xs
xsm
sm
md
lg

บังอาจท้าทาย ก็ต้องเจอยุทธการกวาดล้าง / กษิติ กมลนาวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน

บ่ายวันนี้ แฟนบอลทั่วโลกคงจะทราบกันว่า ใครจะเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา เนื่องจากการเลือกตั้งถูกกำหนดไว้ในวาระการประชุมใหญ่ ครั้งที่ 61 ที่ ซูริค ประเทศสวิส ซึ่งเดิมมีผู้ลงสมัครชิงชัย 2 คนคือ โชเซ็ฟ บลัทเทอร์ ( Joseph Blatter ) ประธานฟีฟาคนปัจจุบัน ชาวสวิส วัย 75 ปี กับ โมฮัมเหม็ด บิน ฮัมมัม ( Mohammed bin Hammam ) ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ชาวกาตาร์ วัย 62 ปี แต่ก่อนที่การเลือกตั้งจะมีขึ้นเพียง 3 วัน บิน ฮัมมัม ได้ตัดสินใจประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งดังกล่าวเสียแล้ว ทำให้ เซ็พ บลัทเทอร์ จ่อตำแหน่งประธานฟีฟาเป็นสมัยที่ 4 อย่างไร้ผู้ใดอาจหาญมาท้าทายอำนาจ

ความจริง บิน ฮัมมัม ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของ ฟีฟา มาตั้งแต่ปี 1996 เป็นตัวจักรสำคัญคนหนึ่งในการรวบรวมเสียงสนับสนุน เซ็พ บลัทเทอร์ ขึ้นเป็นผู้นำองค์กรสูงสุดของฟุตบอลในการเลือกตั้งปี 1998 และ 2002 และเมื่อเดือนสิงหาคม 2010 เขายังเคยกล่าวว่า จะไม่ลงแข่งกับประธานชาวสวิสคนนี้ แต่จะสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกในสมัยหน้าด้วยซ้ำ โดยย้ำว่า บลัทเทอร์ เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา

แต่หลังจากเกิดปัญหาระหองระแหงในคณะกรรมการบริหารฟีฟา ซึ่งตามข่าวที่เผยแพร่ต่อสาธารณะนั้นมุ่งไปเพียงเรื่องความไม่โปร่งใสในการบริหารงานเป็นเหตุผลหลัก อย่างไรก็ตาม บิน ฮัมมัม ก็ประกาศตัวขอลงสู้กับประธานชาวสวิส โดยกล่าวให้สัมภาษณ์อย่างรักษามารยาทต่อสื่อมวลชลว่า เซ็พ เป็นคนที่มีประสบการณ์สูง เป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้วงการฟุตบอลพัฒนาไปทั่วโลก แต่เขาเชื่อว่า ทุกสิ่งย่อมมีจุดสิ้นสุด ต้องถึงคราวที่จะมีหน้าใหม่ ทายาทรุ่นใหม่เข้ามา และเราต้องลองเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ดี

เท่านั้นแหละครับ บิน ฮัมมัม และพวกพ้องน้องพี่เจอหมัดสวนทันที ยุทธการกวาดล้างเริ่มขึ้นเป็นระลอก โดย ชัค เบลเซอร์ ( Chuck Blazer ) บอร์ดบริหารฟีฟา ชาวอเมริกา ออกมากล่าวหา บิน ฮัมมัม ว่า ทำการทุจริตโดยได้เสนอให้สินบนในการคัดเลือกเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 และ 2022 ซึ่งงานนี้ แจ็ค วอร์เนอร์ ( Jack Warner ) รองประธานฟีฟา ชาวทรินิแด็ด แอนด์ โทเบโก ซึ่งเป็นเพื่อนซี้ของ บิน ฮัมมัม ก็โดนหางเลขไปด้วย ที่สำคัญเรื่องนี้อาจส่งผลถึงการได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ของ กาตาร์ เองที่ได้มาอยู่ในมือแล้วอาจหลุดลอยไปง่ายๆ

นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ฟีฟา แถลงว่าได้เริ่มกระบวนการสอบสวนความประพฤติเจ้าหน้าที่ 4 คนคือ บิน ฮัมมัม แจ็ค วอร์เนอร์ เด็บบี มิงเกล และ เจเซิน ซิลเวสเตอร์ ในข้อหาละเมิดจริยธรรมของ ฟีฟา มีการเสนอหยิบยื่นผลประโยชน์ให้เพื่อการเลือกตั้งประธานฟีฟาในระหว่างการประชุมที่ บิน ฮัมมัม กับ วอร์เนอร์ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10-11 พฤษภาคม แถมเมื่อ 2 วันก่อน มีหลักฐานสำคัญที่ บิน ฮัมมัม ดิ้นไม่หลุดคือ เฟร็ด ลุน ( Fred Lunn ) รองประธานสมาคมฟุตบอลแห่งบาอามาส ( Bahamas Football Association ) ออกมายอมรับว่าได้รับเงินสดๆ 40,000 ยูเอส ดอลเลอร์ส แลกกับการลงคะแนนให้ บิน ฮัมมัม อีกด้วย

สถานการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม บิน ฮัมมัม และผองเพื่อนโดนคำสั่งของ คณะกรรมการด้านจริยธรรมจับแขวนหมด โดยห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลทั่วโลกอย่างเด็ดขาดเป็นการชั่วคราว โดยให้มีผลทันที คณะกรรมการชุดนี้มี เพทรัส ดามาเซ็บ ชาวนามีเบีย เป็นรองประธาน ส่วนกรรมการนั้นประกอบด้วย ฆวน เปโดร ดามิอานี ชาวอูรูกวัย ซนเดรอร์ คาฟยอรด์ ชาวนอร์เวย์ เลส เมอร์เรย์ ชาวออสตราเลีย และ โรแบร์ ตอรเรส ชาวกวม

ดูจากชื่อ สัญชาติแล้ว ท่านผู้อ่านคงพอเดาได้ว่า ทุกทวีปในโลกต่างแสดงตนเข้าพวกกับ เซ็พ บลัทเทอร์ หมด ยกเว้นทวีปเอเชียของเรา ความจริงในการต่อสู้นั้น ถ้า บิน ฮัมมัม เป็นฝ่ายชนะก็คงไม่ต้องเกรงกลัวอะไร แต่เขาคงประเมินกำลังแล้ว เสียงสนับสนุนสู้ไม่ได้ สู้ไปก็รังแต่จะโดนทำลายให้พินาศ โดยเฉพาะเรื่องการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกเป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้าเกิดมีการคัดเลือกกันใหม่ กาตาร์ คงหมดสิทธิ์อย่างแน่นอน ดังนั้น บิน ฮัมมัม ขอกลับมานอนเลียแผลอย่างสงบดีกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น