xs
xsm
sm
md
lg

ดีเดย์นายกฯใหม่ ตอบโจทย์ลูกหนังไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิรัช ชาญพานิชย์ อดีตผู้จัดการทีมชาติไทย
ASTVผู้จัดการรายวัน - สำหรับวันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2554 ถือเป็นวันสำคัญสำหรับวงการ "ลูกหนังไทย" เนื่องจากเป็นวันเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ หลังได้เลื่อนมาจากวันศุกร์ที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลจากมติสภากรรมการบริหารสมาคมฯ เล็งเห็นว่ามีสมาชิกบางส่วนถือใบมอบอำนาจเข้าร่วมประชุมซ้ำซ้อน อย่างไรก็ตามบุคคลใดจะได้มาเป็นประมุขคนใหม่นั้นคงไม่พ้น นายวรวีร์ มะกูดี เจ้าของเก้าอี้คนเดิม หรือ นายวิรัช ชาญพานิชย์, นายพิเชฐ มั่นคง และ นายกษิติ กมลนาวิน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นใครต่างก็มีเสียงสะท้อนจากหลายฝ่ายของคนกีฬาที่เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน

แม้จะถูกมองว่าเป็นคู่แข่งเบอร์หนึ่งแต่ นายวิรัช ชาญพานิชย์ ได้กล่าวในฐานะอดีตผู้จัดการทีมชาติไทยที่เคยพาทีมทะลุเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้าย ในศึกลูกหนังเวิลด์ คัพ 2002 โซนเอเชีย รอบคัดเลือก เพื่อเผยถึงความต้องการจากนายกสมาคมฯ คนใหม่ว่า "ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาในรูปแบบใด ผมอยากเห็นสมาคมฟุตบอลฯ มีการพัฒนาผลงานฟุตบอลทีมชาติไทยให้ดีขึ้นกว่านี้โดยเร็ว รวมถึงต้องมีการบริหารจัดการสมาคมฯ ให้โปร่งใส บุคคลภายนอกสามารถรู้เห็นได้ เช่น การอัพเดทข่าวสารหน้าเว็บไซต์ของสมาคมฯ และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถเข้ามาบริหารงาน"

"ขณะเดียวกันผมต้องการให้สมาคมฯ เล็งเห็นความสำคัญกับสโมสรฟุตบอลจากไทยพรีเมียร์ลีก และ ลีกภูมิภาค หรือ สโมสรสมาชิกโดยการให้สิทธิ์เข้ามาถือหุ้นร่วมบริหารงานด้วย อีกทั้งต้องการให้วางงบประมาณส่วนหนึ่งให้กลุ่มแฟนบอลได้จดทะเบียนเป็นสโมสรสมาชิกเพื่อร่วมกันสอดส่องดูแลรักษาวงการฟุตบอลไทยเจริญก้าวหน้าขึ้น ที่สำคัญเรื่องการเฟ้นหากุนซือทีมชาติชุดใหญ่นั้นผมในฐานะที่เคยเป็นผู้จัดการทีมเสนอให้สมาคมฯ จัดตั้งบอร์ดบริหารทีมชาติโดยเฉพาะ เพื่อทำแผนเสนอต่อสมาคมฯ ใช้ประกอบการพิจารณาเรื่องสำคัญต่างๆ ซึ่งต้องอาศัยบุคคลที่มีจิตวิญญาณและต้องสามารถเป็นที่ยอมรับของนักเตะได้"

ทางด้านตัวแทนจากสโมสรชื่อดังในไทยพรีเมียร์ลีก "เดอะ เซนต์" อรรณพ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทั่วไป "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ได้เรียกร้องสมาคมฯ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการฟุตบอลว่า "อันดับแรกที่สมาคมฯ ต้องให้ความสำคัญคือ เยาวชน เพราะขณะนี้ได้มีการจัดแข่งขันแข้งเยาวชนหลายทัวร์นาเมนต์ จึงต้องการให้ช่วยมาดูแลและสนับสนุนทั้งเรื่องงบประมาณตลอดจนสถานที่ จากนั้นต้องจัดอบรมโค้ชชาวไทยให้มีเอไลเซนส์ตามเกณฑ์มาตรฐานของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี เพื่อเป็นการต่อยอดการทำหน้าที่ของโค้ชชาวไทย อีกทั้งสมาคมฯ ควรเปิดโอกาสให้สโมสรไทยพรีเมียร์ลีกและดิวิชั่น 1 ได้เป็นส่วนหนึ่งในการบริหารงานตลอดจนการตัดสินใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลประโยชน์และลิขสิทธิ์"

สำหรับความต้องการที่อยากเห็นการพัฒนาทีมชาติ "คนโตเมืองชล" ได้แสดงความคิดเห็นว่า "สมาคมฯ ควรจะแต่งตั้งบอร์ดบริหารที่ดูแลฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างชัดเจน ไม่ใช่ต้องการเพียงแค่คนที่มีกระเป๋าหนักเท่านั้นที่จะได้เป็นผู้จัดการทีมชาติ ที่สำคัญการบริหารงานภายในสมาคมฟุตบอลฯ ต้องโปร่งใส ไม่ว่าจะเป็นบัญชีรายรับ-รายจ่าย จากองค์กรภาครัฐและเอกชน และต้องสามารถตอบโจทย์สังคมได้ในทุกเรื่อง อย่างไรก็ตามการแต่งตั้งกุนซือทีมชาติไทยรายใหม่ครั้งนี้ถือเป็นด่านแรกของการโชว์วิสัยทัศน์นายกสมาคมฯ คนใหม่ได้อย่างดี"

ในส่วนความต้องการของนักเตะในลีกสูงสุดของเมืองไทย "โอ๊ต" ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ กัปตันทีมชาติไทยในสังกัดสโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด เผยว่า "ผมต้องการให้สมาคมฯ วางโปรแกรมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์อย่างเป็นอย่างทางการ และจัดโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลในประเทศให้สมดุลกับทัวร์นาเมนต์ของทีมชาติ เพราะทุกวันนี้ลีกไทยกำลังก้าวหน้าอย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างไรก์ยังไม่ดีพอ"

ท้ายนี้ กัปตันทีมชาติไทย ได้วอนสมาคมฯ ให้จัดเวลาเพื่อการเก็บตัวฝึกซ้อมมากกว่าเดิม เนื่องจากทีมชาติไทยอยู่ในขั้นทรงตัวจนเข้าสู่ช่วงที่ตกต่ำมา 4-5 ปีแล้ว "หากเป็นไปได้ผมอยากให้มีสนามฝึกซ้อมประจำทีมชาติไทยที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้ เพราะปัจจุบันได้ฝึกซ้อมที่สนามโรงเรียนนานาชาติฮาโรว์ ซึ่งก็ดีกว่าสมัยก่อนจากที่ต้องเดินทางไปฝึกซ้อมในศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก ที่ต้องเดินทางไกลมาก นอกเหนือสิ่งอื่นใดผมต้องการผู้ฝึกสอนทีมชาติรายใหม่ที่สามารถเข้ามาช่วยพัฒนาทีมชาติไทยให้ดีขึ้นมากกว่าการฉุดให้ต่ำลง"

ซึ่งหลังจากนี้อีก 2 ปีข้างหน้าวงการ "ลูกหนังไทย" จะเดินหน้าหรือถอยหลังต่อไปในลักษณะใดก็อยู่ในกำมือของนายกสมาคมฯ ที่ได้จากการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่างไรก็ตามจากเสียงสะท้อนของคนลูกหนังส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการเพียงแค่นายกสมาคมฯ ที่มีความสามารถโดดเด่นด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น หากแต่พวกเขาต้องการให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารงานที่โปร่งใส หรือ เฟ้นหายอดกุนซือทีมชาติไทย ทว่าที่สำคัญต้องสามารถกอบกู้ชื่อเสียงขุนพล "ช้างศึก" ชุดใหญ่ให้กลับมากระหึ่มในเวทีอาเซียนได้อีกครั้งเหมือนในอดีต
อรรณพ สิงห์โตทอง แห่งค่าย ฉลามชล
ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ กัปตันทีม ช้างศึก
อนาคตทีมชาติไทยฝากไว้กับนายกลูกหนังคนใหม่
กำลังโหลดความคิดเห็น