เฟรด อดีตศูนย์หน้าโอลิมปิก ลียง ลงมาเป็นตัวสำรองซัดประตูนาทีสุดท้ายของเกมช่วยให้ “แชมป์เก่า” บราซิล รอดตายแบบหวุดหวิดไล่ตามตีเสมอ ปารากวัย 2-2 ในเกมรอบแรก นัดสองของกลุ่มบี ศึกฟุตบอลโคปา อเมริกา 2011 ที่ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
หลังจากเสมอกันมาในนัดแรกทั้งสองทีม บราซิล มีการปรับเปลี่ยนทีมเล็กน้อยในนัดนี้ โดย โรบินโญ ถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง เจดสัน ลงมาประสานงานเกมรุกร่วมกับ เนย์มา และ อเลสซานเดร ปาโต แทน ขณะที่ ปารากวัย ยังวาง ลูคัส บาริออส และ โรเก ซานตา ครูซ เป็นหัวหอกคู่กัน
เปิดฉากครึ่งแรก 2 นาที ปารากวัย ได้ทักทายก่อน หลังจาก บาร์ริออส จ่ายบอลให้ ซานตา ครูซ หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ กองหน้าแมนเชสเตอร์ ซิตี ซัดด้วยขวาเต็มข้อแต่บอลไม่ตรงกรอบ หลังจากนั้น บราซิล ค่อยๆ ตั้งเกมของตัวเองขึ้นมาจนมีลุ้นในนาที 19 ปาโต หลุดเข้าไปดวลกับ จุสโต บียาร์ แต่ยิงไม่ผ่านมือนายด่านปารากวัย
ทั้งสองทีมบดกันอยู่บริเวณกลางสนามเสียส่วนใหญ่ จนไม่มีจังหวะหวาดเสียวมากนัก กระทั่งเกมเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย รามิเรส ตัดบอลได้จากผู้เล่นปารากวัยตรงกลางสนาม ก่อนทำเกมรุกขึ้นมาจนสุดท้ายบอลมาเข้าทาง เจดสัน สับไกยิงเต็มข้อ บอลพุ่งแรงผ่านมือ บียาร์ เสียเสาเข้าไปให้แชมป์เก่านำ 1-0 ก่อนจบครึ่งแรก
ปารากวัย ทำเกมได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลัง จนผ่านมาถึงนาที 55 ก็สามารถตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จจากจังหวะโต้กลับเร็ว มาร์เซโล เอสติการ์ริเบีย ลากบอลจากแดนตัวเองขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนผ่านมาให้ ซานตา ครูซ หน้าประตูจับหนึ่งจังหวะแล้วซัดผ่านตัว ชูลิโอ เซซาร์ ตุงตาข่าย
หลังจากนั้นนาที 66 กลายเป็นปารากวัย พลิกขึ้นนำ 2-1 แทน หลังจาก ดานี อัลเวส ฟูลแบ็กบราซิล พลาดเสียบอลในเขตโทษตัวเอง คริสเตียน ริเวรอส เบียดเอาบอลมาได้ ก่อนจ่ายมาให้ วัลเดซ กองหน้าตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามไม่นานยิงจังหวะแรกติดตัว เซซาร์ แต่บอลมาถูกตัว วัลเดซ อีกครั้งกระดอนกลับเข้าประตูไปจนได้
บราซิล พยายามทำเกมบุกเพื่อตามตีเสมอในช่วงเวลาที่เหลือ แต่จังหวะสุดท้ายขาดความเด็ดขาด จนทำว่าจะต้องตกเป็นฝ่ายปราชัย แต่แล้วนาทีสุดท้ายของเกม เฟรด ซึ่งลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ เนย์มาร์ ได้บอลมาจาก เอลาโน ก่อนพลิกตัวยิงบริเวณกรอบเขตโทษซุกก้นตาข่าย บียาร์ ได้แต่ยืนมองทำให้ บราซิล ตามตีเสมอ 2-2 แบ่งแต้มได้สำเร็จเมื่อจบเกม 90 นาที พร้อมมี 2 แต้มเท่ากันจากการเสมอทั้งสองนัด
ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ เวเนซุเอลา เฉือนชนะ เอกวาดอร์ จากประตูชัยนาที 61 ของ เซซาร์ กอนซาเลซ ส่งผลให้ เวเนซุเอลา มี 4 คะแนนนำจ่าฝูงของตาราง ก่อนเตะกับ ปารากวัย ในเกมนัดสุดท้ายของรอบแรกวันที่ 13 กรกฎาคม ส่วน เอกวาดอร์ เจองานหินต้องดวลกับ บราซิล ในนัดสุดท้ายวันเดียวกัน