บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ผลิต "แสงโสม" ที่ให้การสนับสนุนนักแทงไทยไปร่วมการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกเป็นเวลานานถึง 4 ปี ฉีกสัญญาถอนสปอนเซอร์ หนุนนักแทงไทยลุยอาชีพโลก หลังผลงานที่ผ่านมาย่ำแย่ ด้าน "บิ๊กสิน" สินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมฯ รับเด็กขาดวินัยและความทุ่มเทที่สำคัญเกิดช่องว่างระหว่างเยาวชนถึงชุดใหญ่ คาดไม่นานจะเดินทางเข้าพบ "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธ์ จุลเกษม ผู้ว่า กกท. เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ร่วมกัน
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2554 นายสินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2554 ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอรีน โดยมีสมาชิกสโมสรร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน
ที่ประชุมได้สรุปผลงานในช่วงรอบปีที่ผ่านมาทั้งการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพในประเทศ รายการ "แสงโสมไทยแลนด์แร็งกิ้ง" ปีละ 6 รายการ และการส่งนักกีฬาเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ อาทิ เยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย, เยาวชนชิงแชมป์โลก, เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กวางโจว ประเทศจีน โดยเฉพาะความภาคภูมิใจในตัวของ "แจ๊ค สระบุรี" เดชาวัตร พุ่มแจ้ง ที่สามารถคว้าแชมป์สนุกเกอร์สมัครเล่นโลกปี 2010 ที่ซีเรีย มาครองได้สำเร็จ นับว่า เป็นนักสอยคิวไทยคนที่ 7 ที่คว้าถ้วยใบนี้ได้
รวมไปถึงความสำเร็จของ "กร นครปฐม” ภาสกร สุวรรณวัฒน์ ที่คว้าแชมป์เอเชียมาได้เมื่อปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ที่ประเทศอินเดีย จนทำให้ทั้งคู่ได้สิทธิ์ไปร่วมการแข่งขันสนุกเกอร์เก็บคะแนนสะสมอาชีพโลกฤดูกาล 2011/2012 ที่ประเทศอังกฤษทันที พร้อมกับ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" รัชพล ภู่โอบอ้อม ที่ได้ตั๋วไวลด์กราด์จากสมาคมสนุกเกอร์อาชีพโลกไปก่อนหน้านี้
ด้านงบดุลสมาคมสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธัรวาคม 2553 สมาคมมีรายได้ 40,300,398 บาท รายจ่าย 38,021,828 บาท สรุปมีรายได้มากกว่ารายจ่าย 2,278,569 บาท พร้อมแต่งตั้งให้ สำนักงานภักดีและเพื่อน เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีอีกครั้ง
หลังการประชุม "บิ๊กสิน" นายสินธุ เปิดเผยว่า "ปีนี้เราไม่ได้จัดการแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์โลก ที่เคยจัดมา 3 ปีติดต่อกัน เนื่องจากสมาคมฯ มีภาระกิจใหญ่จัดการแข่งขันชิงแชมป์โลก รายการ "คิงส์ ออฟ คิงส์ โทรฟี" เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง 84 พรรษา พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งในอดีตเราเคยจัดรายการนี้มาแล้วเมื่อ 15 ปีก่อน จากนั้นมาก็ไม่มีใครกล้าจัดอีก เพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก ปีนี้เลยกลับมาจัดอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 11-17 กรกฏาคมนี้ ที่โรงแรมเซ็นทารา ประตูน้ำ โดยมี บีอีซี เทโร เป็นผู้จัดการเองทั้งหมด บทบาทของสมาคมฯ คือ เรื่องของเทคนิคและการประสานงานกับนักกีฬาต่างประเทศเท่านั้น พร้อมกันนี้อยากเชิญชวนให้ทุกคนไปชมการแข่งขันที่สนามด้วยตัวเอง เพราะมีนักแทงมือพระกาฬท็อประดับโลกเดินทางมาทั้งสิ้น
นอกจากนี้สมาคมฯ ได้รับแจ้งจาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ผลิต "แสงโสม" ที่ให้การสนับสนุนนักแทงไทยไปร่วมการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกเป็นเวลานานถึง 4 ปี ที่ขอยกเลิกสัญญาไม่ให้การช่วยเหลือเรื่องงบประมาณปีละ 3-4 ล้านบาท เฉลี่ยต่อคนหัวละ 1.5 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากนักสอยคิวที่สมาคมฯ ส่งไปไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร สาเหตุคงเป็นเพราะความมุ่งมั่นและระเบียบวินัยของนักสนุกเกอร์ไทยไม่ไดีพอ บางคนพอเริ่มดังและมีชื่อเสียงแล้วก็ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลตัวเอง จนผลงานความสำเร็จทุกอย่างล้มเหลวจนเป็นเหตุให้สปอนเซอร์รายใหญ่ถอนตัวในครั้งนี้ จากนี้ไปคงเป็นหน้าที่ของตัวเองที่จะต้องวิ่งหาสปอนเซอร์เจ้าอื่นเข้ามาช่วยเหลือต่อ
"ต้องยอมรับว่า เวลานี้นักสนุกเกอร์ระดับเยาวชนของไทยเราตกต่ำเป็นอย่างมาก ดั้งนั้นช่องว่าง ระหว่างเยาวชนไปถึงชุดใหญ่จึงเปิดกว้างมากขึ้น หากไม่เร่งดำเนินการตั้งแต่บัดนี้ โอกาสที่วงการสอยคิวไทยจะเข้าสู่ขั้นวิกฤติเป็นไปได้สูง ที่ผ่านมานักแทงไทยในระดับเยาวชนที่พัฒนาไปจนถึงทีมชาติชุดใหญ่ ก็เพราะศูนย์ฝึกพัฒนาเพื่อความเป็นเลิศแห่งนี้ หากได้รับงบประมาณปีละ 2 ล้านบาทเราสามารถดำเนินการทุกอย่างและสร้างนักกีฬาที่มีฝีมือขึ้นมาประดับวงการได้ คาดว่า ในเร็ววันนี้จะเข้าไปพบ "บิ๊กหนุ่ม" นายกนกพันธ์ จุลเกษม ผู้ว่า กกท.ให้พิจารณาเรื่องนี้โดยด่วน" นายกสอยคิวไทย กล่าวทิ้งท้าย
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2554 นายสินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2554 ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอรีน โดยมีสมาชิกสโมสรร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน
ที่ประชุมได้สรุปผลงานในช่วงรอบปีที่ผ่านมาทั้งการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพในประเทศ รายการ "แสงโสมไทยแลนด์แร็งกิ้ง" ปีละ 6 รายการ และการส่งนักกีฬาเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ อาทิ เยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย, เยาวชนชิงแชมป์โลก, เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กวางโจว ประเทศจีน โดยเฉพาะความภาคภูมิใจในตัวของ "แจ๊ค สระบุรี" เดชาวัตร พุ่มแจ้ง ที่สามารถคว้าแชมป์สนุกเกอร์สมัครเล่นโลกปี 2010 ที่ซีเรีย มาครองได้สำเร็จ นับว่า เป็นนักสอยคิวไทยคนที่ 7 ที่คว้าถ้วยใบนี้ได้
รวมไปถึงความสำเร็จของ "กร นครปฐม” ภาสกร สุวรรณวัฒน์ ที่คว้าแชมป์เอเชียมาได้เมื่อปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ที่ประเทศอินเดีย จนทำให้ทั้งคู่ได้สิทธิ์ไปร่วมการแข่งขันสนุกเกอร์เก็บคะแนนสะสมอาชีพโลกฤดูกาล 2011/2012 ที่ประเทศอังกฤษทันที พร้อมกับ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" รัชพล ภู่โอบอ้อม ที่ได้ตั๋วไวลด์กราด์จากสมาคมสนุกเกอร์อาชีพโลกไปก่อนหน้านี้
ด้านงบดุลสมาคมสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธัรวาคม 2553 สมาคมมีรายได้ 40,300,398 บาท รายจ่าย 38,021,828 บาท สรุปมีรายได้มากกว่ารายจ่าย 2,278,569 บาท พร้อมแต่งตั้งให้ สำนักงานภักดีและเพื่อน เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีอีกครั้ง
หลังการประชุม "บิ๊กสิน" นายสินธุ เปิดเผยว่า "ปีนี้เราไม่ได้จัดการแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์โลก ที่เคยจัดมา 3 ปีติดต่อกัน เนื่องจากสมาคมฯ มีภาระกิจใหญ่จัดการแข่งขันชิงแชมป์โลก รายการ "คิงส์ ออฟ คิงส์ โทรฟี" เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง 84 พรรษา พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งในอดีตเราเคยจัดรายการนี้มาแล้วเมื่อ 15 ปีก่อน จากนั้นมาก็ไม่มีใครกล้าจัดอีก เพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก ปีนี้เลยกลับมาจัดอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 11-17 กรกฏาคมนี้ ที่โรงแรมเซ็นทารา ประตูน้ำ โดยมี บีอีซี เทโร เป็นผู้จัดการเองทั้งหมด บทบาทของสมาคมฯ คือ เรื่องของเทคนิคและการประสานงานกับนักกีฬาต่างประเทศเท่านั้น พร้อมกันนี้อยากเชิญชวนให้ทุกคนไปชมการแข่งขันที่สนามด้วยตัวเอง เพราะมีนักแทงมือพระกาฬท็อประดับโลกเดินทางมาทั้งสิ้น
นอกจากนี้สมาคมฯ ได้รับแจ้งจาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ผลิต "แสงโสม" ที่ให้การสนับสนุนนักแทงไทยไปร่วมการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกเป็นเวลานานถึง 4 ปี ที่ขอยกเลิกสัญญาไม่ให้การช่วยเหลือเรื่องงบประมาณปีละ 3-4 ล้านบาท เฉลี่ยต่อคนหัวละ 1.5 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากนักสอยคิวที่สมาคมฯ ส่งไปไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร สาเหตุคงเป็นเพราะความมุ่งมั่นและระเบียบวินัยของนักสนุกเกอร์ไทยไม่ไดีพอ บางคนพอเริ่มดังและมีชื่อเสียงแล้วก็ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลตัวเอง จนผลงานความสำเร็จทุกอย่างล้มเหลวจนเป็นเหตุให้สปอนเซอร์รายใหญ่ถอนตัวในครั้งนี้ จากนี้ไปคงเป็นหน้าที่ของตัวเองที่จะต้องวิ่งหาสปอนเซอร์เจ้าอื่นเข้ามาช่วยเหลือต่อ
"ต้องยอมรับว่า เวลานี้นักสนุกเกอร์ระดับเยาวชนของไทยเราตกต่ำเป็นอย่างมาก ดั้งนั้นช่องว่าง ระหว่างเยาวชนไปถึงชุดใหญ่จึงเปิดกว้างมากขึ้น หากไม่เร่งดำเนินการตั้งแต่บัดนี้ โอกาสที่วงการสอยคิวไทยจะเข้าสู่ขั้นวิกฤติเป็นไปได้สูง ที่ผ่านมานักแทงไทยในระดับเยาวชนที่พัฒนาไปจนถึงทีมชาติชุดใหญ่ ก็เพราะศูนย์ฝึกพัฒนาเพื่อความเป็นเลิศแห่งนี้ หากได้รับงบประมาณปีละ 2 ล้านบาทเราสามารถดำเนินการทุกอย่างและสร้างนักกีฬาที่มีฝีมือขึ้นมาประดับวงการได้ คาดว่า ในเร็ววันนี้จะเข้าไปพบ "บิ๊กหนุ่ม" นายกนกพันธ์ จุลเกษม ผู้ว่า กกท.ให้พิจารณาเรื่องนี้โดยด่วน" นายกสอยคิวไทย กล่าวทิ้งท้าย