โศกนาฎกรรมลูกหนัง อวสาน"ปืน-เวนเกอร์"

เอเยนซี-ถือเป็นการตอกย้ำหายนะของ อาร์เซนอล อย่างแท้จริง หลังโดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยำใหญ่ 2-8 คา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เกม พรีเมียร์ชิป เมื่อคืนวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมเครื่องหมายคำถามอันโตว่าหมดเวลาของ อาร์แซน เวนเกอร์ แล้วหรือยัง ขณะที่คู่แข่งใช้เงินเป็นรากฐานสร้างความสำเร็จแบบเร่งด่วน ส่วน "ปืนโต" กลับทำทีมเพื่ออนาคตที่อยู่ไกลเกินไป

นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1896 ที่ อาร์เซนอล เสียถึง 8 ประตูและเป็นการออกสตาร์ทเลวร้ายด้วยการมีแต้มเดียวจาก 3 นัด ท่ามกลางปัญหารุมเร้านักเตะบาดเจ็บ ติดโทษแบน และเสีย 2 ห้องเครื่องที่เป็นคีย์แมนอย่าง เชส ฟาเบรกาส และ ซาเมียร์ นาสรี ถือว่าไม่เกินความคาดหมายเพราะก่อนเกมเกจิทุกสำนักเชื่อว่าชัยชนะจะตกเป็นของ แมนฯยู แต่ไม่คิดว่าสกอร์จะมโหฬารขนาดนี้

แน่นอนว่าฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล แต่จากนี้ เวนเกอร์ จะใช้ขุมกำลังที่มีกรำศึกที่เหลืออย่างนั้นหรือ แนวทางปั้นเด็กที่เคยได้รับการชื่นชมเวลานี้กลับเป็นตรงกันข้าม 6 ปีที่ไร้แชมป์เป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผู้เล่นดาวรุ่งขึ้นมาทดแทนคนที่ย้ายออกไปไม่ทัน กุนซือชาวฝรั่งเศสประวิงเวลาทั้งที่รู้ว่าต้องเสีย ฟาเบรกาส รวมถึง นาสรี ที่ปล่อยให้เหลือจนเหลือสัญญาปีเดียว ประกอบกับไม่ซื้อผู้เล่นสำเร็จรูปที่ใช้งานได้ทันที แต่กลับนั่งชื่นชมตัวเลขบนบัญชีที่ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ ขณะที่ทีมอื่นนอนกอดถ้วยแชมป์

ถึงกระนั้นก็ตามมีสาวก "เดอะกันเนอร์ส" ชูป้ายผ้าให้กำลังใจ เวนเกอร์ เกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เช่นเดียวกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ แมนฯยู ที่ออกมากล่าวถึงเพื่อนร่วมอาชีพว่า "ผมคิดว่าไม่ยุติธรรมนักที่ไปวิพากษ์วิจารณ์ เวนเกอร์ แบบนั้น ที่ผ่านมาเขาทำงานได้ดีมากกับ อาร์เซนอล และสร้างระบบการเล่นที่สวยงามให้นักเตะได้ทำตามปรัชญาของเขา รวมถึงกำไรไหลสู่สโมสรมากมาย หากลองมองย้อนกลับไปดูเงินที่กองคลัง หลายคนมักหลงลืมในสิ่งนี้ พอล้มเหลวขึ้นมาทุกคนต่างก็จ้องที่จะไปตัดสินเขา ถือเป็นโลกแห่งการเย้ยหยันชัดๆ"

เวนเกอร์ ถือเป็นกุนซือที่ฉลาดและมีสายตาแหลมคม ปัญหาที่แฟนบอลจับกลุ่มวิจารณ์ไม่ว่าจะเป็นกองหลังที่อ่อนยวบยาบและขาดผู้เล่นประสบการณ์สูงคอยพยุงทีมเขาย่อมรู้ดี แต่กลับนิ่งนอนใจขณะที่ แมนฯยู คว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 19 ของอังกฤษเมื่อปีที่แล้วควักเงิน 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,500 ล้านบาท) เสริมทัพซัมเมอร์นี้ วางรากฐานแข้งดาวรุ่งจนได้รับคำชมถึงขนาด ฟาบิโอ คาเปลโล นายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยนจะก็อปแผนไปใช้กับทีมชาติอังกฤษ เชลซี และ ลิเวอร์พูล ก็พร้อมใจกันเสริมทัพตั้งแต่ปีใหม่ที่ผ่านมาแล้ว ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี เรื่องเงินไม่ต้องพูดถึง ดูอย่าง บาร์เซโลนา ยอดทีมเบอร์ 1 โลกเวลานี้มีเด็กปั้นอย่าง ชาบี เฮร์นานเดซ และ อันเดรส อิเนียสตา คว้าแชมป์นับไม่ถ้วนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังต้องใช้เงินซื้อ ดาบิด บียา และ อเล็กซิส ซานเชซ

เวนเกอร์ เผยว่าจะซื้อนักเตะมาเสริมทัพอย่างน้อย 3 คน แต่เหลือเวลาอีกแค่ 3 วันเท่านั้นตลาดซื้อ-ขายนักเตะซัมเมอร์นี้จะปิดทำการแล้ว อีกทั้งชื่อนักเตะรายล่าสุดที่พัวพันก็คือ ปาร์ค ชู-ยัง กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ที่ว่าจะโยกจาก โมนาโก ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ (ประมาณ 500 ล้านบาท) หลังล้มการตรวจร่างกายกับ ลีลล์ กะทันหัน คือคนที่ใช่แล้วหรือ

"เรากำลังทำงานหนักเพื่อเซ็นสัญญานักเตะ ถ้าหากว่าเจอคนที่ใช่ก็จะดึงมาร่วมทัพ เงินมีอยู่แล้วเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ทีม เรามีทีมงาน 20 คนเพื่อจัดการเรื่องนี้ ทว่าตอนนี้ยังไม่เจอหนทางเพื่อคลี่คลายปัญหา ก็ยากที่จะหาคำแก้ตัวกับผลการแข่งขันเช่นนี้ แต่ที่สำคัญตัวเลขค่าเหนื่อยของเรายังตามหลายหลายทีม" เวนเกอร์ เผย

นายใหญ่มาดละเมียดกล่าวทิ้งท้ายพร้อมกับความหวังอีกว่า "เราใกล้จะคว้ากองหน้า แต่ยังคงต้องมองถึงการเสริมกองหลังหรือมิดฟิลด์ ผมทำการตัดสินใจที่ถูกต้องเพื่อทีมและจะทำแบบนั้นต่อไป ความพ่ายแพ้ต่อ แมนฯยู คือเป็นสถานการณ์ที่ต่างออกไปกับนักเตะที่มี แต่เพิ่งผ่านไป 3 เกม ผมคิดว่าเราต้องใช้เวลามากกว่านี้จึงบอกว่าทุกอย่างผิดพลาด"

ด้วยชื่อชั้นนักเตะที่เหลืออย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี แชร์วินโญ แจ็ค วิลเชียร์ อเล็กซ์ ซง และ โทมัส แฟร์มาเลน หากกลับมาแบบฟูลทีมก็พอจะประคองตัวไปได้ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อถึงปลายฤดูกาลตอนจบของโศกนาฎกรรมลูกหนังเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร หลังจากความสำเร็จหอมหวานช่วงปลายทศวรรษ 90 จนมาหยุดชะงักอยู่ที่ปี 2005 เป็นความดื้อรั้นของ เวนเกอร์ คนเดียวที่จะย้อนกลับมาทำลายตัวเองรวมถึง "ปืนโต" ที่เป็นคนสร้างมากับมือหากไม่ยอมยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์