คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
ผ่านพ้นกันไปสำหรับการ "ดราฟท์" ตัวผู้เล่นประจำปี 2011 ของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) โดนใจกันมากน้อยแค่ไหนกับการใช้สิทธิของทีมรักของท่าน แลกเปลี่ยนทรรศนะกันได้ตามสะดวก ทว่าคอยัดห่วงเห็นทีต้องลุ้นกันเหงื่อตกหากหวังให้มีฤดูกาล 2011/12 เพราะดูท่าไม่แคล้ว เดวิด สเติร์น ประธานลีกคนปัจจุบันต้องประกาศ "ล็อกเอาท์" ตามรอยศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เนื่องจากสัญญา "ข้อตกลงสิทธิประโยชน์ร่วมกัน" มีคิวหมดลงพอดีในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ตามวัน-เวลาท้องถิ่น และยังไม่มีท่าทีที่บรรดาเจ้าของทีมกับสหภาพผู้เล่นจะเคลียร์กันได้ลงตัว
สำหรับการดราฟท์อย่างที่ทราบกันไปว่า คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ใช้สิทธิ "นัมเบอร์วัน ดราฟท์" เลือกเอา คายรี เออร์วิง การ์ดจ่ายจากมหาวิทยาลัยดุ๊ค เข้ามาเป็นความหวัง ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมายของ "ม็อกดราฟท์" หรือแบบจำลองการดราฟท์ต่างๆ ที่ออกมา อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์วิจารณ์บางท่านมองว่า "แคฟส์แมน" น่าจะเลือก เดอร์ริค วิลเลียมส์ ฟอร์เวิร์ดแห่งอนาคต ม.อริโซนา และไปใช้สิทธิอันดับ 4 ดึง แบรนดอน ไนท์ พอยน์ทการ์ดฝีมือดีของ ม.เคนทัคกี แทนที่จะสอย ทริสทัน ธอมป์สัน ปีกแคนาเดียนแห่ง ม.เท็กซัส ตรงนี้ผู้เขียนคิดว่า แดน กิลเบิร์ต เจ้าของทีมคงรู้ดีถึงความต้องการของแฟรนไชส์มากที่สุด อีกทั้งถ้าสภาพร่างกายฟิตปั๋ง เออร์วิง ฝีมือเข้าขั้นเจนจัด ลีลาถอดแบบจาก อัลเลน ไอเวอร์สัน มีโอกาสแฟนๆ ลองโหลดคลิปมาดูกันไปพลางๆ
ส่วนในรายของ วิลเลียมส์ ถูกเลือกเข้าลีกในอันดับ 2 มีโอกาสเบียด ไมเคิล บีสลีย์ ลงยืนในเป็นฟรอนท์คอร์ตเคียงข้าง เควิน เลิฟ งานนี้ถือว่าสาวก "ที-วูล์ฟส" ได้เฮสองเด้ง เพราะก่อนหน้านี้ ริคกี รูบิโอ การ์ดสตาร์ทีมชาติสเปนเพิ่งตัดสินใจเดินเข้าถิ่นทาร์เก็ต เซ็นเตอร์ หลังอิดออดอยู่ 2 ปี ยิ่งได้ แบรด มิลเลอร์ เซ็นเตอร์ประสบการณ์มาค้ำวงใน จากการเทรดสิทธิดราฟท์กับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ หาก เดวิด คาห์น ผู้จัดการทั่วไปลุยตลาดฟรีเอเยนต์หาชู้ตติ้งการ์ดประเภทเชื่อมือได้มาสักคน กอปรกับหว่านล้อม ไมค์ ชูเชฟสกี เฮดโค้ชทีมชาติสหรัฐฯ ให้ผละงานคุม ม.ดุ๊ค มาคุมบังเหียนแทน เคิร์ต แรมบิส ตามที่มีกระแสข่าวออกมา มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส น่าจะชนะถึงหลัก 30 เกมได้ไม่ยาก (สองซีซันที่ผ่านมาชนะรวมกันแค่ 32 เกม) แฟรนไชส์มีสิทธิกลับมาลืมตาอ้าปากลุ้นโควตาเพลย์ออฟฝั่งตะวันตกเหมือนยุคสมัยที่ยังมี เควิน การ์เนตต์ เป็นตัวชูโรง
ข้ามไปที่ ยูทาห์ แจซซ์ ที่ดราฟท์ตัวได้น่าสนใจกันบ้าง โดยอดีตทีมดังแห่งทศวรรษที่ 90 ใช้สิทธิอันดับ 3 เลือก อีเนส คานเตอร์ ซึ่งตามทรรศนะของ เซอร์ ชาร์ลส บาร์คลีย์ ตำนานแห่ง ฟีนิกซ์ ซันส์ เผยไว้กับสื่อทำนองว่าถ้าเป็นตนจะใช้สิทธิดราฟท์อันดับ 1 เลือกเซ็นเตอร์ชาวเติร์ก เนื่องจาก คานเตอร์ ถือว่าครบเครื่องแกร่งในแม่นนอกตามสไตล์บาสฯ ยุโรป คงเข้ามาเสริมงาน เมห์เมต โอคัวร์ เซ็นเตอร์รุ่นพี่ในนามทีมชาติได้มากทีเดียว สำหรับ แจซซ์ หลังหมดยุค "บิ๊กทรี" คาร์ล มาโลน, จอห์น สต็อคตัน, เจฟฟ์ ฮอร์นาเซ็ค แฟนๆ ห่อเหี่ยวอยู่พักใหญ่จนมามี เดอรอน วิลเลียมส์ ขึ้นมาเป็นความหวัง แต่ฤดูกาลที่ผ่านมาทีมตัดสินใจครั้งสำคัญเทรด วิลเลียมส์ ให้แก่ นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ การได้มาซึ่ง เดวิน แฮร์ริส กับ เดอร์ริค เฟเวอร์ส อาจกู้วิกฤติไม่ได้ในทันทีทันควัน แต่ดูเหมือนแฟรนไชส์แห่งนี้กำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาอีกครั้ง น่าเสียดายหากยังมี เจอร์รี สโลน คุมทัพ แจซซ์ ยุคใหม่คงน่าดูชมกว่านี้
ปิดท้ายเรามาสรุปการดราฟท์กันคร่าวๆ ปีนี้มีผู้เล่นต่างชาติถูกเลือกให้มาขุดทองใน NBA แค่รอบแรกก็ปาเข้าไป 8 คน (รวมสองรอบ 15 ราย) ต้องมาดูกันว่าในระยะยาวแฟรนไชส์ใดจะตาถึงเหมือน ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ที่ไว้ใจในตัว เดิร์ก โนวิตซกี ฟอร์เวิร์ดซูเปอร์สตาร์ชาวเยอรมันที่พาทีมถึงแชมป์เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ ส่วนพวกดาวรุ่งมะกันไม่ว่าจะเป็น เออร์วิง, วิลเลียมส์, ไนท์, จิมเมอร์ เฟรเดตต์ หรือพี่น้อง "มาร์คีฟฟ์-มาร์คัส" ต้องพิสูจน์ฝีมือให้ได้เพื่อลบข้อครหาที่หลายคนปรามาสว่านี่เป็นปีที่มีตัวเก่งนับหัวได้ เพราะดาวเด่นจากมหาวิทยาลัยอีกหลายคนตัดสินใจเรียนต่อไม่เข้าลีก เหตุจากส่องกล้องดูแล้วมีแนวโน้มล็อกเอาท์ค่อนข้างสูงนั่นเอง
ผ่านพ้นกันไปสำหรับการ "ดราฟท์" ตัวผู้เล่นประจำปี 2011 ของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) โดนใจกันมากน้อยแค่ไหนกับการใช้สิทธิของทีมรักของท่าน แลกเปลี่ยนทรรศนะกันได้ตามสะดวก ทว่าคอยัดห่วงเห็นทีต้องลุ้นกันเหงื่อตกหากหวังให้มีฤดูกาล 2011/12 เพราะดูท่าไม่แคล้ว เดวิด สเติร์น ประธานลีกคนปัจจุบันต้องประกาศ "ล็อกเอาท์" ตามรอยศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เนื่องจากสัญญา "ข้อตกลงสิทธิประโยชน์ร่วมกัน" มีคิวหมดลงพอดีในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ตามวัน-เวลาท้องถิ่น และยังไม่มีท่าทีที่บรรดาเจ้าของทีมกับสหภาพผู้เล่นจะเคลียร์กันได้ลงตัว
สำหรับการดราฟท์อย่างที่ทราบกันไปว่า คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ใช้สิทธิ "นัมเบอร์วัน ดราฟท์" เลือกเอา คายรี เออร์วิง การ์ดจ่ายจากมหาวิทยาลัยดุ๊ค เข้ามาเป็นความหวัง ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมายของ "ม็อกดราฟท์" หรือแบบจำลองการดราฟท์ต่างๆ ที่ออกมา อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์วิจารณ์บางท่านมองว่า "แคฟส์แมน" น่าจะเลือก เดอร์ริค วิลเลียมส์ ฟอร์เวิร์ดแห่งอนาคต ม.อริโซนา และไปใช้สิทธิอันดับ 4 ดึง แบรนดอน ไนท์ พอยน์ทการ์ดฝีมือดีของ ม.เคนทัคกี แทนที่จะสอย ทริสทัน ธอมป์สัน ปีกแคนาเดียนแห่ง ม.เท็กซัส ตรงนี้ผู้เขียนคิดว่า แดน กิลเบิร์ต เจ้าของทีมคงรู้ดีถึงความต้องการของแฟรนไชส์มากที่สุด อีกทั้งถ้าสภาพร่างกายฟิตปั๋ง เออร์วิง ฝีมือเข้าขั้นเจนจัด ลีลาถอดแบบจาก อัลเลน ไอเวอร์สัน มีโอกาสแฟนๆ ลองโหลดคลิปมาดูกันไปพลางๆ
ส่วนในรายของ วิลเลียมส์ ถูกเลือกเข้าลีกในอันดับ 2 มีโอกาสเบียด ไมเคิล บีสลีย์ ลงยืนในเป็นฟรอนท์คอร์ตเคียงข้าง เควิน เลิฟ งานนี้ถือว่าสาวก "ที-วูล์ฟส" ได้เฮสองเด้ง เพราะก่อนหน้านี้ ริคกี รูบิโอ การ์ดสตาร์ทีมชาติสเปนเพิ่งตัดสินใจเดินเข้าถิ่นทาร์เก็ต เซ็นเตอร์ หลังอิดออดอยู่ 2 ปี ยิ่งได้ แบรด มิลเลอร์ เซ็นเตอร์ประสบการณ์มาค้ำวงใน จากการเทรดสิทธิดราฟท์กับ ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ หาก เดวิด คาห์น ผู้จัดการทั่วไปลุยตลาดฟรีเอเยนต์หาชู้ตติ้งการ์ดประเภทเชื่อมือได้มาสักคน กอปรกับหว่านล้อม ไมค์ ชูเชฟสกี เฮดโค้ชทีมชาติสหรัฐฯ ให้ผละงานคุม ม.ดุ๊ค มาคุมบังเหียนแทน เคิร์ต แรมบิส ตามที่มีกระแสข่าวออกมา มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส น่าจะชนะถึงหลัก 30 เกมได้ไม่ยาก (สองซีซันที่ผ่านมาชนะรวมกันแค่ 32 เกม) แฟรนไชส์มีสิทธิกลับมาลืมตาอ้าปากลุ้นโควตาเพลย์ออฟฝั่งตะวันตกเหมือนยุคสมัยที่ยังมี เควิน การ์เนตต์ เป็นตัวชูโรง
ข้ามไปที่ ยูทาห์ แจซซ์ ที่ดราฟท์ตัวได้น่าสนใจกันบ้าง โดยอดีตทีมดังแห่งทศวรรษที่ 90 ใช้สิทธิอันดับ 3 เลือก อีเนส คานเตอร์ ซึ่งตามทรรศนะของ เซอร์ ชาร์ลส บาร์คลีย์ ตำนานแห่ง ฟีนิกซ์ ซันส์ เผยไว้กับสื่อทำนองว่าถ้าเป็นตนจะใช้สิทธิดราฟท์อันดับ 1 เลือกเซ็นเตอร์ชาวเติร์ก เนื่องจาก คานเตอร์ ถือว่าครบเครื่องแกร่งในแม่นนอกตามสไตล์บาสฯ ยุโรป คงเข้ามาเสริมงาน เมห์เมต โอคัวร์ เซ็นเตอร์รุ่นพี่ในนามทีมชาติได้มากทีเดียว สำหรับ แจซซ์ หลังหมดยุค "บิ๊กทรี" คาร์ล มาโลน, จอห์น สต็อคตัน, เจฟฟ์ ฮอร์นาเซ็ค แฟนๆ ห่อเหี่ยวอยู่พักใหญ่จนมามี เดอรอน วิลเลียมส์ ขึ้นมาเป็นความหวัง แต่ฤดูกาลที่ผ่านมาทีมตัดสินใจครั้งสำคัญเทรด วิลเลียมส์ ให้แก่ นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ การได้มาซึ่ง เดวิน แฮร์ริส กับ เดอร์ริค เฟเวอร์ส อาจกู้วิกฤติไม่ได้ในทันทีทันควัน แต่ดูเหมือนแฟรนไชส์แห่งนี้กำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาอีกครั้ง น่าเสียดายหากยังมี เจอร์รี สโลน คุมทัพ แจซซ์ ยุคใหม่คงน่าดูชมกว่านี้
ปิดท้ายเรามาสรุปการดราฟท์กันคร่าวๆ ปีนี้มีผู้เล่นต่างชาติถูกเลือกให้มาขุดทองใน NBA แค่รอบแรกก็ปาเข้าไป 8 คน (รวมสองรอบ 15 ราย) ต้องมาดูกันว่าในระยะยาวแฟรนไชส์ใดจะตาถึงเหมือน ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ที่ไว้ใจในตัว เดิร์ก โนวิตซกี ฟอร์เวิร์ดซูเปอร์สตาร์ชาวเยอรมันที่พาทีมถึงแชมป์เป็นสมัยแรกในประวัติศาสตร์ ส่วนพวกดาวรุ่งมะกันไม่ว่าจะเป็น เออร์วิง, วิลเลียมส์, ไนท์, จิมเมอร์ เฟรเดตต์ หรือพี่น้อง "มาร์คีฟฟ์-มาร์คัส" ต้องพิสูจน์ฝีมือให้ได้เพื่อลบข้อครหาที่หลายคนปรามาสว่านี่เป็นปีที่มีตัวเก่งนับหัวได้ เพราะดาวเด่นจากมหาวิทยาลัยอีกหลายคนตัดสินใจเรียนต่อไม่เข้าลีก เหตุจากส่องกล้องดูแล้วมีแนวโน้มล็อกเอาท์ค่อนข้างสูงนั่นเอง