คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
ผมยังคงอยู่ที่ กรุงลอนเดิ้น ประเทศอังกฤษ เมืองเจ้าภาพ โอลิมพิค เกมส์ ครั้งที่ 30 ซึ่งตอนนี้แม้ยังเหลือเวลาอีกร่วม 12 เดือน แต่เขาก็พยายามจัดกิจกรรมกีฬาทุกๆสุดสัปดาห์เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนได้เตรียมตัวเตรียมใจรอพบกับความยิ่งใหญ่มโหฬารของมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 27 กรกฎาคม ปีหน้า อย่างเช่นวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีการแข่งขัน ไตรกีฬาในสวน ฮายด์ พาร์ค ( Hyde Park ) ครับ
กลับมาว่ากันเรื่อง แม็ทช์ คอมมิชเชินเน่อร์ ครับ หลังจากที่ได้นัดหมายกับทั้ง 2 ทีมเพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของนักเตะแล้ว เมื่อถึงเวลา เจ้าหน้าที่ ฟีฟ่า คนนี้ก็จะเดินทางไปที่โรงแรมที่พักของทีม ซึ่งจะมีเพียงนักเตะและหัวหน้าคณะนักกีฬาเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในห้อง แต่ถ้านายกสมาคมฟุตบอลของทีมนักเตะที่ถูกตรวจอยากเข้าไปสังเกตการณ์ในห้องด้วยก็ย่อมได้ ส่วนบุคคลอื่นที่มีสิทธิ์ก็คือ ล่ามประจำทีม นอกจากนั้น ทีมคู่แข่งก็อาจส่งตัวแทนเข้าไปร่วมชมการตรวจเอกสารนักกีฬาด้วย คนอื่นนอกเหนือจากนี้ห้ามเข้ามาแหลโดยเด็ดขาด
การตรวจเอกสารของนักเตะนั้น นักเตะที่มีชื่อลงเล่นจะต้องแสดงพาสพอร์ทของตนทีละคน ในกรณีที่มีบัตรประจำตัวนักกีฬาก็ต้องนำไปแสดงด้วย โดยพาสพอร์ทที่ว่านั้นก็ต้องยังไม่หมดอายุนะครับ ถ้าดันหมดอายุก็หมดสิทธิ์ลงเล่น เพราะเขาไม่ยอมรับเอกสารอื่นใดมาใช้แทนทั้งสิ้น อันนี้ถือเป็นข้อกำหนดที่เด็ดขาดชัดเจน
ในกรณีที่ทีมคู่แข่งต้องการประท้วงเรื่องความถูกต้องของเอกสารนักเตะนั้น เขาให้ทำหนังสือถึง ผู้ตัดสิน หรือ แม็ทช์ คอมมิชเชินเน่อร์ อย่างช้าไม่เกิน 2 ชั่วโมงหลังจากการแข่งขันจบลง นอกจากนั้น ยังต้องส่งจดหมายลงทะเบียนเพื่อยืนยันอีกฉบับหนึ่งไปยัง เลขาธิการ ฟีฟ่า ภายในไม่เกิน 2 วันหลังจากจบการแข่งขัน แต่อย่าลืมว่า ถ้าประท้วงมั่วๆ จะมาหาเรื่องกวนประสาทกันโดยไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆ สมาคมฟุตบอลของทีมนั้นก็ต้องเสี่ยงต่อการถูกลงโทษนะครับ
สำหรับการตรวจสนามแข่งขันนั้น นอกจาก แม็ทช์ คอมมิชเชินเน่อร์ แล้ว ผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน และผู้ตัดสินที่ 4 ต้องไปทำหน้าที่ตรวจความเรียบร้อยด้วย แต่ในบางกรณี ในกลุ่มผู้ตัดสินนั้นอาจมีเพียง ผู้ตัดสินที่ 4 ไปทำหน้าที่คนเดียวก็พอ
สิ่งที่จะต้องตรวจเกี่ยวกับสนามแข่งขันก็คือ สภาพของสนามได้มาตรฐานสำหรับการแข่งขันหรือไม่ ดูพวกส่วนประกอบต่างๆ เช่น เส้นแบ่งเขตต่างๆในสนามมีความชัดเจนหรือไม่ รูปลักษณ์ของเสาประตู ขนาดกว้างและสูงตามมาตรฐานหรือไม่ ตาข่ายก็ต้องดูไม่ให้ขาด ตรวจดู ซุ้มม้านั่งนักเตะสำรอง ธง ป้ายหมายเลขสำหรับเปลี่ยนตัวนักเตะ ป้ายโฆษณา ตลอดจน ตำแหน่งวางกล้องถ่ายทอดการแข่งขันซึ่งจะต้องมีรั้วล้อมรอบให้เรียบร้อย
นอกจากนั้น แม็ทช์ คอมมิชเชินเน่อร์ ยังต้องเข้าไปตรวจตราในห้องแต่งตัวนักกีฬา ห้องของกลุ่มผู้ตัดสิน และห้องตรวจสารกระตุ้น ซึ่งอันสุดท้ายนี้ต้องดูให้มีการระมัดระวังเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ แล้วก็ยังแถมห้องปฐมพยาบาลอีกห้องหนึ่งด้วย
เมื่อตรวจตราสิ่งต่างๆที่กล่าวมาแล้ว คราวนี้ก็มาดูที่ทางว่าจะสะดวกต่อการสัญจรไปมาหรือไม่ โดยดูทางเข้า-ออกของนักกีฬา ผู้ตัดสิน สื่อมวลชน บุคคลสำคัญ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ฝูงชนที่จะหลั่งไหลเข้ามาเชียร์ทีมรักของพวกตน ทั้งนี้ ต้องกว้างขวาง ผ่านเข้า-ออกได้สะดวกและปลอดภัย ตามหลักเกณฑ์ของ ฟีฟ่า ไม่เช่นนั้น หากมีเหตุอะไรเกิดขึ้น นักกีฬาหรือผู้ตัดสินจะต้องไม่ถูกทำร้าย และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรม แฟนบอลเหยียบกันตาย อันนี้เป็นการป้องกันความสูญเสียที่เคยเกิดขึ้นหลายครั้งหลายคราในอดีตที่ผ่านมา
ผมยังคงอยู่ที่ กรุงลอนเดิ้น ประเทศอังกฤษ เมืองเจ้าภาพ โอลิมพิค เกมส์ ครั้งที่ 30 ซึ่งตอนนี้แม้ยังเหลือเวลาอีกร่วม 12 เดือน แต่เขาก็พยายามจัดกิจกรรมกีฬาทุกๆสุดสัปดาห์เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนได้เตรียมตัวเตรียมใจรอพบกับความยิ่งใหญ่มโหฬารของมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 27 กรกฎาคม ปีหน้า อย่างเช่นวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีการแข่งขัน ไตรกีฬาในสวน ฮายด์ พาร์ค ( Hyde Park ) ครับ
กลับมาว่ากันเรื่อง แม็ทช์ คอมมิชเชินเน่อร์ ครับ หลังจากที่ได้นัดหมายกับทั้ง 2 ทีมเพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของนักเตะแล้ว เมื่อถึงเวลา เจ้าหน้าที่ ฟีฟ่า คนนี้ก็จะเดินทางไปที่โรงแรมที่พักของทีม ซึ่งจะมีเพียงนักเตะและหัวหน้าคณะนักกีฬาเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในห้อง แต่ถ้านายกสมาคมฟุตบอลของทีมนักเตะที่ถูกตรวจอยากเข้าไปสังเกตการณ์ในห้องด้วยก็ย่อมได้ ส่วนบุคคลอื่นที่มีสิทธิ์ก็คือ ล่ามประจำทีม นอกจากนั้น ทีมคู่แข่งก็อาจส่งตัวแทนเข้าไปร่วมชมการตรวจเอกสารนักกีฬาด้วย คนอื่นนอกเหนือจากนี้ห้ามเข้ามาแหลโดยเด็ดขาด
การตรวจเอกสารของนักเตะนั้น นักเตะที่มีชื่อลงเล่นจะต้องแสดงพาสพอร์ทของตนทีละคน ในกรณีที่มีบัตรประจำตัวนักกีฬาก็ต้องนำไปแสดงด้วย โดยพาสพอร์ทที่ว่านั้นก็ต้องยังไม่หมดอายุนะครับ ถ้าดันหมดอายุก็หมดสิทธิ์ลงเล่น เพราะเขาไม่ยอมรับเอกสารอื่นใดมาใช้แทนทั้งสิ้น อันนี้ถือเป็นข้อกำหนดที่เด็ดขาดชัดเจน
ในกรณีที่ทีมคู่แข่งต้องการประท้วงเรื่องความถูกต้องของเอกสารนักเตะนั้น เขาให้ทำหนังสือถึง ผู้ตัดสิน หรือ แม็ทช์ คอมมิชเชินเน่อร์ อย่างช้าไม่เกิน 2 ชั่วโมงหลังจากการแข่งขันจบลง นอกจากนั้น ยังต้องส่งจดหมายลงทะเบียนเพื่อยืนยันอีกฉบับหนึ่งไปยัง เลขาธิการ ฟีฟ่า ภายในไม่เกิน 2 วันหลังจากจบการแข่งขัน แต่อย่าลืมว่า ถ้าประท้วงมั่วๆ จะมาหาเรื่องกวนประสาทกันโดยไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆ สมาคมฟุตบอลของทีมนั้นก็ต้องเสี่ยงต่อการถูกลงโทษนะครับ
สำหรับการตรวจสนามแข่งขันนั้น นอกจาก แม็ทช์ คอมมิชเชินเน่อร์ แล้ว ผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน และผู้ตัดสินที่ 4 ต้องไปทำหน้าที่ตรวจความเรียบร้อยด้วย แต่ในบางกรณี ในกลุ่มผู้ตัดสินนั้นอาจมีเพียง ผู้ตัดสินที่ 4 ไปทำหน้าที่คนเดียวก็พอ
สิ่งที่จะต้องตรวจเกี่ยวกับสนามแข่งขันก็คือ สภาพของสนามได้มาตรฐานสำหรับการแข่งขันหรือไม่ ดูพวกส่วนประกอบต่างๆ เช่น เส้นแบ่งเขตต่างๆในสนามมีความชัดเจนหรือไม่ รูปลักษณ์ของเสาประตู ขนาดกว้างและสูงตามมาตรฐานหรือไม่ ตาข่ายก็ต้องดูไม่ให้ขาด ตรวจดู ซุ้มม้านั่งนักเตะสำรอง ธง ป้ายหมายเลขสำหรับเปลี่ยนตัวนักเตะ ป้ายโฆษณา ตลอดจน ตำแหน่งวางกล้องถ่ายทอดการแข่งขันซึ่งจะต้องมีรั้วล้อมรอบให้เรียบร้อย
นอกจากนั้น แม็ทช์ คอมมิชเชินเน่อร์ ยังต้องเข้าไปตรวจตราในห้องแต่งตัวนักกีฬา ห้องของกลุ่มผู้ตัดสิน และห้องตรวจสารกระตุ้น ซึ่งอันสุดท้ายนี้ต้องดูให้มีการระมัดระวังเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ แล้วก็ยังแถมห้องปฐมพยาบาลอีกห้องหนึ่งด้วย
เมื่อตรวจตราสิ่งต่างๆที่กล่าวมาแล้ว คราวนี้ก็มาดูที่ทางว่าจะสะดวกต่อการสัญจรไปมาหรือไม่ โดยดูทางเข้า-ออกของนักกีฬา ผู้ตัดสิน สื่อมวลชน บุคคลสำคัญ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ฝูงชนที่จะหลั่งไหลเข้ามาเชียร์ทีมรักของพวกตน ทั้งนี้ ต้องกว้างขวาง ผ่านเข้า-ออกได้สะดวกและปลอดภัย ตามหลักเกณฑ์ของ ฟีฟ่า ไม่เช่นนั้น หากมีเหตุอะไรเกิดขึ้น นักกีฬาหรือผู้ตัดสินจะต้องไม่ถูกทำร้าย และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรม แฟนบอลเหยียบกันตาย อันนี้เป็นการป้องกันความสูญเสียที่เคยเกิดขึ้นหลายครั้งหลายคราในอดีตที่ผ่านมา
