"ช้างศึก" ต้องสามแต้ม ลุ้นถอนแค้น "โอมาน"

ASTV ผู้จัดการรายวัน – ด้วยสปิริตของนักเตะ รวมถึงฝีมือการวางหมากของ วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือชาวเยอรมัน เกมที่ทีมชาติไทยบุกพ่าย ออสเตรเลีย 1-2 แบบชนะใจคนดู ทำให้ความฮึกเหิมที่จะกลับมาเปิดรังคว้าชัยเหนือ โอมาน เก็บ 3 คะแนนในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม นัดที่สองของกลุ่มดี วันอังคารที่ 6 กันยายนนี้ มีอย่างเต็มเปี่ยม อย่างไรก็ตาม “วินนี” ยังคงกำชับลูกทีมทุกคนอย่าเพิ่งชะล่าใจ ต้องลงสนามด้วยความมุ่งมั่นเหมือนครั้งเผชิญแข้ง “ซอคเกอรูส์”

โดยเกมเปิดรังรับโอมาน ไทยต้องการสามแต้มเพื่อสานฝันเข้าสู่รอบ 10 ทีมสุดท้าย ทว่า เชเฟอร์ แย้มไม่จำเป็นต้องปรับมาเล่นแท็คติกหน้าคู่ เนื่องจากยังสามารถลุ้นทำประตูคู่แข่งด้วยวิธีอื่น ดังนั้น “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา จะยืนปักหน้าตัวเป้า ได้รับการสนับสนุนเกมรุกทางริมเส้นจาก สมปอง สอเหลบ และ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค หรืออาจมีการปรับเปลี่ยนตามที่ทดลองในการซ้อม ส่วนขุมพลังอื่น “วินนี” น่าจะคงชุดเดิม ถึงแม้ได้ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ และ สุรีย์ สุขะ ฟิตกลับมาอยู่ในทีม แต่ นิเวส ศิริวงศ์ ยังใช้ลูกเก๋าประคองเกมรับไปได้ ขณะที่ จักรพันธ์ แก้วพรหม เด่นทั้งรุกและรับทางกราบขวา

หากพลิกดูสถิติช่วงหลังพบว่า ไทย เคยเจอกับ โอมาน ในรายการระดับทวีปเอเชียถึง 3 รายการ เริ่มจากเอเชียน คัพ 2007 รอบแบ่งกลุ่มที่เราเป็นเจ้าภาพร่วม ซึ่งไทยอาศัยทีเด็ดของ พิพัฒน์ ตันกันยา เบิ้ลสกอร์คว้าชัยไป 2-0 แต่วันที่ 26 มีนาคมปีถัดมา ไทยกลับเสียท่าถูก อิสมาอิล อัล อัจมี เจาะตาข่ายตั้งแต่ 26 วินาทีแรก และยังมาเจอฟอร์มมหาอุตม์ของ อาลี อัล-ฮับซี ทำให้พ่ายคาบ้าน 0-1 ในฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม นัดที่สองของกลุ่ม 2

จากนั้น “เดอะ เรด” เฝ้ารังรับ “ช้างศึก” ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งไม่มีผลต่อการเข้ารอบแล้ว แม้ ตะวัน ศรีปาน (ปัจจุบันชื่อ ธชตวัน ศรีปาน) สังหารจุดโทษขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 3 แต่การส่งผู้เล่นบางรายลงไปหาประสบการณ์ ทำให้โดน เอหมัด อัล ฮอสนี รับเหมายิงแซงชนะ 2-1 ถัดมา ไทย กับ โอมาน ดวงสมพงษ์เจอกันอีกในรอบแรก เอเชียนเกมส์ 2010 ที่นครกวางเจา สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่ง ไทย ได้เปรียบ โอมาน ที่เหลือ 10 คนและยังทะลวงสกอร์นำไปก่อน แต่ก็มาโดนฟรีคิกปลิดวิญญาณ จึงลงเอยด้วยผลเสมอ 1-1

การดวลกันที่ผ่านมา นอกเหนือจาก อาลี อัล-ฮับซี นายทวารจอมหนึบของ วีแกน แอธเลติก ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โอมานยังมีตัวแสบที่เคยยิงเด็ดชีพไทยทั้ง 2 ครั้งอย่าง อัล อัจมี มิดฟิลด์ตัวทำเกมที่เล่นอยู่ในคูเวต และ อัล ฮอสนี ศูนย์หน้าที่ค้าแข้งในกาตาร์ รวมถึง ฟาวซี บาเชียร์ กองกลางตัวรุก กับ อาเหม็ด มูบารัค ตัวตัดเกมก็อยู่ในชุดนั้นทั้งหมด ดังนั้น การฟาดแข้งในวันนี้ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 18.00 น. จึงเปรียบเสมือนนัดล้างตาของทีมชาติไทยไปกลายๆ

อีกทั้งหากเหลือบไปดูที่ซุ้มม้านั่งสำรองนับว่า “เดอะ เรด” มีกุนซือชื่อเสียงไม่ธรรมดาอย่าง ปอล เลอ กูเอ็น โค้ชหนุ่มผู้พา โอลิมปิก ลียง เถลิงแชมป์ลีก เอิง ฝรั่งเศส 3 สมัยซ้อนในปี 2003-2005 และยังมีผลงานคล้ายกับ “วินนี” ด้วยการพา แคเมอรูน ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในศึกเวิลด์ คัพ 2010 ที่แอฟริกาใต้มาแล้วเป็นผู้นำทัพ การดวลกึ๋นข้างสนามของทั้งคู่จึงน่าจะดุเดือดไม่แพ้กับการฟาดฟันในสนาม

ซึ่ง เลอ กูเอ็น ให้สัมภาษณ์ว่า “หลังจากได้ดูฟอร์มไทยเจอออสเตรเลีย นี่ไม่ใช่ง่ายที่เราจะบุกมาชนะ แต่ก็แน่นอนว่าเราหวังถึงสามแต้มเช่นกัน หลังจากที่นัดก่อนน่าเสียดายที่เราพลาดเก็บชัยเหนือ ซาอุดิอาระเบีย ส่วนนัดเจอกับไทย ผมอาจมีการปรับเปลี่ยนทีม 1-2 ตำแหน่ง สิ่งที่จะเน้นคือทีมสปิริต พยายามให้นักเตะเล่นกันด้วยความมั่นใจ ส่วนผู้เล่นไทยที่ต้องจับตามองคือ ธีรศิลป์ กับ ดัสกร”

ด้าน เชเฟอร์ แถลงข่าวทิ้งท้ายว่า “ผมได้ดูเทป โอมาน เสมอ ซาอุดิอาระเบีย 0-0 มาแล้วเช่นกัน ซึ่งเราประมาทโอมานไม่ได้เลย โดยพวกเขามีสไตล์ที่แตกต่างจากออสเตรเลีย คือใช้ความสามารถเฉพาะตัว เน้นเล่นบอลบนพื้นในการเข้าทำ แต่เราก็มีเป้าหมายคือคว้าชัยชนะ ถึงวันนี้เป็นเรื่องดีที่เราไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บ หวังว่าแฟนบอลจะเข้ามาให้กำลังใจกันเต็มสนาม”