สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ บรรลุข้อตกลงจ้าง วินฟรีด เชเฟอร์ อดีตกุนซือทีมชาติแคเมอรูน ชุดฟุตบอลโลก 2002 เป็นกุนซือทีมชาติไทยคนใหม่เรียบร้อยแล้ว พร้อมเตรียมทำสัญญาจ้างเป็นเวลา 3 ปี ด้าน "บังยี" ตั้งความหวังพาทีมชาติไทยประสบความสำเร็จเป้าหมายแรก คือการเข้ารอบ คัดเลือกฟุตบอลโลก 10 ทีมสุดท้ายโซนเอเชีย
หลังจาก "ร็อบโบ" ไบรอัน ร็อบสัน ลาออกจากหน้าที่กุนซือทีมชาติไทยด้วยเหตุผลบางประการ ความคืบหน้าล่าสุด "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ สมัยที่ 3 ได้กล่าวถึงการทาบทาม "วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือชาวเยอรมัน วัย 61 ปี มาเป็นกุนซือทีมชาติไทย ว่า "ตอนนี้ตนพร้อมกับสภากรรมการชุดเก่าหลายๆ ท่าน ได้เห็นพ้องต้องกันว่าจะเลือก เชเฟอร์ มาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยอย่างแน่นอนแล้ว เนื่องจากเขามีคุณสมบัติสูงที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยจ้างโค้ชชาวต่างประเทศมาทำทีม ด้วยผลงานการทำสโมสรเล็ก ๆ ในเยอรมนี อาทิ คาร์ลสรูห์ และ สตุ๊ตการ์ต ให้ประสบความสำเร็จ รวมทั้งพาทีมชาติแคเมอรูน ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2002 และเป็นแชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์คัพ ด้วย ตนก็หวังว่า เชเฟอร์ จะนำพาทีมชาติไทยประสบความสำเร็จได้เช่นกัน"
"ผมคุยกับเชเฟอร์ว่าเป้าหมายแรกของเราคือการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชียในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งเราตั้งธงไว้ว่าจะต้องผ่านเข้าถึงรอบ 10 ทีมสุดท้ายของเอเชีย หากทีมชาติไทยแข็งแกร่งพอก็มีสิทธิ์ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้เช่นกัน โดยจะเป็นความสำเร็จครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพราะเมื่อถึงในรอบนั้นแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้หมด อีกอย่าง เชเฟอร์ เป็นโค้ชที่สร้างนักเตะให้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ดังจะเห็นว่าเขาสร้างนักเตะทีมชาติเยอรมนี มามากมาย อาทิ โอลิเวอร์ คาห์น, เมห์เม็ต โชล, มิชาเอล ทาร์นาท, เยนส์ โนว็อทนี ส่วนการเซ็นสัญญากับ เชเฟอร์ จะเซ็นกันเป็นเวลา 3 ปี สำหรับตัวเลขค่าจ้างนั้นถือเป็นมารยาทที่ไม่เปิดเผยกัน แต่ก็เป็นจำนวนที่ไม่น้อยเหมาะสมกับดีกรีของเขา" ประมุขลูกหนังไทยกล่าว
ทั้งนี้ นายวรวีร์ และ เชเฟอร์ ได้นัดลงนามในบันทึกช่วยจำ หรือ เอ็มโอยู ในช่วงค่ำของวันอังคารที่ 21 มิ.ย. ณ โรงแรม โกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน
