ควันหลง "ติ๊งโน๊ต-แสตมป์" / เด็กปั๊ม

คอลัมน์ "ON TRACK" โดย เด็กปั๊ม

สัปดาห์ที่แล้วข่าวกรณีพิพาทบนแทร็กระหว่าง "ติ๊งโน๊ต" ฐิติพงษ์ วโรกร หวานใจของ "พี่บุ๋ม" ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ดาราสาวเจ้าของทีมปนัดดา เรซซิง กับ "แสตมป์" อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักบิดดาวรุ่งสังกัดฮอนด้า เอลฟ์ สมาร์ท สปอร์ตทีม ถูกจุดประเด็นขึ้นอีกครั้ง หลังจาก "อาเล็ก" ธงชัย วงษ์สวรรค์ สมาคมกีฬาแข่งจักรยานยนต์แห่งประเทศไทยถูกเชิญไปออกรายการ เรื่องเด่นเย็นนี้

ก่อนอื่นผมเองต้องขอออกตัวก่อนครับว่ามีโอกาสได้ทำงานรวมถึงสัมภาษณ์ทั้งฝั่งของ พี่บุ๋ม และอาเล็ก มาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งก็ต้องบอกว่าทั้งคู่มีความตั้งในที่จะร่วมกันพัฒนาวงการกีฬาความเร็ว 2 ล้อทางเรียบอยู่เต้มเปี่ยม โดยฝ่ายแรกน่าจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่โดดเข้ามาสู่กีฬาชนิดนี้ด้วยใจรักความเร็ว ส่วนฝ่ายหลังก็ทำงานพัฒนานักบิดไทยมาตลอดทุกยุคทุกสมัย

ฉะนั้นประเด็นขัดแย้งที่เกิดขึ้น "เด็กปั๊ม" อยากจะให้ทุกอย่างจบลงบนแทร็ก สนามไทยแลนด์เซอร์กิต นครชัยศรี เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในศึกจักรยานยนต์ อาร์ทูเอ็ม ซูเปอร์ไบค์ รุ่น1000 โปร สนามที่ 4 ของฤดูกาล 2011 และจากนี้ไปก็เป็นหน้าที่ของทั้ง "ติ๊งโน๊ต" และ "แสตมป์" จะต้องไปพิสูจน์ความเร็วกันบนแทร็กจนถึงสนามสุดท้ายของฤดูกาล

ส่วนกรณีของ "แสตมป์" การยกขาซ้ายเชิงถีบไปยังคู่แข่งนับเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงครับ ซึ่งแน่นอนมันเกิดขึ้นจากอารมณ์ที่ทั้งคู่บดกันมาเกือบ 10 รอบ และไม่ว่าแสตมป์เองจะมองว่าติ๊งโน๊ตชอบเสียบเข้าไลน์คนอื่นแบบไม่เกรงใจ แต่อย่างไรเสียก็ไม่มีสิทธิ์ไปตอบโต้ ฉะนั้นผมเองมองว่ากรณีนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่นักฟุตบอลโดนลูกตุกติกของคู่แข่งเล่นงานจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ ก่อนจะเอาคืนด้วยการเล่นผิดกติกา

ขณะเดียวกันภาพของทีมงานปนัดดา เรซซิง ที่เดินไปในสภาพพร้อมจะมีเรื่องก็เป็นประเด็นให้สมาคมฯตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ปลอดภัยในสนาม ฉะนั้นคงสรุปได้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นแยกได้เป็น 2 ประเด็น คือประเด็นลูกถีบของแสตมป์ กับประเด็นความไม่ปลอดภัยหลังจบการแข่งขันตามที่สมาคมฯยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

อย่างไรก็เวลานี้แม้นักบิดทั้ง 2 คนจะยังมองหน้ากันไม่ติด แต่ทั้ง 2 ฝ่ายก็ยืนยันที่จะตั้งตาดวลความเร็วกันบนแทร็กต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ผมเองมีโอกาสได้คุยกับเอดูอาร์โด เปราเลส ทีมบอสของทีมสต็อป แอนด์ โก (SAG) ที่เดินทางมาเยือนเมืองไทยเขาบอกว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้บนแทร็ก และอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายตั้งหน้าตั้งตาแข่งกันในสนามมากกว่า

อย่างน้อยชั่วโมงนี้ทั้งคู่ก็จัดได้ว่าเป็น 2 นักบิดที่มีแววก้าวสู่การแข่งขันระดับนานาชาติได้โดย"ติ๊งโน๊ต" มีดีกรีได้ไปเทสต์โมโตทูที่สเปนมาแล้ว ส่วน "แสตมป์" ก็แว่วๆมาว่ามีทีมแข่งโมโตทรีอิตาลีตามจีบอยู่ ฉะนั้นคงไม่ใช่เรื่องดีที่จะมาเปิดฉากทะเลาะกัน เอาเป็นว่าต้องจับตาดูกันต่อไปครับ ว่าท้ายที่สุดแล้วใครจะเป็นฝ่ายเข้าวินเมื่อจบฤดูกาล ซึ่งนักบิดคนนั้นแหละคือผู้ชนะตัวจริง !