แมนเชสเตอร์ ซิตี ทีมเศรษฐีแห่งเมืองผู้ดีเก็บชัยชนะสองนัดแรกของการออกสตาร์ทฤดูกาล 2011-12 เมื่อล่าสุดบุกเฉือน โบลตัน วันเดอเรอ์ส แบบสนุก 3-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายของคืนวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
โบลตัน 2-3 แมนเชสเตอร์ ซิตี
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ระหว่าง โบลตัน เปิดสนามรีบ็อค สเตเดียม รับมือ แมนฯ ซิตี ทั้งสองทีมต่างเก็บชัยชนะ 4-0 มาด้วยกันในเกมนัดแรกของฤดูกาล สำหรับผู้เล่นของสองทีมในเกมนี้ โบลตัน วาง แกรี เคฮิลล์ กองหลังทีมชาติอังกฤษคุมแนวรับเหมือนเดิม ส่วนคู่หน้าเป็น อีวาน คลาสนิช และ เควิน เดวีส์ ล่าตาข่ายร่วมกัน ทางฝั่ง แมนฯ ซิตี ส่ง เซร์คิโอ อกูเอโร ลงสนามเป็นตัวจริงยืนหน้าคู่กับ เอดิน เชโก ขณะเดียวกัน คาร์ลอส เตเบซ หัวหอกที่ต้องการย้ายออกจากทีมก็มีชื่อเป็นตัวสำรอง
เปิดฉากครึ่งแรกมา 3 นาที โบลตัน มีลุ้นก่อนจากลูกฟรีคิกระยะ 20 หลา คริส อีเกิลส์ ปั่นด้วยขวา โจ ฮาร์ท รับกระฉอก แต่ยังมีกองหลังมาช่วยเตะสกัดทิ้งออกไปได้ ขณะที่ แมนฯ ซิตี มาได้โอกาสทำประตูแบบชัดเจนครั้งของเกมในนาที 15 อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนผ่านเรียดเข้ากลาง เจมส์ มิลเนอร์ ตามมาชาร์จติดเซฟของ ยุสซี ยัสเคไลเนน
อีก 3 นาทีถัดมา เอดิน เชโก เก็บบอลได้ในเขตโทษ ก่อนเปิดเรียดเข้ากลาง บอลเลยมาทางเสาสอง เซร์คิโอ อกูเอโร ยืนอยู่คนเดียวโล่งๆ แต่กองหน้าอาร์เจนไตน์ตวัดยิงเหินข้ามคานแบบไม่น่าเชื่อ กระทั่งเกมมาถึงนาที 26 "เรือใบสีฟ้า" ก็ทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ พยายามกระชากบอลเข้าเขตโทษ ก่อนไหลย้อนมาให้ ดาบิด ซิลบา ตะบันไกลจากระยะ 20 หลา ยุสเคไลเนน รับไม่อยู่บอลปลิ้นเข้าสู่ก้นตาข่าย
เกมผ่านครึ่งชั่วโมง อกูเอโร ชาร์จบอลระยะเผาขนจากการผ่านของ ริชาร์ดส์ เข้าสู่ก้นตาข่าย แต่ไม่เป็นประตูของทีมเยือน เนื่องจาก ริชาร์ดส์ ไปทำฟาวล์ สเตลิยัน เปตรอฟ ของ โบลตัน ล้มลงก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นอีก 5 นาที หัวหอกอาร์เจนไตน์ ก็ได้โหม่งจากลูกเปิดของ เชโก อีก คราวนี้ ยุสเคไลเนน ทำได้แต่ยืนมอง แต่บอลก็หลุดเสาแรกออกไป
ในนาที 36 มิลเนอร์ กึ่งยิงกึ่งผ่านบอลเข้ามาในเขตโทษถูกกองหลังเจ้าถิ่นสกัดทิ้งออกไปแบบหวุดหวิด ลูกเตะมุมถัดมา มิลเนอร์ เปิดย้อนมานอกเขตโทษ แกเร็ธ แบร์รี แต่งหนึ่งจังหวะ ก่อนตะบันด้วยซ้าย บอลพุ่งผ่านมือ ยัสเคไลเน ตุงตาข่ายอย่างสวยงามให้ แมนฯ ซิตี ขยับหนี 2-0
โบลตัน ไม่ยอมแพ้ในนาที 39 ก็ตีไข่แตกไล่ขึ้นมา 1-2 สเตลิยัน เปตรอฟ หลุดขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนผ่านมาให้ อีวาน คลาสนิช ตวัดยิงเร็วเสาแรกตุงตาข่าย หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มอีก จบ 45 นาทีแรก แมนฯ ซิตี นำอยู่ 2-1
ครึ่งหลังผ่านมาแค่ 2 นาที ทีมเศรษฐี ขยับหนี 3-1 เชโก เบียดเอาชนะ แซท ไนท์ กองหลังของ โบลตัน จนหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนซัดเรียดผ่านมือ ยัสเคไลเนน ส่งบอลเสียบเสาไกล ทีมเยือนมีโอกาสตอบโต้เช่นกันในนาที 51 อีเกิลส์ ทำชิ่งกับ คลาสนิช จนหลุดเข้าเขตโทษ แต่จังหวะยิงวางเท้าไม่ดีหลุดเสาแรกไป
"เรือใบสีฟ้า" ยังครองเกมบุกอย่างต่อเนื่อง ในนาที 58 มิลเนอร์ วางบอลจากริมเขตโทษด้านซ้ายไปให้ เชโก โหม่งอีกครั้งผ่านหน้าประตูออกไป แต่อีก 4 นาทีถัดมา โบลตัน มาได้ลูกฟรีคิกจากนอกเขตโทษ เปตรอฟ หยอดบอลไปเข้าหัว เควิน เดวีส์ โหม่งเช็ดเสาเข้าประตูไป เจ้าบ้านไล่มา 2-3
คาร์ลอส เตเบซ ถูกเปลี่ยนตัวมาในนาที 67 แทนที่ อกูเอโร หลังจากนั้นอีก 2 นาที เตเบซ ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนผ่านเรียดมาให้ ซิลบา ชาร์จหน้าประตูไปติดบล็อกกองหลังเจ้าถิ่น ถัดมานาที 75 โคลารอฟ จิ้มด้วยหัวเกือกในเขตโทษหลุดเสาสองออกไป
อดัม จอห์นสัน ซึ่งลงมาแทน เชโก ในนาที 80 ใช้ความสามารถเฉพาะแตะหลบกองหลัง โบลตัน เข้าไปยิงมุมแคบในกรอบเขตโทษ บอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว หลังจากนั้น แมนฯ ซิตี แม้บวกประตูเพิ่มไม่ได้ แต่ก็รักษาสกอร์ที่นำอยู่กระทั่งจบเกมจึงเป็นฝ่ายเอาชนะไปพร้อมเก็บสามคะแนนมีเพิ่มเป็น 6 คะแนนขึ้นนำจ่าฝูงของตาราง
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
โบลตัน : ยุสซี ยัสเคไลเนน, แซท ไนท์, แกรี เคฮิลล์, พอล โรบินสัน, เกรตาร์ ราฟ์น สไตน์สสัน, ไนเจล รีโอ-โคเกอร์, ฟาบริซ มูอัมบา, มาร์ติน เปตรอฟ, คริส อีเกิลส์, อีวาน คลาสนิช, เควิน เดวีส์
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท, โจเลียน เลสคอตต์, แวงซองต์ กอมปานี, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, แกเร็ธ แบร์รี, เจมส์ มิลเนอร์, ยายา ตูเร, ดาบิด บียา, เอดิน เชโก, เซร์คิโอ อกูเอโร
