ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือวางอันดับ 2 ของโลก ชาวสเปน ออกโรงจวกฝ่ายจัดการแข่งขันของยูเอส โอเพน ที่ไม่ห่วงความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมแข่งขันเป็นหลัก หลังสั่งให้ตัวเองและนักเทนนิสรายอื่นต้องลงแข่งทั้งที่พื้นคอร์ตยังไม่แห้ง อันเกิดจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
"เอล มาทาดอร์" หัวเสียอย่างหนัก หลังฝ่ายจัดการแข่งขันสั่งให้ดำเนินการแข่งขันทั้งที่สนามยังไม่พร้อมใช้งาน อันเนื่องมาจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และเมื่อลงแข่งกันไปได้ 15 นาที ฝนก็ตกลงมาอีกรอบ ซึ่งหลังเฝ้าดูสถานการณ์อยู่นาน ในที่สุด สมาคมเทนนิสของสหรัฐอเมริกา ก็ได้ทำการยกเลิกการแข่งขันของวันที่ 7 กันยายน ทุกคู่ทุกสนาม เป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะกลับมาแข่งต่อในวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายนนี้
หวดกล้ามโต วัย 25 ปี ออกมาตำหนิ ไบรอัน เออร์ลี กรรมการฝ่ายจัดการแข่งขัน รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง ที่จัดการแข่งโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของนักกีฬาเป็นหลักว่า "พวกเราไม่ต้องการที่จะลงไปในสนามถ้าหากฝนยังตกอยู่ มันเป็นเรื่องเดิมๆ พวกคุณก็มัวแต่ห่วงเรื่องเงินเท่านั้น"
"พวกเราไม่ได้รับการปกป้องเท่าที่ควร ทั้งที่มีเงินไหลเวียนเป็นจำนวนมากในการแข่งขันแกรนด์สแลม แต่พวกเขาเห็นเราเป็นแค่ส่วนหนึ่งของโชว์ พวกเขาทำงานโดยไม่คิดถึงเราเลยแม้แต่น้อย ผมเข้าใจความรู้สึกของแฟนเทนนิสทุกคนที่เข้ามาในสนาม แต่สุขภาพของนักเทนนิสก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเช่นกัน" นาดาล กล่าว
ด้าน แอนดี เมอร์เรย์ นักหวดมือ 4 ชาวสกอต ที่ปัจจุบันมีสกอร์ตามหลัง โดนัลด์ ยัง มือหวดเจ้าถิ่นอยู่ 1-2 เกม รวมถึง แอนดี ร็อดดิก นักเทนนิสขวัญใจเจ้าถิ่น ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การแข่งขันทั้งที่คอร์ตยังไม่พร้อมใช้งาน ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง โดย เมอร์เรย์ กล่าวว่า "นักเทนนิสทุกคนต้องการลงไปทำผลงานในสนามมากกว่าใครๆ แต่ต้องไม่ใช่สนามที่เต็มไปด้วยอันตรายเช่นนี้"