คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
เปิดฉากอย่างเร้าใจดีแท้สำหรับศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ฤดูกาล 2011/12 เริ่มตั้งแต่ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส แลกอาวุธ "นักบุญ" นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ทั้งเกม ก่อนมาตัดสินกันเพลย์สุดท้ายที่เส้น 1 หลา ซึ่ง มาร์ค อินแกรม วิ่งฝ่ากำแพงหินไปไม่ได้ ทำให้ "แพ็คส์แมน" ประเดิมเส้นทางป้องกันแชมป์ด้วยชัยชนะ 42-34 อย่างไรก็ตาม สัปดาห์แรกของเรคกูลา ซีซัน ทุกสายตาจับจ้องไปที่ แคม นิวตัน ถึงแม้ไม่สามารถนำ แคโรไลนา แพนเธอร์ส ตะปบชัย แต่ควอเตอร์แบ็กร่างกำยำเปล่งประกายความเป็น "นัมเบอร์วัน ดราฟท์" อย่างชัดเจน
เมื่อตัดสินใจเลือก แคม นิวตัน สตาร์แห่งมหาวิทยาลัยออเบิร์น เข้าลีกเป็นคนแรกของปี 2011 รอน ริเวรา จะรอช้าอยู่ใยปล่อยจอมทัพดาวรุ่งลงนำทีมบุก หวังเข็นแฟรนไชส์ที่ฤดูกาลก่อนผลงานชนะ 2 แพ้ 14 เกม ให้กลับมาลืมตาอ้าปากอีกครั้ง แม้ แพนเธอร์ส บุกพ่าย อริโซนา คาร์ดินัลส์ 21-28 แต่เชื่อเหลือเกินว่าคงไม่มีสาวก "เสือดำ" คนใดผิดหวัง ในเมื่อได้เห็นฟอร์มของ "ซูเปอร์แคม" ที่ขว้างไป 422 หลา (มากกว่าครั้ง เพย์ตัน แมนนิง เปิดตัวกับ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส เมื่อปี 1998 ถึง 120 หลา และก็ทำสถิติรุคกี้ขว้างทำระยะสูงสุดในลีกเทียบเท่าครั้ง แม็ทธิว สแตฟฟอร์ด เคยเล่นงาน คลีฟแลนด์ บราวน์ส เมื่อปี 2009) กับอีก 2 ทัชดาวน์ วิ่งเอง 18 หลา รวมถึงจังหวะกระโจนเข้าสู่เอ็นด์โซนทำสกอร์ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม การโดนไป 4 แซ็ค เสียหนึ่งอินเทอร์เซปต์ เป็นสิ่งที่ว่าที่สตาร์วัย 22 ปี ต้องเรียนรู้กันในแต่ละสัปดาห์ต่อจากนี้
จากการที่ผู้เขียนแวะเข้าไปดูไฮไลท์แต่ละคู่ใน NFL.com เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของศึกคนชนคน ค่อนข้างประทับใจฟอร์ม นิวตัน ที่เล่นได้อย่างเชื่อมั่น และก็ไม่แปลกใจที่สื่อมะกันยกย่องเด็กคนนี้ให้เป็น "นิว บิ๊กเบน" (เบน โรธลิสเบอร์เกอร์) โดยสองทัชดาวน์ที่ขว้างยาวให้ สตีฟ สมิธ เข้าขั้นงามหยด หากยังมองตารู้ใจกับปีกนอกซูเปอร์สตาร์ได้เช่นนี้ เกมบุก "เสือดำ" พร้อมขย้ำทุกทีม เพราะอย่าลืมว่า แพนเธอร์ส ยังมีรันนิงแบ็กฝีเท้าเยี่ยมอย่าง ดีแอนเจโล วิลเลียมส์ และ โจนาธาน สจวร์ต รอโอกาสหาช่องทะลุทะลวง คำถามจึงอยู่ที่ทีมรับ เพราะเมื่อขาดหัวเรือใหญ่อย่าง จูเลียส เพพเพอร์ส อะไรๆ ช่างดูห่อเหี่ยว
เอาเป็นว่าให้พื้นที่สำหรับ นิวตัน เท่านี้ก่อน เนื่องจากยังมีอีกหลายคู่ให้ต้องพูดถึง เริ่มจาก "เกือกม้า"โคลต์ส ความฝันที่จะได้แข่งซูเปอร์โบว์ล ต่อหน้าแฟนๆ ที่ลูคัส ออยล์ สเตเดียม ยากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เมื่อ แมนนิง ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่คอหนที่สาม ส่อพักยาว ความกดดันจึงโถมใส่บ่า เคอร์รี คอลลินส์ ด้วยอายุอานามเฉียดหลัก 40 ปี ความเชื่องช้าเป็นไปตามสังขาร จึงโดน ฮุสตัน เท็กแซนส์ ไล่อัดกระเจิง มาริโอ วิลเลียมส์ ดีเฟนด์ซีฟ เอนด์ อดีตนัมเบอร์วัน ดราฟท์ อีกคนโซโล่ไปสองแซ็ค ถ้ายังไม่รีบฮึดขึ้นมา เห็นทีเฮดโค้ช จิม คัลด์เวล ต้องสั่งให้ เคอร์ติส เพนเทอร์ มือ 3 วอร์มมือตั้งแต่เนิ่นๆ
มาถึงเกมซันเดย์ไนท์กันบ้าง ดัลลัส คาวบอยส์ ชวดโอกาสเก็บชัยแบบน่าเขกกะโหลก โทนี โรโม อุตส่าห์เล่นดีมาตั้งสามควอเตอร์ ดันมาเข้าตำราบ้อท่าควอเตอร์สุดท้ายเหมือนเคย แฟนๆ "ดาวเดี่ยว" คงหงุดหงิดน่าดูกับจังหวะที่ โรโม พยายามวิ่งเข้าเอ็นด์โซนแต่ดันเสียฟัมเบิล แม้ มาร์ค ซานเชซ ควอเตอร์แบ็ก นิวยอร์ก เจ็ตส์ ผิดพลาดเสียฟัมเบิลคืนเช่นกัน ทว่าท้ายเกม โรโม ผิดพลาดขว้างโดนอินเทอร์เซปต์ ทำให้ เจ็ตส์ ลุยขึ้นมาจนได้ส่องฟิลด์โกล 50 หลา พลิกเฮ 27-24 ที่มันเจ็บกระดองใจกว่านั้นคือ คนที่สังหารพวกเขาได้แก่ นิค โฟล์ค อดีตตัวเตะของตัวเองแท้ๆ
ปิดท้ายกันที่ศึกมันเดย์ไนท์ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ เปิดสงครามกลางอากาศกับ ไมอามี ดอลฟินส์ ขว้างบอมบ์ระยะรวมกันถึง 906 หลา เป็นสถิติ NFL เกมนี้ผู้เขียนได้เห็นความต้องการพิสูจน์ตัวเองของ แชด เฮนนี ซึ่งขอปรบมือให้ดังๆ กับการขว้างไป 416 หลา 2 ทัชดาวน์ วิ่งเองอีกหนึ่งสกอร์ แม้เสีย 1 อินเทอร์เซปต์ ก็ตาม อย่างไรก็ตาม เมื่อเจอกับผลงานชิ้นโบแดงของ ทอม เบรดี ที่ระเบิดฟอร์มขว้าง 517 หลา 4 ทัชดาวน์ เสียหนึ่งอินเทอร์เซปต์เช่นกัน เฮนนี ดูจืดสนิท ว่าไปแล้วปีนี้ เบรดี มีโอกาสลุ้นตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) เน้นๆ เนื่องจากคู่แข่งสำคัญอย่าง แมนนิงผู้พี่ ทำท่าปิดเทอมยาว และการที่ "นักรบกู้ชาติ" อุดมไปด้วยปีกฝีมือดีทั้ง เวส เวลเกอร์, ดีออน แบรนช์, แอรอน เฮอร์นานเดซ หรือว่า ร็อบ กรอนคอฟสกี นี่ถ้า แชด โอโชซินโก ปรับตัวเข้ากับระบบของ บิลล์ บีลิชิก ได้เร็ว กอปรกับทีมไม่ได้ขี้เหร่ เห็นทีทีมใดที่หวังขึ้นไปสัมผัส "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" หนึ่งในเส้นทางนั้นคงต้องผ่าน แพทริออตส์ ให้ได้เสียก่อน
เปิดฉากอย่างเร้าใจดีแท้สำหรับศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ฤดูกาล 2011/12 เริ่มตั้งแต่ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส แลกอาวุธ "นักบุญ" นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ทั้งเกม ก่อนมาตัดสินกันเพลย์สุดท้ายที่เส้น 1 หลา ซึ่ง มาร์ค อินแกรม วิ่งฝ่ากำแพงหินไปไม่ได้ ทำให้ "แพ็คส์แมน" ประเดิมเส้นทางป้องกันแชมป์ด้วยชัยชนะ 42-34 อย่างไรก็ตาม สัปดาห์แรกของเรคกูลา ซีซัน ทุกสายตาจับจ้องไปที่ แคม นิวตัน ถึงแม้ไม่สามารถนำ แคโรไลนา แพนเธอร์ส ตะปบชัย แต่ควอเตอร์แบ็กร่างกำยำเปล่งประกายความเป็น "นัมเบอร์วัน ดราฟท์" อย่างชัดเจน
เมื่อตัดสินใจเลือก แคม นิวตัน สตาร์แห่งมหาวิทยาลัยออเบิร์น เข้าลีกเป็นคนแรกของปี 2011 รอน ริเวรา จะรอช้าอยู่ใยปล่อยจอมทัพดาวรุ่งลงนำทีมบุก หวังเข็นแฟรนไชส์ที่ฤดูกาลก่อนผลงานชนะ 2 แพ้ 14 เกม ให้กลับมาลืมตาอ้าปากอีกครั้ง แม้ แพนเธอร์ส บุกพ่าย อริโซนา คาร์ดินัลส์ 21-28 แต่เชื่อเหลือเกินว่าคงไม่มีสาวก "เสือดำ" คนใดผิดหวัง ในเมื่อได้เห็นฟอร์มของ "ซูเปอร์แคม" ที่ขว้างไป 422 หลา (มากกว่าครั้ง เพย์ตัน แมนนิง เปิดตัวกับ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส เมื่อปี 1998 ถึง 120 หลา และก็ทำสถิติรุคกี้ขว้างทำระยะสูงสุดในลีกเทียบเท่าครั้ง แม็ทธิว สแตฟฟอร์ด เคยเล่นงาน คลีฟแลนด์ บราวน์ส เมื่อปี 2009) กับอีก 2 ทัชดาวน์ วิ่งเอง 18 หลา รวมถึงจังหวะกระโจนเข้าสู่เอ็นด์โซนทำสกอร์ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม การโดนไป 4 แซ็ค เสียหนึ่งอินเทอร์เซปต์ เป็นสิ่งที่ว่าที่สตาร์วัย 22 ปี ต้องเรียนรู้กันในแต่ละสัปดาห์ต่อจากนี้
จากการที่ผู้เขียนแวะเข้าไปดูไฮไลท์แต่ละคู่ใน NFL.com เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของศึกคนชนคน ค่อนข้างประทับใจฟอร์ม นิวตัน ที่เล่นได้อย่างเชื่อมั่น และก็ไม่แปลกใจที่สื่อมะกันยกย่องเด็กคนนี้ให้เป็น "นิว บิ๊กเบน" (เบน โรธลิสเบอร์เกอร์) โดยสองทัชดาวน์ที่ขว้างยาวให้ สตีฟ สมิธ เข้าขั้นงามหยด หากยังมองตารู้ใจกับปีกนอกซูเปอร์สตาร์ได้เช่นนี้ เกมบุก "เสือดำ" พร้อมขย้ำทุกทีม เพราะอย่าลืมว่า แพนเธอร์ส ยังมีรันนิงแบ็กฝีเท้าเยี่ยมอย่าง ดีแอนเจโล วิลเลียมส์ และ โจนาธาน สจวร์ต รอโอกาสหาช่องทะลุทะลวง คำถามจึงอยู่ที่ทีมรับ เพราะเมื่อขาดหัวเรือใหญ่อย่าง จูเลียส เพพเพอร์ส อะไรๆ ช่างดูห่อเหี่ยว
เอาเป็นว่าให้พื้นที่สำหรับ นิวตัน เท่านี้ก่อน เนื่องจากยังมีอีกหลายคู่ให้ต้องพูดถึง เริ่มจาก "เกือกม้า"โคลต์ส ความฝันที่จะได้แข่งซูเปอร์โบว์ล ต่อหน้าแฟนๆ ที่ลูคัส ออยล์ สเตเดียม ยากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เมื่อ แมนนิง ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่คอหนที่สาม ส่อพักยาว ความกดดันจึงโถมใส่บ่า เคอร์รี คอลลินส์ ด้วยอายุอานามเฉียดหลัก 40 ปี ความเชื่องช้าเป็นไปตามสังขาร จึงโดน ฮุสตัน เท็กแซนส์ ไล่อัดกระเจิง มาริโอ วิลเลียมส์ ดีเฟนด์ซีฟ เอนด์ อดีตนัมเบอร์วัน ดราฟท์ อีกคนโซโล่ไปสองแซ็ค ถ้ายังไม่รีบฮึดขึ้นมา เห็นทีเฮดโค้ช จิม คัลด์เวล ต้องสั่งให้ เคอร์ติส เพนเทอร์ มือ 3 วอร์มมือตั้งแต่เนิ่นๆ
มาถึงเกมซันเดย์ไนท์กันบ้าง ดัลลัส คาวบอยส์ ชวดโอกาสเก็บชัยแบบน่าเขกกะโหลก โทนี โรโม อุตส่าห์เล่นดีมาตั้งสามควอเตอร์ ดันมาเข้าตำราบ้อท่าควอเตอร์สุดท้ายเหมือนเคย แฟนๆ "ดาวเดี่ยว" คงหงุดหงิดน่าดูกับจังหวะที่ โรโม พยายามวิ่งเข้าเอ็นด์โซนแต่ดันเสียฟัมเบิล แม้ มาร์ค ซานเชซ ควอเตอร์แบ็ก นิวยอร์ก เจ็ตส์ ผิดพลาดเสียฟัมเบิลคืนเช่นกัน ทว่าท้ายเกม โรโม ผิดพลาดขว้างโดนอินเทอร์เซปต์ ทำให้ เจ็ตส์ ลุยขึ้นมาจนได้ส่องฟิลด์โกล 50 หลา พลิกเฮ 27-24 ที่มันเจ็บกระดองใจกว่านั้นคือ คนที่สังหารพวกเขาได้แก่ นิค โฟล์ค อดีตตัวเตะของตัวเองแท้ๆ
ปิดท้ายกันที่ศึกมันเดย์ไนท์ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ เปิดสงครามกลางอากาศกับ ไมอามี ดอลฟินส์ ขว้างบอมบ์ระยะรวมกันถึง 906 หลา เป็นสถิติ NFL เกมนี้ผู้เขียนได้เห็นความต้องการพิสูจน์ตัวเองของ แชด เฮนนี ซึ่งขอปรบมือให้ดังๆ กับการขว้างไป 416 หลา 2 ทัชดาวน์ วิ่งเองอีกหนึ่งสกอร์ แม้เสีย 1 อินเทอร์เซปต์ ก็ตาม อย่างไรก็ตาม เมื่อเจอกับผลงานชิ้นโบแดงของ ทอม เบรดี ที่ระเบิดฟอร์มขว้าง 517 หลา 4 ทัชดาวน์ เสียหนึ่งอินเทอร์เซปต์เช่นกัน เฮนนี ดูจืดสนิท ว่าไปแล้วปีนี้ เบรดี มีโอกาสลุ้นตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) เน้นๆ เนื่องจากคู่แข่งสำคัญอย่าง แมนนิงผู้พี่ ทำท่าปิดเทอมยาว และการที่ "นักรบกู้ชาติ" อุดมไปด้วยปีกฝีมือดีทั้ง เวส เวลเกอร์, ดีออน แบรนช์, แอรอน เฮอร์นานเดซ หรือว่า ร็อบ กรอนคอฟสกี นี่ถ้า แชด โอโชซินโก ปรับตัวเข้ากับระบบของ บิลล์ บีลิชิก ได้เร็ว กอปรกับทีมไม่ได้ขี้เหร่ เห็นทีทีมใดที่หวังขึ้นไปสัมผัส "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" หนึ่งในเส้นทางนั้นคงต้องผ่าน แพทริออตส์ ให้ได้เสียก่อน
