"เหยา" ยิ้มสู้ประกาศเลิกยัดห่วงแล้ว

เหยา หมิง เซ็นเตอร์ซูเปอร์สตาร์ชาวจีน แถลงข่าวการประกาศอำลาวงการบาสเกตบอลอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ นครเซียงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน หลังไม่สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่อสู้กับอาการบาดเจ็บที่เท้าได้อีกต่อไป



ประสบปัญหาบาดเจ็บทั้งที่หัวแม่โป้งเท้าซ้าย หัวเข่า ตลอดจนเท้าแตกเป็นเหตุให้ เหยา หมิง ต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้ง ไม่สามารถลงสนามให้ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ต้นสังกัดตลอดทั้งฤดูกาล 2009/10 รวมถึงซีซันก่อนก็ปักหลักในสนามได้แค่ 5 เกม จนมีกระแสข่าวลือว่า "ลิทเทิล ไจแอนท์" ยอมพ่ายให้แก่สังขาร จนที่สุดแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผู้เล่นร่าง 7 ฟุต 6 นิ้ว (2.29 เมตร) ยิ้มสู้ที่จะออกมาประกาศอยากเป็นทางการถึงการอำลาวงการยัดห่วง

โดย เหยา เผยว่า "ผมรอคอยและหวังว่าจะสามารถกลับมาเล่นได้ มันเป็นช่วงเวลาที่ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างยิ่ง หลายสิ่งผ่านเข้ามาในใจผม แต่ถึงวันนี้ผมอยากประกาศการตัดสินใจของตัวเองถึงการอำลาในฐานะนักบาสเกตบอลอย่างเป็นทางการ"

จากนั้น "อาเหยา" แถลงขอบคุณแฟรนไชส์ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ที่ดราฟท์เข้าทีมเป็นคนแรกของปี 2002 รวมถึง ครอบครัว, เพื่อน, โค้ชในจีนและที่สหรัฐฯ ที่สำคัญ ชาคิล โอนีล เซ็นเตอร์คู่ปรับที่ทำให้ตนเป็นนักบาสฯ ฝีมือดีขึ้น "พวกคุณจะอยู่ในใจผมอยู่เสมอ ขอบคุณจริงๆ โดยตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เด็กหนุ่มร่างโย่งตัวผอมๆ เดินทางมาที่ฮุสตัน จากนั้นทีมได้เปลี่ยนแปลงให้ผมเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่แค่ในฐานะผู้เล่น ผมจึงอยากขอบคุณอีกครั้งสำหรับ 9 ปีอันสุดแสนจะวิเศษ"

ด้าน เดวิด สเติร์น ประธานลีก NBA มีแถลงการณ์ถึงผู้เล่นวัย 30 ปี เช่นกัน "เหยา หมิง เป็นผู้เล่นที่เข้ามาปฏิรูปและส่งถ่ายเกมการแข่งขันของเราไปสู่ชาวโลก การเล่นที่โดดเด่น ความประพฤติซึ่งเป็นที่รักใคร่ของทุกคน ทำให้เขามีแฟนๆ มากมายในต่างแดน นำมาซึ่งการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างแฟนบาสเกตบอลในสหรัฐอเมริกากับจีน"

สำหรับ เหยา ลงเล่นใน NBA 8 ฤดูกาล ทำเฉลี่ย 19.0 แต้ม 9.2 รีบาวด์ แฟนๆ โหวตให้ติดทีมออล-สตาร์ 8 สมัย แต่พลาดการลงสนามให้ ร็อคเก็ตส์ ถึง 250 เกมช่วง 6 ปีหลังมานี้ เนื่องจากปัญหาบาดเจ็บ จากนี้ไป "อาเหยา" คงมีเวลาให้ เย่ หลี ภรรยาที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2007 รวมถึง หนูน้อยเอมี บุตรสาววัย 1 ขวบมากขึ้น จากการเตรียมกลับมานั่งแท่นผู้จัดการทั่วไปให้ เซียงไฮ้ ชาร์คส ทีมในลีกบาสเกตบอลอาชีพของจีน (CBA) พร้อมทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมภายใต้มูลนิธิของตัวเองต่อไป