สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 เผยว่ามี 4 สนามที่จะใช้จัดการแข่งขัน แต่ได้แสดงความหวั่นใจว่าสนามที่หนองจอกซึ่งวางแผนว่าจะใช้รองรับพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันอาจก่อสร้างเสร็จไม่ทันเวลาที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) กำหนดไว้
เมื่อเวลา 13.00 น. วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554 ที่ผ่านมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการฝ่ายการจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ที่บ้านนายสุวัจน์ ซอยราชวิถี 20 โดยมี พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย, วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ, องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ เข้าร่วมการประชุม
โดย นายสุวัจน์ กล่าวหลังจบการประชุมว่า เบื้องต้นมี 4 สนามที่จะใช้รองรับการแข่งขันใน 2 จังหวัด คือ สนามหนองจอก, อาคารนิมิบุตร และสนามอินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก ในกรุงเทพฯ รวมถึงสนามจังหวัดนครราชสีมา ส่วนสนามมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี จะใช้เป็นสนามซ้อม เนื่องจากไม่สามารถปรับโครงสร้างของสนามให้เข้ากับระเบียบที่ฟีฟ่าต้องการได้
ขณะเดียวกัน นายสุวัจน์ เป็นห่วงเรื่องการก่อสร้างสนามหนองจอก ที่จะใช้รองรับพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันว่าอาจจะเสร็จไม่ทัน เนื่องจาก ฟีฟ่า กำหนดให้ส่งมอบสนามแข่งขันล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือน แต่การก่อสร้างสนามจะเริ่มได้ในเดือนตุลาคมนี้ เพราะต้องรอขออนุมัติการก่อสร้างจากทางมท.1 รวมถึงจะต้องลงนาม และจัดประกวดราคาในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่ทางกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นผู้ดูแลการก่อสร้างกำหนด เกรงว่าจะเสร็จไม่ทัน และหากเสร็จไม่ทันก็จะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ซึ่งได้ฝากให้ทางกรุงเทพฯ คิดหาทางออกล่วงหน้า
ทั้งนี้ ในกรณีที่สนามหนองจอกเสร็จไม่ทันอาจจะใช้สนามอินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก หรืออาคารนิมิบุตร รองรับพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันแทน อย่างไรก็ตาม นายสุวัจน์ ยังหวังว่าสนามหนองจอกจะเสร็จทันเวลา เพื่อรักษาชื่อเสียงและเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ
อนึ่ง หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อรับผิดชอบการดำเนินงานเรื่องฟุตซอลโลก โดยมีหน้าที่ติดตามและตอบคำถามเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตซอลโลกทั้งหมด ขณะที่ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนจะมีการจัดงาน “เคาท์ดาวน์ฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012” เพื่อให้คนไทยตื่นตัวในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันและเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกรับทราบเกี่ยวกับการแข่งขันด้วย