“ฉลามชล”ชลบุรี เอฟซี โชว์ฟอร์มปิดท้ายไทยลีกเลกแรก ด้วยการบุกมาเอาชนะ อาร์มี ยูไนเต็ด 4-3 พร้อมเก็บแต้มไล่ตามจ่าฝูงอย่างบุรีรัมย์ พีอีเอ เหลือ 7 แต้ม ไปอย่างสุดมันส์ ในศึกฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกนัดตกค้าง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 25 มิ.ย. 54
ผลฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก
อาร์มี ยูไนเต็ด 3-4 ชลบุรี เอฟซี
ฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกนัดตกค้างสุดสัปดาห์ “สุภาพบุรษวงจักร”อาร์มี ยูไนเต็ด อันดับ 9 ของตาราง เปิดสนามกีฬากองทัพบก รับการมาเยือนของ “ฉลามชล”ชลบุรี เอฟซี รองจ่าฝูงของไทยพรีเมียร์ลีก
เริ่มเกม ทีมเยือนที่วันนี้มาในชุดสีขาวล้วน เปิดฉากบุกเข้าใส่ก่อน แต่จังหวะปิดสกอร์ยังไม่เอื้อเท่าที่ควร นาทีที่ 9 เจ้าบ้านหวุดหวิดเสียประตู ไดกิ กองหลังของชลบุรี ได้โอกาสเปิดฟรีคิกจากมุมกรอบเขตโทษด้านขวา บอลลอยโด่งไปหาผู้เล่นของอาร์มีฯ สราวุธ หมายจะวิ่งเข้าไปเคลียร์บอลแต่ก็เกือบสกัดเข้าประตูตัวเอง โชคดีที่บอลออกหลังไปก่อน
ด้านอาร์มีฯ ที่ดูเงียบๆในช่วงแรก กลับได้ประตูขึ้นนำก่อน นาทีที่ 13 โทนี กองกลางของทีม วิ่งกระชากบอลหลุดเดี่ยวไปทางกราบซ้าย ก่อนเปิดตัดเข้ากลางให้เลอันโดร กระทุ้งเข้าไปไม่มีเหลือ 1-0 เล่นเอากองเชียร์เจ้าบ้านได้เฮลั่นสนาม
พอเสียประตู ฉลามชล เดินเครื่องเปิดเกมบุกไม่หยุดพัก และก็มาสมหวังในนาทีที่ 19 ชลบุรีได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 โดยได้จากจังหวะเทิดศักดิ์ เล่นลูกกลางอากาศ ก่อนโหม่งชงไปเข้าทางให้ เนย์ ฟาเบียโน วิ่งมาโหม่งบอลกดลงพื้น เกมกลับมาเสมอกัน
เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง ชลบุรีได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลกด้านขวาของกรอบเขตโทษ เป็นทางไดกิเจ้าเก่าที่รับหน้าที่เปิดเกมจังหวะนี้ แต่เปิดบอลไปเข้ามือของนราธิป นายด่านของเจ้าบ้าน ต่อมานาทีที่ 33 กองหลังเจ้าบ้านจ่ายบอลพลาด เป็นทางฟาเบียโน ที่วิ่งมารับบอล และจ่ายทะลุช่องให้พิภพ อ่อนโม้ แต่นราธิปยังวิ่งออกมาตะครุบบอลไว้ได้ทัน พลาดโอกาสพลิกนำอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก ชลบุรี ก็มาบวกประตูพลิกนำได้สำเร็จ จากจังหวะเล่นเกมสวนกลับ เป็นทาง สุรีย์ สุขะ แบ๊กขวาของทีม วิ่งกระชากบอลแบบโล่งๆ ก่อนล็อกหลบผู้รักษาประตู และแปด้วยขวาเข้าไป ทำเอากองเชียร์ฉลามชลได้เฮลั่น และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 1-2
เปิดฉากครึ่งหลังได้ไม่นาน ฉลามชลก็ได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 จากลูกเปิดมุมด้านขวา ก่อนเป็นทางพิภพ วิ่งมาโหม่งบอลเต็มศรีษะเข้าประตูไป อาร์มีฯ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอีกครั้ง
เจ้าบ้านพยายามเล่นเกมบุกหวังทวงประตูคืน แต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ นาทีที่ 53 จักรพงษ์ ลากบอลจากริมเส้นด้านขวา ก่อนตัดเข้ากลางและสับไกด้วยขวา แต่บอลวิ่งหลุดเสาแรกไปอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่นาทีที่ 70 ชลบุรีที่ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ ก็เกือบได้ประตูฉีกห่าง เทิดศักดิ์ ลากบอลจากแดนกลาง ก่อนจ่ายทะลุช่องให้พิภพสอดเข้าไปทำประตู แต่ผู้กำกับเส้นยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน ส่วนนาทีที่ 73 เจ้าบ้านน่าได้ประตูไล่หลัง เลอันโดร ลากบอลจากริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนป้ายบอลออกด้านขวาให้มงคล ทศไกร กองหน้าตัวสำรองจับบอลหลุดเดี่ยว แต่กลับลื่นล้มในจังหวะสุดท้าย ทำให้สกอร์ยังคงเท่าเดิม
อย่างไรก็ตาม เอ็มมานูเอล หอกหน้าตัวสำรองของอาร์มีฯ ก็ซัดประตูไล่มาเป็น 2-3 ในนาทีที่ 77 กลับมาจุดประกายความหวังให้ทีมและกองเชียร์เจ้าบ้านอีกครั้ง ต่อมาทีมเยือนใช้ความสดของผู้เล่น ส่งเอกพันธ์ อินทเสน ลงไปเล่นแทนเทิดศักดิ์ ใจมั่น ในนาทีที่ 80
ช่วง 5 นาทีสุดท้าย อาร์มีฯ ได้ลูกฟรีคิกระยะ 35 หลา และเป็นทางอัลเวส ที่รับหน้าที่สังหาร แต่บอลไปติดกำแพงผู้เล่นของทีมเยือน และก่อนหมดเวลาอนุชา กิจพงษ์ศรี กองหลังของชลบุรีฯ ก็มายิงประตูที่ 4 ให้กับทีม และทำท่าว่าจะจบเพียงเท่านั้น แต่ไม่นานนักเจ้าบ้านก็ได้จุดโทษในช่วงจวนหมดเวลา ก่อนเป็นทางเลอันโดร สวมบทเพชรฆาตซัดไล่มาเป็น 3-4 แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะเอาชนะได้ จบเกม ชลบุรี เอฟซี บุกมาเอาชนะ อาร์มี ยูไนเต็ด 4-3 ปิดฉากเลกแรกด้วยอันดับ 2 ตามหลังจ่าฝูงอย่างบุรีรัมย์ พีอีเอ 7 แต้ม ส่วนอาร์มี ยูไนเต็ด อยู่อันดับ 9 ของตารางเท่าเดิม