ความฝันของหนุ่มๆ ทั้งโลกที่อยากเห็น ลาริสซา ริเกลเม นางแบบสาวทรงโตเปลือยกายในสนามฟุตบอลใกล้เป็นจริงเข้าทุกขณะ หลังจากที่ ปารากวัย ดวลจุดโทษเอาชนะ เวเนซุเอลา 5-3 ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกโคปา อเมริกา 2011 เจอกับ อุรุกวัย สุดสัปดาห์นี้
เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฏาคม 2554 การแข่งขันฟุตบอลโคปา อเมริกา 2011 ที่อาร์เจนตินา เดินทางมาถึงการดวลแข้งกันรอบรองชนะเลิศ คู่ที่สองระหว่าง ปารากวัย กับ เวเนซุเอลา โดยฝ่ายแรกขาด อันโตลิน อัลคาราซ เซ็นเตอร์แบ็กตัวเก่งที่โดนใบแดงในเกมกับ บราซิล รอบ 8 ทีมสุดท้าย จึงต้องส่ง ดาริโอ เวรอน ค้ำแนวรับแทน ทว่าแนวรุกมีข่าวดีเมื่อ โรเก ซานตา ครูซ ฟิตกลับมารอโอกาสทะลวงตาข่ายจากข้างสนาม ส่วนฝ่ายหลังขาด โธมัส รินคอน มิดฟิลด์ตัวหลักที่ติดแบน แต่ยังมี ฮวน อรานโก เป็นเพลย์เมคเกอร์ปั้นเกมให้ รอนดอน หอกตัวเก่งลุ้นสกอร์
โดยเกมการแข่งขันค่อนข้างสูสี แม้เป็นทาง ปารากวัย สามารถครองบอลในเปอร์เซ็นต์ที่เหนือกว่า แต่ดูเหมือนทาง เวเนซุเอลา จะมีโอกาสสร้างความกดดันให้ ฮุสโต บียาร์ นายทวารกัปตันทีมคู่แข่งมากกว่า อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาทีไม่มีฝ่ายใดทำประตูกันได้ ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที ซึ่งท้ายครึ่งแรกของการต่อเวลา นาทีที่ 103 โจนาธาน ซานตานา กองกลางปารากวัยพลาดโดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนาม แต่ช่วงเวลาที่เหลือ เวเนซุเอลา ไม่สามารถทะลวงตาข่ายได้ ครบ 120 จึงเสมอกันไป 0-0
ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ปรากฎว่า ปารากวัย ซ้อมมาดีซัดเข้าหมดทั้ง 5 คน ไม่ว่าจะเป็น เนสเตอร์ ออร์ติโกซา, ลูคัส บาร์ริออส, คริสเตียน ริเวรอส, ออสวัลโด มาร์ติเนซ และ ดาริโอ เวรอน ขณะที่ จานคาร์ลอส มัลโดนาโด, โฮเซ มานูเอล เรย์ กับ มิกู แต่ แฟรงคลิน ลูเซนา ซัดไปติดเซฟ บียาร์ จังเป็น ปารากวัย ดวลเป้าชนะไป 5-3 ได้ลุ้นแชมป์สมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ ทว่าต้องฝ่าด่าน "จอมโหด" อุรุกวัย ให้ได้เสียก่อนในรอบชิงวันอาทิตย์ที่ 24 ก.ค.นี้
เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฏาคม 2554 การแข่งขันฟุตบอลโคปา อเมริกา 2011 ที่อาร์เจนตินา เดินทางมาถึงการดวลแข้งกันรอบรองชนะเลิศ คู่ที่สองระหว่าง ปารากวัย กับ เวเนซุเอลา โดยฝ่ายแรกขาด อันโตลิน อัลคาราซ เซ็นเตอร์แบ็กตัวเก่งที่โดนใบแดงในเกมกับ บราซิล รอบ 8 ทีมสุดท้าย จึงต้องส่ง ดาริโอ เวรอน ค้ำแนวรับแทน ทว่าแนวรุกมีข่าวดีเมื่อ โรเก ซานตา ครูซ ฟิตกลับมารอโอกาสทะลวงตาข่ายจากข้างสนาม ส่วนฝ่ายหลังขาด โธมัส รินคอน มิดฟิลด์ตัวหลักที่ติดแบน แต่ยังมี ฮวน อรานโก เป็นเพลย์เมคเกอร์ปั้นเกมให้ รอนดอน หอกตัวเก่งลุ้นสกอร์
โดยเกมการแข่งขันค่อนข้างสูสี แม้เป็นทาง ปารากวัย สามารถครองบอลในเปอร์เซ็นต์ที่เหนือกว่า แต่ดูเหมือนทาง เวเนซุเอลา จะมีโอกาสสร้างความกดดันให้ ฮุสโต บียาร์ นายทวารกัปตันทีมคู่แข่งมากกว่า อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาทีไม่มีฝ่ายใดทำประตูกันได้ ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที ซึ่งท้ายครึ่งแรกของการต่อเวลา นาทีที่ 103 โจนาธาน ซานตานา กองกลางปารากวัยพลาดโดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนาม แต่ช่วงเวลาที่เหลือ เวเนซุเอลา ไม่สามารถทะลวงตาข่ายได้ ครบ 120 จึงเสมอกันไป 0-0
ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ปรากฎว่า ปารากวัย ซ้อมมาดีซัดเข้าหมดทั้ง 5 คน ไม่ว่าจะเป็น เนสเตอร์ ออร์ติโกซา, ลูคัส บาร์ริออส, คริสเตียน ริเวรอส, ออสวัลโด มาร์ติเนซ และ ดาริโอ เวรอน ขณะที่ จานคาร์ลอส มัลโดนาโด, โฮเซ มานูเอล เรย์ กับ มิกู แต่ แฟรงคลิน ลูเซนา ซัดไปติดเซฟ บียาร์ จังเป็น ปารากวัย ดวลเป้าชนะไป 5-3 ได้ลุ้นแชมป์สมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ ทว่าต้องฝ่าด่าน "จอมโหด" อุรุกวัย ให้ได้เสียก่อนในรอบชิงวันอาทิตย์ที่ 24 ก.ค.นี้