หัวเดียวกระเทียมลีบ ฤาจะงัด "มาเฟีย ฟีฟา"

เอเยนซี - ถึงแม้ อังกฤษ ผู้ผิดหวังในการยื่นข้อเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2018 พยายามออกมาแฉความโสมม กระบวนการทุจริตต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา แต่ก็ไม่สามารถเลื่อยขาเก้าอี้ เซปป์ แบล็ตเตอร์ ลงได้ ท้ายที่สุดบรรดาชาติสมาชิกยังไว้วางใจให้ขาใหญ่ชาวสวิสวัย 75 ปี ดำรงตำแหน่งประธานฟีฟา เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน ด้วยคะแนนเสียงเกือบเอกฉันท์ 186 จาก 203 เสียง

เมื่อคืนวันพุธที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟา) จัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญขึ้นที่นครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีวาระสำคัญคือ การเลือกตั้งประธานคนใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ต่อจาก เซปป์ แบล็ตเตอร์ ที่มีคิวหมดวาระไปในปี 2011 นี้ ซึ่งก่อนเลือกตั้ง เดวิด เบิร์นสไตน์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) มีการขอมติในที่ประชุมเพื่อให้เลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ออกไป สืบเนื่องจากองค์กรลูกหนังโลกกำลังอยู่ในช่วงวิกฤตจากข่าวฉาวที่ถลาโถม ทั้งกรณีการติดสินบนขอเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2018 และ 2022 รวมถึงการที่ โมฮัมเหม็ด บิน ฮัมมัม ประธานสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ถอนตัวจากการเลือกตั้ง ด้วยเหตุโดนตั้งข้อหาฮั้วการเลือกตั้งกับ แจ็ค วอร์เนอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลคอนคาเคฟ ทำให้ผู้สมัครจึงเหลือเพียง แบล็ตเตอร์ รายเดียว

อย่างไรก็ดี แบล็ตเตอร์ พิสูจน์ให้เห็นว่ามีอำนาจมากเพียงใดใน "ฟีฟา" เมื่อชาติสมาชิกเกรงใจโหวตให้มีการเลือกตั้งในคราวนี้ถึง 172 เสียง มีเพียง 17 เสียงเท่านั้นที่ต้องการให้เลื่อนการลงมติออกไปก่อน เมื่อถึงช่วงสำคัญในการลงคะแนน ก็เป็นไปตามคาด แบล็ตเตอร์ ได้รับความไว้วางใจอย่างล้มหลามถึง 186 จาก 203 ให้ยึดเก้าอี้บิ๊กบอสเป็นสมัยที่ 4 ดำรงตำแหน่งสืบไปถึงปี 2015 ตามวาระการทำงาน 4 ปีเต็ม ส่วนกระแสที่คลื่นใต้น้ำหวังเห็น "มาเฟียใหญ่แห่งฟีฟา" แสดงสปิริตอำลาตำแหน่งกลางครันในปี 2013 ก็เงียบเข้ากลีบเมฆในทันใด

ภายหลัง แบล็ตเตอร์ ลั่นวาจาให้ชาติสมาชิกสบายใจได้ว่า "เราจะนำนาวาที่ชื่อว่าฟีฟ่ากลับมาอยู่ในทิศทางที่เหมาะสมบนความขาวสะอาดและโปร่งใส ซึ่งมันอาจจะต้องใช้เวลาแต่ก็เป็นสิ่งที่เราพึงกระทำ อย่างไรก็ตาม รากฐานของเราแข็งแกร่งอยู่แล้ว เนื่องจากองค์กรแห่งนี้มีความมั่นคงยิ่ง"

ขณะเดียวกัน แบล็ตเตอร์ ยังโต้กระแสที่ว่าสปอร์เซอร์รายใหญ่ไม่ว่าจะเป็น โคคา-โคลา, วีซา, เอมิเรตส์ หรือ อาดิดาส ต่างพร้อมใจเตรียมยกเลิกการสนับสนุนฟีฟา "ไม่มีสปอนเซอร์สักรายบอกว่าพวกเขาจะถอนตัว มีเพียงแต่กังวลใจในเรื่องที่เกิดขึ้น แต่หลังจากการตัดสินใจในวันนี้ เราพร้อมทำให้พวกเขากลับมามีความสุขกันอีกครั้ง"

ด้าน เบิร์นสไตน์ กล่าวก่นการเลือกตั้งว่ามันย่อมรู้ผลแน่ชัดอยู่แล้ว เพราะมีแต่ช่องกาเพียงชื่อของ "แบล็ตเตอร์" อยู่ในใบลงคะแนน "นี่เป็นการเลือกตั้งที่มีเพียงม้าแข่งอยู่ตัวเดียว เมื่อมีผู้แข่งขันเพียงรายเดียว เขาก็ย่อมต้องได้ตำแหน่งอยู่แล้ว"

แต่ดูเหมือนการทิ้งทุ่นระเบิดครั้งนี้ ความเสียหายกลับย้อนสู่อังกฤษโดยตรง เมื่อหลายชาติสมาชิกไม่พอใจการเปิดโปงของสื่อเมืองผู้ดี โดยเฉพาะ ฮูลิโอ กรอนโดนา รองประธานอาวุโสของฟีฟา ชาวอาร์เจนไตน์ ที่เผยว่า "เรามักถูกโจมตีจากอังกฤษในเรื่องที่ล้วนแต่เป็นคำโป้ปด มันช่างน่าผิดหวังและสร้างความวุ่นวายให้แก่ครอบครัวฟีฟา"

ขณะที่ อังเคล มาเรีย บียาร์ ยอนา สมาชิกคณะกรรมการฝ่ายบริหารของฟีฟา ชาวสเปน ทิ้งท้ายว่า "ปัญหามันมาจากกระแสวิจารณ์จากหนังสือพิมพ์ที่มาจากชาติซึ่งพ่ายแพ้การเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลก พวกเขาก่ออาชญากรรมขึ้นในองค์กรของเรา มีการกล่าวหา โจมตีความเป็นอิสระของเรา คงพอกันเสียที"