ลูอิส แฮมิลตัน อดีตแชมป์โลกเอฟวันปี 2008 สังกัดทีมแม็คลาเรน-เมอร์เซเดส ออกโรงตัดพ้อผ่านสื่ออีกครั้งด้วยการเปรยว่าหากสไตล์การขับของตัวเองยังคงถูกจ้องจับผิดโดยกรรมการบางทีอาจถึงเวลาที่จะต้องแขวนพวงมาลัย หลังเจ้าตัวออกอาการฉุนขาดจากโทษปรับถึง 2 ครั้งในศึกโมนาโก กรังด์ปรีซ์
นักซิ่งผิวสีจากอังกฤษ ออกอาการหัวเสียตลอดการแข่งขันเอฟวันสนามที่ 6 รายการโมนาโก กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวถูกปรับโทษไปถึง 2 ครั้งจากการแซงคู่แข่งจนทำให้รถของคู่แข่งอย่างเฟลิเป มาสซา และปาสตอร์ มัลโดนาโด ได้รับความเสียหาย และออกมาตัดพ้อหลังจบเรซว่าบางทีอาจเป็นเพราะการที่ตัวเองเป็นคนผิวสีจึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ
ล่าสุดแฮมิลตันให้สัมภาษณ์เปิดใจอีกครั้งผ่าน "เดอะซัน" สื่อเมืองผู้ดีว่า "หากผมต้องลงแข่งขันโดยที่ต้องมาเข้าๆออกๆพิตจากการถูกปรับโทษมันคงเป็นเรื่องที่ไม่สนุกแน่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นผมขอเลือกที่จะไม่แข่งเอฟวันเสียจะดีกว่า เพราะเป้าหมายของผมคือชัยชนะ สิ่งที่ทุกคนเห็นมันเกิดจากความรักในกีฬาแข่งรถของผมทั้งสิ้น และที่โมนาโกน้อยคนนักที่จะแซงคู่แข่งได้ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผมพยายามทำมัน"
พร้อมกันนี้นักขับจอมบู๊ยังได้ทวิตข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ของตัวเองด้วยการขอโทษไปยังมาสซาและมัลโดนาโด สองนักขับที่ต้องออกจากการแข่งขันเพราะความบ้าบิ่นของแฮมิลตันเองว่า "ด้วยความเคารพ ผมอยากจะขอโทษไปยังเฟลิเปและปาสตอร์ ซึ่งเป็น 2 นักขับชั้นนำของวงการ และขอยืนยันว่าผมไม่ได้มีเจนตาทำร้ายใคร"
ก่อนหน้านี้มาสซา ที่ต้องออกจากการแข่งขันเนื่องจากถูกรถของแฮมิลตันปาดหน้าแซงในโค้งคาสิโน ได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมหลังมองว่าโทษปรับ 20 วินาทีของแฮมิลตันนั้นเบาเกินไป ขณะที่มัลโดนาโด รุกกีจากทีมวิลเลียมส์ ก็ออกมาโวยแฮมิลตันเช่นกันว่าสไตล์การขับที่ก้าวร้าวไม่น่าจะเกิดขึ้นกับอดีตแชมป์โลกปี 2008
