คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
อินโดเนเชีย 2011 มหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับมาอีกครั้ง โดยคราวนี้ อินโดเนเชีย ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งเขากำหนดให้ กรุงจาการ์ต้า ( Jakarta ) เมืองหลวงของประเทศ รวมทั้ง ปาเล็มบัง ( Palembang ) เมืองหลักของจังหวัด เซ้าธ์ สุมาตรา ที่ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางอันยิ่งใหญ่ของการเดินเรือในแถบนี้ เป็นสถานที่จัดการแข่งขันรวม 44 ชนิดกีฬา ระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายนนี้ โดยเฉพาะพิธีเปิดการแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 11 เดือน 11 ปี 11 พอดี
ครั้งนี้นับเป็นหนที่ 3 แล้วที่ ซี เกมส์ ถูกจัดขึ้นในเมืองต่างจังหวัดที่ไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศ หลังจากที่ เชียงใหม่ และ นครราชสีมา ของไทยออกตัวนำร่องไปก่อนในปี 1995 และ 2007 ตามลำดับ และแม้ว่า กรุงจาการ์ต้า จะเคยรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพมาแล้ว 3 ครั้งในปี 1979 1987 และ 1997 อย่างไรก็ตาม พิธีเปิดและพิธีปิดการแข่งขันจะมีขึ้นที่ ปาเล็มบัง จึงมองได้ว่าเจ้าภาพต้องการโฆษณาเมืองประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัยแห่งนี้ และจัดให้ กรุงจาการ์ต้า เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยอุ้ม ปาเล็มบัง ให้ภาพรวมของ ซี เกมส์ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยนั่นเอง
เมื่อพูดถึงฟุตบอลในกลุ่มประเทศอาเซี่ยนนั้น ถือว่า ไทย อยู่แถวหน้าตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา และช่วงต้นทศวรรษที่ 90 เราก็กลายเป็นผู้นำ ผูกขาดครองแชมป์ยิงยาวตั้งแต่ปี 1993 ที่ ซิงคโปร์ จนถึงปี 2007 ที่ โคราช รวม 8 สมัยซ้อน เพิ่งมาเสียแชมป์อย่างช็อคสายตาแฟนบอลชาวไทยก็ในยุคผลงานฟุตบอลทีมชาติตกต่ำใน ซี เกมส์ หนล่าสุดที่ ลาว เป็นเจ้าภาพเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คราวนั้นเอาถึงตกรอบแรกไปเลย
ในขณะที่ ฟุตบอลโลก 2014 ก็ลูกผีลูกคน ยังไม่รู้ว่าจะผ่านเข้าไปเล่นในรอบคัดเลือก รอบ 4 ได้หรือไม่ หนทางยังอีกยาวไกล ฟุตบอล โอลิมพิค เกมส์ 2012 รอบคัดเลือก ทั้งชาย-หญิง ทีมชาติไทยตกรอบสนิทไปหมดแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงรายการนี้เท่านั้นที่เห็นว่าพอจะเรียกศรัทธาแฟนบอลให้กลับมามีความภาคภูมิใจ และเชื่อมั่นในคณะผู้บริหารของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้อีกครั้ง
งานนี้สมาคมฟุตบอลฯ มอบความไว้วางใจให้ เกษม จริยวัฒน์วงศ์ เป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ชุด ซี เกมส์ อีกครั้ง หลังจากที่เคยนำทีมคว้าแชมป์เมื่อทศวรรษที่แล้ว โดยมี “ น้าเหม่ง ” ประพล พงษ์พานิช กับ “ สิงโตเผือก ” วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ รับหน้าที่ทีมงานโค้ช ดูตัวผู้จัดการทีมอย่าง พี่เษม ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมฟุตบอลเพียงไม่กี่คนของประเทศไทยที่ให้เวลา ลงไปคลุกคลีกับนักเตะและสต๊าฟโค้ชอย่างใกล้ชิด จนรู้นิสัยบอลของแต่ละคนเป็นอย่างดี และเลือกใช้ได้อย่างเหมาะเจาะ อันเป็นปัจจัยหนึ่งของความสำเร็จ
เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พี่เษม ได้ประกาศเรียกนักเตะเข้ารายงานตัวไปแล้ว นักเตะชุดนี้ล้วนเล่นอยู่ใน ไทย พรีเมียร์ลีก และ ลีก ดิวิเชิน 1 ทั้งนั้น แม้ว่าส่วนมากจะไม่ได้ติดทีมชาติชุดใหญ่ แต่ทุกคนแสดงผลงานอย่างโดดเด่นในสโมสรของตนมาจนเข้าตาแฟนบอล และเมื่อเปรียบเทียบกับฟุตบอลรายการอื่นๆ ผมว่ารายการนี้น่าจะเป็นโอกาสที่เราจะคว้าแชมป์ได้มากที่สุด หลังจากที่ช่วงหลังๆมานี้ไม่เคยสัมผัสแชมป์รายการใดเลย
ความที่มันเคยเป็นของแน่จนทำให้ความคาดหวังของแฟนบอลสำหรับ ซี เกมส์ มีสูงมากคือ ต้องแชมป์อย่างเดียว ไม่มีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น อันนี้เป็นแรงกดดันที่ผมเชื่อว่าในปัจจุบันใครๆก็ไม่อยากเข้ามาทำทีม โดยเฉพาะเดี๋ยวนี้หลายชาติต่างก็พัฒนาลีกภายในของตน ต่างก็มีความแข็งแกร่งพอๆกับไทยเรา ทำให้ชัยชนะที่ว่าแน่ มันไม่แน่เสียแล้วครับ
เอาเป็นว่า สมาคมฟุตบอลฯ ช่วยกรุณาจัดโปรแกรมการแข่งขันภายในประเทศหลบหลีกให้ดี เพื่อให้นักเตะชุด ซี เกมส์ ได้มีเวลารวมทีมอย่างน้อยที่สุด 20 วันตามคำขอของ พี่เษม หน่อย ยิ่ง ซี เกมส์ หนที่แล้ว ดันไปตกรอบแรก คราวนี้การจับสลากแบ่งสาย ทีมชาติไทย คงต้องเจอของหนักตั้งแต่รอบแรกแน่นอน อย่าลืมครับว่าการคว้าแชมป์ฟุตบอล ซี เกมส์ นั้น เรียกศรัทธาแฟนบอลกลับมาได้แน่นอน โดยเฉพาะแก่สมาคมฟุตบอลฯ และกับตัว คุณเกษม เองที่เพิ่งนำทีมชาติชุดโอลิมพิคแพ้เทคนิเคิล น็อคเอ้าท์ ตกรอบคัดเลือกไปหยกๆ หากผิดจากนี้ไปก็ใครตัวมันครับ
อินโดเนเชีย 2011 มหกรรมกีฬาแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลับมาอีกครั้ง โดยคราวนี้ อินโดเนเชีย ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่งเขากำหนดให้ กรุงจาการ์ต้า ( Jakarta ) เมืองหลวงของประเทศ รวมทั้ง ปาเล็มบัง ( Palembang ) เมืองหลักของจังหวัด เซ้าธ์ สุมาตรา ที่ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางอันยิ่งใหญ่ของการเดินเรือในแถบนี้ เป็นสถานที่จัดการแข่งขันรวม 44 ชนิดกีฬา ระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายนนี้ โดยเฉพาะพิธีเปิดการแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 11 เดือน 11 ปี 11 พอดี
ครั้งนี้นับเป็นหนที่ 3 แล้วที่ ซี เกมส์ ถูกจัดขึ้นในเมืองต่างจังหวัดที่ไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศ หลังจากที่ เชียงใหม่ และ นครราชสีมา ของไทยออกตัวนำร่องไปก่อนในปี 1995 และ 2007 ตามลำดับ และแม้ว่า กรุงจาการ์ต้า จะเคยรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพมาแล้ว 3 ครั้งในปี 1979 1987 และ 1997 อย่างไรก็ตาม พิธีเปิดและพิธีปิดการแข่งขันจะมีขึ้นที่ ปาเล็มบัง จึงมองได้ว่าเจ้าภาพต้องการโฆษณาเมืองประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัยแห่งนี้ และจัดให้ กรุงจาการ์ต้า เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงคอยช่วยอุ้ม ปาเล็มบัง ให้ภาพรวมของ ซี เกมส์ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยนั่นเอง
เมื่อพูดถึงฟุตบอลในกลุ่มประเทศอาเซี่ยนนั้น ถือว่า ไทย อยู่แถวหน้าตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา และช่วงต้นทศวรรษที่ 90 เราก็กลายเป็นผู้นำ ผูกขาดครองแชมป์ยิงยาวตั้งแต่ปี 1993 ที่ ซิงคโปร์ จนถึงปี 2007 ที่ โคราช รวม 8 สมัยซ้อน เพิ่งมาเสียแชมป์อย่างช็อคสายตาแฟนบอลชาวไทยก็ในยุคผลงานฟุตบอลทีมชาติตกต่ำใน ซี เกมส์ หนล่าสุดที่ ลาว เป็นเจ้าภาพเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คราวนั้นเอาถึงตกรอบแรกไปเลย
ในขณะที่ ฟุตบอลโลก 2014 ก็ลูกผีลูกคน ยังไม่รู้ว่าจะผ่านเข้าไปเล่นในรอบคัดเลือก รอบ 4 ได้หรือไม่ หนทางยังอีกยาวไกล ฟุตบอล โอลิมพิค เกมส์ 2012 รอบคัดเลือก ทั้งชาย-หญิง ทีมชาติไทยตกรอบสนิทไปหมดแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงรายการนี้เท่านั้นที่เห็นว่าพอจะเรียกศรัทธาแฟนบอลให้กลับมามีความภาคภูมิใจ และเชื่อมั่นในคณะผู้บริหารของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้อีกครั้ง
งานนี้สมาคมฟุตบอลฯ มอบความไว้วางใจให้ เกษม จริยวัฒน์วงศ์ เป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ชุด ซี เกมส์ อีกครั้ง หลังจากที่เคยนำทีมคว้าแชมป์เมื่อทศวรรษที่แล้ว โดยมี “ น้าเหม่ง ” ประพล พงษ์พานิช กับ “ สิงโตเผือก ” วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ รับหน้าที่ทีมงานโค้ช ดูตัวผู้จัดการทีมอย่าง พี่เษม ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมฟุตบอลเพียงไม่กี่คนของประเทศไทยที่ให้เวลา ลงไปคลุกคลีกับนักเตะและสต๊าฟโค้ชอย่างใกล้ชิด จนรู้นิสัยบอลของแต่ละคนเป็นอย่างดี และเลือกใช้ได้อย่างเหมาะเจาะ อันเป็นปัจจัยหนึ่งของความสำเร็จ
เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พี่เษม ได้ประกาศเรียกนักเตะเข้ารายงานตัวไปแล้ว นักเตะชุดนี้ล้วนเล่นอยู่ใน ไทย พรีเมียร์ลีก และ ลีก ดิวิเชิน 1 ทั้งนั้น แม้ว่าส่วนมากจะไม่ได้ติดทีมชาติชุดใหญ่ แต่ทุกคนแสดงผลงานอย่างโดดเด่นในสโมสรของตนมาจนเข้าตาแฟนบอล และเมื่อเปรียบเทียบกับฟุตบอลรายการอื่นๆ ผมว่ารายการนี้น่าจะเป็นโอกาสที่เราจะคว้าแชมป์ได้มากที่สุด หลังจากที่ช่วงหลังๆมานี้ไม่เคยสัมผัสแชมป์รายการใดเลย
ความที่มันเคยเป็นของแน่จนทำให้ความคาดหวังของแฟนบอลสำหรับ ซี เกมส์ มีสูงมากคือ ต้องแชมป์อย่างเดียว ไม่มีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น อันนี้เป็นแรงกดดันที่ผมเชื่อว่าในปัจจุบันใครๆก็ไม่อยากเข้ามาทำทีม โดยเฉพาะเดี๋ยวนี้หลายชาติต่างก็พัฒนาลีกภายในของตน ต่างก็มีความแข็งแกร่งพอๆกับไทยเรา ทำให้ชัยชนะที่ว่าแน่ มันไม่แน่เสียแล้วครับ
เอาเป็นว่า สมาคมฟุตบอลฯ ช่วยกรุณาจัดโปรแกรมการแข่งขันภายในประเทศหลบหลีกให้ดี เพื่อให้นักเตะชุด ซี เกมส์ ได้มีเวลารวมทีมอย่างน้อยที่สุด 20 วันตามคำขอของ พี่เษม หน่อย ยิ่ง ซี เกมส์ หนที่แล้ว ดันไปตกรอบแรก คราวนี้การจับสลากแบ่งสาย ทีมชาติไทย คงต้องเจอของหนักตั้งแต่รอบแรกแน่นอน อย่าลืมครับว่าการคว้าแชมป์ฟุตบอล ซี เกมส์ นั้น เรียกศรัทธาแฟนบอลกลับมาได้แน่นอน โดยเฉพาะแก่สมาคมฟุตบอลฯ และกับตัว คุณเกษม เองที่เพิ่งนำทีมชาติชุดโอลิมพิคแพ้เทคนิเคิล น็อคเอ้าท์ ตกรอบคัดเลือกไปหยกๆ หากผิดจากนี้ไปก็ใครตัวมันครับ