หลังจากที่ "พญาเสือ" ไทเกอร์ วูดส์ ยอดนักกอล์ฟชาวอเมริกัน ต้องเผชิญกับมรสุมชีวิตโหมกระหน่ำอย่างหนัก ทั้งเรื่องในสนามที่ไม่สามารถคว้าแชมป์ใดได้นับตั้งแต่ปี 2009 รวมถึงเรื่องนอกสนามที่ เอลิน นอร์เดเกรน อดีตภรรยา ขอแยกทางสืบเนื่องจากกรณีซุกกิ๊กจำนวนมหาศาล จึงทำให้เกิดคำถามตามมาว่า แชมป์เมเจอร์สมัยที่ 15 ของ "วูดส์" จะมีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่ ทาง MGR GOLF จึงได้สรรหา 5 วิธีที่จะทำให้ "พญาเสือ" กลับมาคำรามอีกครั้งในฤดูกาลหน้า
-ความมั่นใจ
สิ่งเดียวที่บรรดานักกอล์ฟทั้งหลาย แสดงทัศนะเกี่ยวกับตัว ไทเกอร์ ถึงกรณีที่ไร้แชมป์นานเกือบ 2 ปี เป็นเพราะว่า "พญาเสือ" กำลังอยู่ในช่วงที่ขาดความมั่นใจอย่างหนัก เนื่องจากโปรทุกคนรู้ดีถึงศักยภาพของ วูดส์ ว่า หากกลับมาสู่เกมได้เมื่อไร การคว้าชัยชนะจะไม่ใช่เรื่องที่เหนือคาดหมายแต่อย่างใด โดย "จีแม็ค" แกรม แม็คดาวล์ โปรชื่อดังชาวไอร์แลนด์เหนือ ออกมายืนยันความคิดดังกล่าวว่า ไทเกอร์ คือนักกอล์ฟที่ดีที่สุดในโลกเวลานี้ หากแต่เพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เขายังไม่ประสบความสำเร็จ คือ ปัญหาทางด้านสภาพจิตใจที่ยังไม่ฟื้นเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ สืบเนื่องจากปัญหาทั้งใน และนอกสนาม แต่เมื่อไรที่ วูดส์ สามารถเรียกความมั่นใจกลับมาได้อีกครั้ง เป้าหมายแชมป์เมเจอร์สมัยหน้าจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
-วงสวิง
กลายเป็นปัญหาใหญ่ของ ไทเกอร์ หลังจากได้รับบาดเจ็บเรื้อรังบริเวณหัวเข่าซ้าย ส่งผลให้ไม่สามารถใช้วงสวิงที่ดุดันอย่างเดิมได้ จนต้องหันไปพึ่ง ณอน โฟลีย์ โค้ชสวิงชื่อดังชาวแคนาเดียน ที่ระยะหลังถูกวิจารณ์อย่างหนัก สืบเนื่องจากผลงานที่ไม่สามารถช่วยให้ "พญาเสือ" คว้าชัยในรายการใดได้ นับตั้งแต่เข้ารับหน้าที่ในการแข่งขัน "พีจีเอ แชมเปียนชิป" เมื่อฤดูกาลก่อน (2010) จนมีวิวาทะจาก แฮงค์ ฮานีย์ โค้ชคนเก่า (ผู้ช่วยให้ วูดส์ คว้าแชมป์เมเจอร์ 6 สมัย) จวกแนวทางการสอนของ โฟลีย์ ว่า ไม่สามารถพัฒนาขีดจำกัดของ ไทเกอร์ ได้ อย่างไรก็ดีเจ้าของแชมป์เมเจอร์ 14 สมัย ยืนยันว่า ยังคงไว้ใจในแนวการสอนของ โฟลีย์ ต่อไป ดังนั้นหาก "พญาเสือ" จะกลับมาคืนฟอร์มอีกครั้ง ก็จำเป็นต้องบรรลุวงสวิงใหม่ให้สำเร็จก่อนถึงศึก"เดอะ มาสเตอร์ส" ในปีหน้า
-แคดดี้
เป็นอีกปัจจัยที่ขาดไม่ได้สำหรับนักกอล์ฟอาชีพ คือ แคดดี้คู่ใจ นับตั้งแต่ประสบปัญหาชีวิตในช่วงปลายปี 2009 ดูเหมือนว่า ความสัมพันธ์ของ สตีฟ วิลเลียมส์ และ "พญาเสือ" จะเริ่มเหินห่างกันตั้งแต่ตอนนั้น โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ "วูดส์" ไม่ได้ลงสนามทำการแข่งขันเนื่องจากต้องหลบข่าวฉาว และภายหลังจากที่ ไทเกอร์ กลับมาลงแข่งขันต่อในฤดูกาล 2010 ผลงานดูเหมือนจะยิ่งสวนทางกับความสำเร็จในอดีต ซึ่งจนแล้วจนรอดฟางเส้นสุดท้ายก็เกิดขึ้น เมื่อ วิลเลียมส์ ตอบตกลงแบกถุงให้กับ อดัม สกอตต์ ก้านเหล็กรูปงามชาวออสซี ในศึกเมเจอร์ 2 รายการ (ยูเอส โอเพน และดิ โอเพน) โดยที่ "พญาเสือ" ไม่ได้ให้อนุญาต ส่งผลความสัมพันธ์ต้องยุติทันทีในเวลาต่อมา เหลือไว้เพียงอนุสรณ์ความสำเร็จ 13 เมเจอร์ จาก 14 สมัย ซึ่งหาก ไทเกอร์ ต้องการเดินหน้าไปสู่สถิติแชมป์สูงสุด 18 สมัยของ แจ็ค นิกคลอส ก็จำเป็นต้องหาแคดดี้ที่มีประสบการณ์มาเติมเต็มความสำเร็จที่ขาดหายไป
-ความรัก
คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเรื่องของหัวใจนั้นถือเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จของนักกีฬาหลายคน อาทิ "เลฟตี้" ฟิล มิคเคลสัน อดีตนักกอล์ฟมือ 2 โลก รวมไปถึง "เฟดเอ็กซ์" โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยอดนักเทนนิสชาวสวิสฯ ที่ยืนยันว่า แรงใจและความสุขจากครอบครัว คือ พลังอันมหาศาลที่ทำให้ตนเองประสบความสำเร็จในการเล่นอาชีพ โดยตำนานนักกอล์ฟอย่าง นิก ฟัลโด และ เกร็ก นอร์แมน ผู้มีประสบการณ์หย่าร้างมาก่อน ก็ออกโรงแสดงความคิดเห็นเช่นกันว่า "วูดส์" จำเป็นต้องลืมภาพความหลังที่แสนเศร้ากับ เอลิน นอร์เดเกรน ให้ได้เสียก่อน เพื่อเดินหน้าไปสู่ชีวิตครอบครัวใหม่ ซึ่งเมื่อ "พญาเสือ" ทำใจยอมรับได้ และเปิดรับส่วนที่หายไปก็จะทำให้เจ้าตัวกลับมาสู่เกมด้วยกำลังใจอันเปี่ยมล้นจากคนที่ชื่อว่า "ภรรยา"
-ปลดล็อกแชมป์แรก
"ออสเตรเลียน มาสเตอร์ส 2009" คือ แชมป์สุดท้ายที่ "พญาเสือ" ครอบครองนับตั้งแต่กลับมาลงสนามอีกครั้งในปี 2010 ซึ่งแน่นอนว่าบรรดากูรูรวมถึงแฟนกอล์ฟทั้งหลาย ต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยว่าเมื่อไร "ไทเกอร์" จะสามารถปลดล็อกแชมป์รายการแรกในรอบ 22 เดือนได้สำเร็จ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นโทรฟีรายการใดก็ตาม จะส่งผลให้สภาพจิตใจ รวมถึงความมั่นใจ ของ "วูดส์" กลับคืนมาสู่ภาวะปกติอีกครั้ง โดยนี่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดในการเรียกพลังใจกลับมาสู่สถิติแชมป์สมัยที่ 15
เรื่อง : วงศ์ธวัช อามทัศนศรี
