู้อย่างกิลส์ เขาทำผลงานได้ดีมากและมีลุ้นติดอันดับท็อปเทนได้ในช่วงสิ้นปีนี้ ผมต้องดิวซ์กับเขาถึง 6 ครั้งในแมทซ์นี้ แต่สุดท้ายก็รู้สึกดีใจที่เป็นฝ่ายเอาชนะได้และกลับมาสู่รอบชิงชนะเลิศที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง”
“สำหรับโดนัลด์ ผมมองว่าเขาทำผลงานได้ดีมากตั้งแต่รอบแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแมทซ์ที่เอาชนะกาแอล ถือเป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้เช่นกัน อีกทั้งผมเองก็เคยแพ้มาก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในศึกที่อินเดียน เวลส์ แต่ผมเองก็เพิ่งเอาชนะเขาได้ในยูเอส โอเพน ที่ผ่านมาเช่นกัน ดังนั้น แม้จะเป็นงานหนัก แต่ผมก็จะทำให้เต็มที่แน่นอน”
สำหรับสถิติเฮดทูเฮดของทั้งคู่ ปรากฏว่าเสมอกันที่ 1-1 โดยยังเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ก่อนเมื่อเดือนมี.ค. ที่อินเดียน เวลส์ สหรัฐอเมริกา ก่อนที่เมอร์เรย์ จะแก้แค้นได้สำเร็จในศึกยูเอส โอเพน ที่ผ่านมา ส่วนเกมรอบชิงชนะเลิศระหว่าง แอนดี เมอร์เรย์ และ โดนัลด์ ยัง จะเริ่มทำการแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 2 ต.ค.นี้ เวลา 15.00น. ขณะเดียวกัน ช่อง 3 ก็เตรียมถ่ายทอดสดให้ได้ชมกันถึงบ้าน