โมฮาเหม็ด บิน ฮัมมัม ประธานสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ถูกลงโทษจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ห้ามยุ่งเกี่ยวกับกิจการในวงการลูกหนังตลอดชีวิต หลังผลการสอบสวนพบว่ากระทำความผิดจริงจากข้อหาซื้อเสียงเลือกตั้งประธานฟีฟ่า
ฟีฟ่า ตั้งคณะกรรมการวินัยมาสอบสวน บิน ฮัมมัม ชาวกาตาร์ และ แจ็ค วอร์เนอร์ รองประธานฟีฟ่าชาวตรินิแดด หลังทั้งคู่ถูกกล่าวหาว่าจ่ายเงินติดสินบนเจ้าหน้าที่สหภาพฟุตบอลแคริบเบียน (ซีเอฟยู) เพื่อขอเสียงโหวตเลือกตั้งประธานฟีฟ่า
หลังถูกสอบสวน บิน ฮัมมัม วัย 62 ปีตัดสินใจถอนตัวจากการชิงชัยเก้าอี้ประมุของค์กรลูกหนังโลกกับ เซปป์ แบล็ตเตอร์ ผู้ซึ่งภายหลังได้รับเลือกจากชาติสมาชิกให้ดำรงตำแหน่งอีกครั้งเป็นสมัยที่ 4 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 23 ก.ค.เปตรุส ดามาเซบ ประธานคณะกรรมการสอบสวนของฟีฟ่าได้เปิดเผยผลการไต่สวนพบว่า บิน ฮัมมัม มีความผิดจริงพร้อมถูกลงโทษ "ห้ามยุ่งเกี่ยวกับทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลทั้งระดับชาติและนานาชาติตลอดชีวิต"
บิน ฮัมมัม ไม่ได้เดินทางมาฟังการพิจารณาที่สำนักงานใหญ่ของ ฟีฟ่า ที่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่มีทนายมารับฟังแทน ซึ่งตัวแทนของอดีตปธ.เอเอฟซีก็ยืนยันความบริสุทธิ์ของลูกความตนเองและเตรียมจะยื่นอุทธรณ์โทษแบนต่อไป
ส่วนกรณีของ วอร์เนอร์ รอดพ้นการถูกสอบสวนจากคณะกรรมการทางวินัย เนื่องจากได้ลาออกจากตำแหน่งใน ฟีฟ่า ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน